"ดิ เอราวัณ กรุ๊ป" เตรียมทบทวนเป้ารายได้ปีนี้จากเดิมมองรายได้โต 2% เหตุรอประเมินแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ เชื่อครึ่งปีหลังน่าจะฟื้นตัวได้ น.ส.กันยะรัตน์ กฤษณเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบ หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแม้ว่าตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวในรอบสัปดาห์จะลดลง ซึ่งปัจจุบันยังคงเป้ารายได้เติบโต 2% และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายหลังจากประเมินสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว “บริษัทอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ ว่านักท่องเที่ยวจะปรับตัวลดลงหรือไม่ เพราะการเปลี่ยนแปลงทางเกิดเมืองพึ่งเกิดได้ 1 สัปดาห์เท่านั้น แต่มองว่าภาพในระยะยาว การเข้าพักน่าจะฟื้นตัวไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ รวมถึงมีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจทยอยออกมา” เธอกล่าวว่า ในปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวน่าจะอยู่ที่ 26.2 ล้านคน ปรับลดลงจากปีก่อน 2% เนื่องจากปัญหาการเมือง ซึ่งจากการประเมินผลกระทบกับบริษัท ต่างกับการชุมนุมการเมืองปี 2553 ช่วงนั้นสถานการณ์รุนแรงแต่จบเร็ว ครั้งนี้ยาวนานและยืดเยื้อ มองว่าหากต่างประเทศปรับลดคำเตือนห้ามเข้าประเทศไทยจะช่วยลดแรงกดดันได้ อีกทั้งพฤติกรรมนักท่องเที่ยวมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมจองห้องพักล่วงหน้าหลายเดือน ปัจจุบันลดลงเหลือ 2 อาทิตย์ ช่วยให้การฟื้นตัวจะเร็วขึ้นได้ สำหรับกลยุทธ์ในการรับมือนั้น บริษัทใช้วิธีปรับลดรายจ่าย ให้พนักงานในพื้นที่ได้รับผลกระทบทางการเมือง ส่งไปทำงานในโรงแรมแห่งอื่นทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้เตรียมจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดการเข้าพักในตลาดนักท่องเที่ยวสิงคโปร์ ฮ่องกง มากขึ้น อนาคตบริษัทเน้นลงทุนในต่างประเทศ ในกิจการโรงแรมขนาด 3 ดาว ภายใต้แบรนด์ฮอปอิน ตั้งเป้าหมายภายในปี 2563 จะขยาย 30 แห่ง ใช้งบลงทุน 200 ล้านบาทต่อแห่ง เบื้องต้นจะเข้าไปลงทุนในประเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เพราะมีอัตราการเติบโตที่สูง ช่วยกระจายความเสี่ยงของรายได้ จากเดิมที่พึ่งพาในพื้นที่กรุงเทพ 61% ต่างจังหวัด 39% ให้เป็นพื้นที่กรุงเทพ 50% ต่างจังหวัด 30% อาเซียน 20% อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัท มีรายได้ 1,010 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23% มีกำไรสุทธิ 3 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 98% อัตราการเข้าพักห้องไตรมาส 1 ที่ 70% ลดลงจากปีก่อน 75% ปรับมากในพื้นที่กรุงเทพ แต่ต่างจังหวัดอัตราการเข้าพักยังอยู่สูงอยู่ ส่วนอัตราการเข้าทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 75% ลดลงจากปีก่อน 79% ด้านการปรับราคาค่าห้องพักยังปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยไตรมาสที่ 1 เพิ่มขึ้น 2% และในไตรมาสที่ 2 จะเพิ่มอีก 2% ทั้งปีนี้มองว่าจะเพิ่มขึ้นราคาห้องพักได้ 8% ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ 2% และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า เปิดเผยว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือน เม.ย.ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย จากการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สอดคล้องกับอัตราการเข้าพักของพื้นที่กรุงเทพฟื้นตัวมาอยู่ที่ 61% จากเดือนก่อน 52% แม้สถานการณ์จะดีขึ้น นักท่องเที่ยวกลุ่มเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ ขณะที่ภูมิภาคอื่นยังขยายตัว โดยเฉพาะในตลาดรัสเซีย แอฟริกา และสหรัฐ ทั้งนี้ มองว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 มีแนวโน้มจะขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว และผลกระทบจากปัญหาการเมือง อย่างไรก็ตามเราประเมินว่าบริษัท จะสามารถฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง จากการเปิดโรงแรมเพิ่มขึ้น 11 แห่ง จะช่วยพยุงรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งปีจะเพิ่มขึ้นราว 2-3% Tags : เอราวัณ • รายได้ • เศรษฐกิจ