จับชีพจรนักการเมือง ในสภาวะไร้การเมือง

หัวข้อกระทู้ ใน 'การเมือง' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 4 มิถุนายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    [​IMG]

    หมายเหตุ : เกาะติดความเคลื่อนไหวนักการเมือง หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจรัฐบาล และเข้าปกครองและบริหารประเทศ โดยจะใช้เวลา 1 ปี 3 เดือน ปฏิรูปภาคส่วนต่างๆ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง

    พรรคประชาธิปัตย์

    รังสิมา รอดรัศมี
    อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม

    ในช่วงเวลาที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติเข้ามาดูแลบ้านเมืองเพื่อคืนความสุขให้กับประชาชน ในฐานะเคยร่วมต่อสู้กับ กปปส.มาตลอดระยะเวลา 6 เดือน ก็มีเวลาจัดการภาระหน้าที่มากขึ้น เพราะหลังจากที่เข้ารายงานตัวตามหมายเรียกของ คสช.แล้วถูกปล่อยตัวออกมา ก็มาเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ที่ต้องใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นอกจากนั้น ยังต้องมีเรื่องของธุรกิจส่วนตัวให้เคลียร์คือ ธุรกิจการให้เช่าสำนักงานหรืออาคารพาณิชย์ ต้องจัดการเรื่องเงินค่าเช่า หนี้สินต่างๆ เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจประเทศก็ค่อนข้างไม่ดี

    นอกจากเรื่องต่างๆ ที่ต้องรีบสะสางแล้ว ยังตั้งใจว่าในช่วงที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนราษฎรนี้อยากจะไปเรียนภาษาเพิ่ม เพราะประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพราะคิดว่าการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารนั้นเป็นเรื่องสำคัญต่อนานาชาติมาก ส่วนเรื่องของการดูแลสุขภาพร่างกายนั้น ไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากดิฉันเป็นพยาบาลก็ดูแลสุขภาพตัวเองดีอยู่แล้ว เว้นแต่หัวเข่าที่เคยได้รับการผ่าตัดเท่านั้น เพราะในช่วงระยะเวลาที่ได้เคลื่อนไหวทางการเมือง ได้เดินกับ กปปส.จนทำให้เกิดอาการอักเสบ แต่ว่าก็ไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากไปพบแพทย์เพื่อฉีดยาที่โรงพยาบาลจุฬาฯอย่างสม่ำเสมอ และยังมีการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพทุกสัปดาห์อีกด้วย

    ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต
    โฆษกพรรค

    ตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือผลกระทบอะไรมากกับชีวิตประจำวัน แต่รู้สึกถึงการมีเวลากับตัวเองมากขึ้น คือ 1.จากที่ต้องแถลงข่าวออกสื่อรายวัน ก็ต้องงดไป และ 2.การจัดรายการทางสถานีโทรทัศน์ก็ต้องงด อย่างไรก็ตาม ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ที่ผมได้มีบทบาททางการเมือง ทั้งในพรรคประชาธิปัตย์และในสภาผู้แทนราษฎรนั้น ยังไม่มีใบประกาศหรือปริญญาการศึกษาทางด้านกฎหมายเลย จึงตั้งใจว่าจะเรียนทางด้านกฎหมายด้วย

    มีกิจการด้านธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ ที่คุยกันกับเพื่อนๆ ว่าจะเริ่มดำเนินการเพื่อเปิดธุรกิจ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษารายละเอียดต่างๆ สำหรับครอบครัวนั้น เห็นได้ชัดเจนว่ามีเวลาให้กับลูกชายทั้ง 2 คน มากขึ้น เพราะวันนี้ก็ได้มารับมาส่งที่โรงเรียนด้วยตัวเอง และยังได้สอนการบ้านให้กับลูกอีกด้วย ทั้งนี้ ไม่ได้มีความกังวลใดๆ เป็นพิเศษในช่วงที่ต้องเว้นวรรคทางการเมือง เพราะเชื่อว่า คสช.จะเข้ามาทำงานให้กับประเทศได้เป็นอย่างดี

    พรรคเพื่อไทย

    ภูมิธรรม เวชยชัย
    เลขาธิการพรรค

    ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งที่แล้ว คือครั้งนี้ผมมีหน้าที่เป็นเลขาธิการพรรค ก็ยังมีภาระผูกพันที่ต้องสานต่อให้เสร็จ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เข้าไปทำอะไร เพราะก็คงต้องรอดูความชัดเจนจากทาง คสช.ก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะพรรคไม่ได้ถูกยุบ ในฐานะที่ได้รับมอบหมายมาก็อยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้เต็มที่ และทำให้สำเร็จลุล่วงก่อน นอกจากนี้ ก็คงจะดูแลสุขภาพของตัวเอง เพราะโรคเยอะมาก คงจะออกกำลังกาย และอ่านหนังสือ เพราะช่วงงานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ผ่านมาซื้อหนังสือมาเยอะมากแต่ก็ยังไม่มีเวลาได้อ่าน ก็คงจะได้เวลาอ่านหนังสือ และเคยสัญญากับครอบครัวไว้ด้วยว่าถ้ามีโอกาส ไม่ติดภารกิจจะไปพักผ่อนด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องดูก่อนเพราะยังไม่รู้เลยว่าการเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป


