สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (สรอ.) เปิดข้อมูลความคืบหน้าของโครงการระบบกลุ่มเมฆสำหรับภาครัฐ (G-Cloud) ที่เปิดให้บริการเมื่อปี 2555 ว่าในปัจจุบันมีหน่วยงานราชการให้ความสนใจอย่างมาก และกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเผยแผนการขยายโครงการระลอกต่อไปแล้ว สรอ. อธิบายว่าการมาของระบบ G-Cloud เปลี่ยนวิธีการใช้งานระบบไอทีของหน่วยงานราชการ จากเดิมที่ใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นการนำระบบไอทีของหน่วยงาน มารันบน G-Cloud แทน ซึ่งในปัจจุบันยังเป็นข้อมูลบนเว็บไซต์ การแบ็กอัพข้อมูล และมีแผนจะขยายไปยังการใช้งานกับฐานข้อมูลทั่วไป จนถึงการนำระบบการบริการงานบางส่วนมาไว้บน G-Cloud ตามลำดับ เสียงตอบรับจากบรรดาหน่วยงานที่เข้าใช้ G-Cloud ระบุว่าสามารถใช้งานได้รวดเร็ว ทันที มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐาน รวมถึงขอใช้งานเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา หลายหน่วยงานระบุว่าหากทดสอบเป็นไปได้ด้วยดีจะขยายบริการที่ซับซ้อนมาลงบน G-Cloud และจะพัฒนาบริการส่วนอื่นๆ อย่างบนอุปกรณ์พกพาทั้งแบบเว็บแอพ และแอพทั่วไปมาด้วย เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการบนกลุ่มเมฆ สรอ. เตรียมเพิ่มความเข้มงวดในการใช้งานด้วยการเพิ่มการล็อกอินแบบสองชั้น (two factor authentication) และระบบรหัสผ่านครั้งเดียว (one time password) สำหรับฝั่งผู้ใช้งาน เพิ่มการเข้ารหัสพื้นที่เก็บข้อมูลในฝั่งแม่ข่าย และทำใบรับรอง (certificate) ร่วมกับ CSA ในชื่อ Cloud Star เพื่อหาบุคลากรที่เหมาะสมมาดูแลระบบ จากผลตอบรับดังกล่าว G-Cloud ในปัจจุบันมีหน่วยงานมาใช้บริการมากกว่า 400 ระบบด้วยกัน และคาดว่าจะสูงกว่า 1000 ระบบภายในปีหน้าที่จะถึงนี้ ในขณะที่งบลงทุนของ G-Cloud และ GIN (ฐานข้อมูลสำหรับภาครัฐ) ตั้งแต่เปิดโครงการมาใช้ไปแล้วทั้งสิ้น 100 ล้านบาท จะเพิ่มเป็น 300 ล้านบาทในปีนี้ และขยายวงเงินมากขึ้นตามการใช้งาน แต่โดยรวมแล้วประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนไอทีมากขึ้น แต่ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น จบจากเรื่องของ G-Cloud ไปแล้ว สรอ. ยังเผยไต๋ถึงแผนต่อไปสำหรับประชาชนอย่าง Government Apps Center (GAC) ศูนย์รวมแอพที่ใช้งาน G-Cloud เพื่อให้บริการประชาชน ซึ่งจะเปิดเผยข้อมูลอย่างละเอียดในงานของสรอ. ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งเราจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมมาให้อีกทีครับ ใครที่อยากเข้าไปดูก่อน สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ EGA, Government, Thailand