ราคาทองคำพุ่ง รออีซีบีใช้คิวอีกระตุ้นเศรษฐกิจ นักวิเคราะห์มอง ราคามีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวราคาทองคำในนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือน นับจากเดือนส.ค. 2557 ที่ 1,305 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยอยู่ที่ ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยราคาทองคำในประเทศการเปลี่ยนราคาถึง ครั้ง ก่อนที่จะปิดการซื้อขาย บาทต่อบาททองคำ ปรับเพิ่มขึ้น บาท โดยปัจจัยสำคัญที่เข้าผลักดันคือ การเก็งกำไรการประชุมของธนาคารกลางยุโรปที่อาจอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเร็วในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งผลมาจากการเก็งกำไรในการประชุมของธนาคารยุโรปที่จะเกิดขึ้นในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี ที่ 22 ม.ค. นี้ โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารยุโรปอาจใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณ เพื่อทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว "ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็วในช่วงที่ผ่านมา เพราะนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ เพราะภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยในการประชุมครั้งนี้จะส่งผลต่อราคาทองคำ เพราะราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินยุโรป" การปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับ 1,300 ดอลลาร์ เป็นกรอบที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือนการปรับเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อราคาทองคำในระยะยาวให้ดูดีขึ้นด้วย จากเดิมที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะอยู่ในระดับ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ปัจจุบันมุมมองดังกล่าวหายไป และน่าจะยืนอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือราคาทองคำไทยจะอยู่ที่ 20,150 บาทต่อบาททองคำ ราคาทองคำแม้จะปรับตัวขึ้นมาได้ แต่ภาพในระยะยาว ยังไม่แน่ว่าจะเป็นการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัย ทั้งในเศรษฐกิจยุโรปที่ยังเปราะบาง มีความเสี่ยงที่กรีซ อาจจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป สร้างความหวั่นวิตกกับความมั่นคงของสหภาพยุโรปได้ รวมไปถึงปัจจัยการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐที่ยังกดดันอยู่ กรอบราคาทองคำในปีนี้ หากจะสิ้นสุดกรอบขาลงจริง ต้องปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่ากรอบราคาทองคำของปี 2557 ที่ต่ำสุด 1,132 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และกรอบบนที่ 1,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คิดเป็นกรอบราคาทองคำไทยอยู่ 17,800-21,000 บาทต่อบาททองคำ หากทะลุราคาดังกล่าวได้ จะเป็นการสิ้นสุดขาลงที่แท้จริง ส่วนราคาเฉลี่ยของทองคำทั้งปี 2558 จะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของราคาปี 2557 ที่อยู่ที่ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงแนะนำนักลงทุน หากเป็นนักลงทุนที่เน้นลงทุนระยะสั้น การปรับขึ้นของราคาทองคำที่ผ่านมาค่อนข้างแรงกว่าปกติ จึงแนะนำให้ขายทำกำไร รอให้ปัจจัยทุกอย่างนิ่งก่อน แล้วทยอยเข้าสะสม ด้านนายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้น มองว่าเกิดจากกระแสข่าวกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างเอสพีดีอาร์ เข้าสะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเข้าซื้อทองคำในปริมาณ 10 ตัน ในวันที่ 20 ม.ค.และข่าวการประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารทั่วโลก ที่กำไรปรับตัวลดลง 10-15% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้นักลงทุนมองภาพเศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยความเสี่ยง การถือทองคำน่าจะมีความปลอดภัยมากขึ้น สำหรับการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบของธนาคารกลางยุโรป ที่อาจเกิดขึ้นสัปดาห์นี้ หากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก การอัดฉีดเม็ดเงินดังกล่าว จะส่งผลให้สภาพคล่องในโลกมีจำนวนมาก เงินเหล่านี้จะไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อสร้างผลตอบแทน ทำให้การปรับราคาเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงจะมากกว่าปกติ "ประเมินว่าหลังจากนี้ราคาทองคำน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยในระยะสั้นเชื่อว่าราคาทองคำจะเข้าทดสอบแนวต้านที่ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีลุ้นที่จะผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ แต่ทั้งนี้ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรจากกองทุน ที่มีกำไรจากการทยอยซื้อในช่วงก่อนหน้า" Tags : ราคาทองคำ • บุญเลิศ สิริภัทรวณิช • ออสสิริส