    นพดล ปัทมะ
    คณะกรรมการกิจการ

    ผมตั้งเป้าจะลดน้ำหนัก เอาสัก 7 กิโลกรัม และวางแผนจะทำสวนครัว สวนสมุนไพร และสวนดอกไม้หอมต่างๆ เพราะพื้นที่ที่บ้านเหลือนิดหน่อยเลยอยากจะทดลองปลูกดู นอกจากนี้ ก็จะอ่านหนังสือที่ยังไม่ได้อ่าน และหาโอกาสเที่ยวในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศสักหน่อยเพราะที่ผ่านมาเที่ยวแต่ต่างประเทศ อยากไปเที่ยวตามทุ่งนา ป่าไม้ เพราะช่วงนี้หน้าฝน อากาศกำลังดี ต้นไม้ก็กำลังเขียวสวย ในฐานะที่ตนเป็นคนบ้านนอก เป็นลูกชาวนา ก็อยากไปเที่ยวต่างจังหวัด

    ชูศักดิ์ ศิรินิล
    คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย

    มีแผนที่จะรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขียนเป็นหนังสือบันทึกโดยกล่าวว่า"ผมกำลังรวบรวมเหตุการณ์ต่างๆ อยู่ อยากจะบันทึกเก็บไว้ เขียนเป็นหนังสือ ที่เหลือก็ตีเทนนิสบ้าง เล่นกอล์ฟบ้าง หรือช่วยเลี้ยงหลาน"

    พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
    โฆษกพรรค

    ส่วนหนึ่งอยากเอาเวลาไปเที่ยว เพราะตอนที่ทำงาน มีงานทุกวัน ไม่ได้ไปไหนเลย ตอนนี้ก็อยากไปเที่ยว เอาเที่ยวในเมืองไทยก่อน 77 จังหวัดไปเลย และก็ไปเยี่ยมญาติด้วย เวลาอีกส่วนหนึ่งอยากเอาไปดูแลลูก ส่งลูกไปโรงเรียน หรือเล่นกับลูกบ้าง ส่วนที่ 3 อยากเอาเวลาไปเรียนภาษาเพิ่มเติม เพราะเมื่อก่อนไม่ค่อยมีเวลาได้ไปเรียน ซึ่งก็อยากเรียนทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ และอาจจะทำปริญญาเอกอีกสักใบหนึ่ง ซึ่งก็ต้องดูก่อนว่าเขามีให้ลงเรียนเมื่อไหร่อย่างไร

    นอกจากนี้ ก็วางแผนไว้ว่าจะออกกำลังกาย ฟิตแอนด์เฟิร์มหุ่นให้เหมือนตอนยังเป็นพระเอกหนัง และเพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงด้วย สำหรับกิจกรรมเพื่อส่วนรวมต่างๆ ก็ยังจะทำเหมือนเดิม เช่น ไปเป็นอาจารย์พิเศษ แต่คงจะไม่ได้สอนเรื่องการเมือง


    ขัตติยา สวัสดิผล
    อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ

    ก็ว่าจะตั้งใจมีน้องอย่างจริงจัง (หัวเราะ) แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า ต้องลุ้นพี่โอ๋ (นายวิรุฬห์ กีรติพานิช) ให้ขยันด้วย เพราะพี่โอ๋ไม่ค่อยได้อยู่ไทย เดินทางตลอด นอกจากนี้ ว่าจะกลับไปทำงานเดิมด้วย (เป็นทนาย) เพราะไม่อยากอยู่ว่างๆ เรียกว่าต้องเคาะสนิมเลยเพราะห่างมา 3 ปีแล้ว ช่วยเอาใจลุ้นด้วย

    พรรคภูมิใจไทย

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล
    หัวหน้าพรรค

    ที่บ้านมีกิจการอยู่หลายอย่าง ก็คงจะกลับไปทำมาหากินสักพัก หารายได้ก่อน และก็จะออกกำลังกายเพราะชอบออกกำลังกาย เช่น ว่ายน้ำ จ๊อกกิ้ง ตีกอล์ฟ ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้ออกกำลังกาย ได้พักผ่อน ได้หลบออกมาจากการเมือง เพราะช่วงนี้ไม่ใช่เวลาของพรรคการเมือง ซึ่งตอนที่ทำงานการเมืองก็จะไม่ค่อยมีเวลา และเครียด เวลาที่จะดูแลสุขภาพของตัวเองก็ไม่มี ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่จะได้ดูแลสุขภาพของตัวเองจริงๆ

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้