WWDC (World Wide Developer Conference) เป็นหนึ่งในงานสัมมนาทางเทคโนโลยีของ Apple ที่จัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 25 แล้ว ไหนๆ ก็ได้มีโอกาสมาแล้วเลยจะพาเดินเที่ยวดูบรรยากาศในงานครับ WWDC 2014 จัดที่ Moscone West Convention Center ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่จัดงาน Google I/O หรืองานอย่าง Oracle OpenWorld ครับ ตามปกติงานแบบนี้ก็จะมีการเปิดให้มาลงทะเบียนเข้างานล่วงหน้า อย่างกรณี WWDC 2014 ก็เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน ปกติแล้วงานลักษณะนี้ที่มี Keynote ในตอนเช้าจากผู้บริหารระดับสูง ที่นั่งฟัง Keynote จะค่อนข้างจำกัด ถึงแม้ว่าจะมีการคำนวนจำนวนที่นั่งไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ก็เดาว่าพวกบัตรเชิญพิเศษก็อาจจะมีลำดับความสำคัญสูงกว่า จึงเป็นเหตุให้คนที่มาลงทะเบียนเข้างานช้าไม่มีที่นั่งฟัง Keynote และต้องระเห็จไปดูผ่าน Streaming แทน จึงมักจะมีคนที่มาต่อคิวล่วงหน้าเป็นเวลานานๆ เพื่อการันตีการได้ที่นั่งดีๆ เห็นหน้าคนพูดชัดๆ อย่างกลุ่มนี้พี่ท่านมาตั้งแต่บ่าย 2 ของวันอาทิตย์ แถมยัง Tweet เยาะเย้ยไว้อีกต่างหาก LOL first in line for the WWDC keynote — John H. Meyer (@johnhmeyer123) 1 มิถุนายน 2014 ข้ามมาวันงานเมื่อเช้า (ตามเวลาซานฟรานซิสโก) เลย บทเรียนที่ผมได้เรียนรู้จาก Google I/O ปีที่แล้วคือเข้างานช้าเลยต้องไปยืนดู YouTube Streaming แทน เศร้ามาก ปีนี้ด้วยความที่ Jet lag ยังค้างคาอยู่ก็เลยออกจากบ้านแต่เช้าไปต่อคิวตอนตีสี่เสียเลย พอมาถึงก็พบว่าแถวยาวมากแล้ว กะคร่าวๆ ก็ยาวสัก 250 - 300 เมตรแล้ว ยืนรอไปเรื่อยๆ ก็พบว่าไม่ค่อยน่าเบื่อสักเท่าไร เพราะมีคนประหลาดๆ มายืนคุยกันเสมอ ก็มีตั้งแต่เรื่องเกม PS Vita ไปจนถึงสัปเพเหระ แต่ก็ทำให้เวลา 4 ชั่วโมงผ่านไปได้เร็วมาก จนเวลาสักประมาณ 8 โมงเช้า เจ้าหน้าที่ก็เริ่มเปิดประตูและค่อยๆ ทยอยให้คนเข้าไปในงาน ตัดมาที่ห้อง Keynote เลยก็พบว่าถ้าไม่ได้นั่งหน้าๆ จริงๆ ก็ต้องดูผ่านจอย่อยๆ อยู่ดีเพราะหัวคนบังไปหมด สรุปว่า ถ้าอยากดูสดๆ ด้วยกายเนื้อ ต้องมาต่อแถวตั้งแต่เย็นวันก่อนหน้านั้นเท่านั้น พอ Keynote จบก็ค่อยๆ ทยอยคนออกจากห้องใหญ่ ผมสงสัยมานานแล้วว่าเวลาพวกพูด Keynote เนี่ย เขาจะมีจอ Monitor ให้ดูไหม หน้าตาเป็นอย่างไร ก็เลยเดินย้อนขึ้นไปหน้าเวที ปรากฎว่าเจอ Tim Cook กำลังยืนคุยกับใครก็ไม่รู้ เห็นแว้บๆ ข้างๆ ก็ Eddie Cue แต่ไม่ยักเจอ Jonathan Ive แฮะ อีกปัญหาหนึ่งของงานขนาดใหญ่แบบนี้คือการใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สายมักจะพังบ่อยๆ อย่าง Google I/O ปีที่แล้วก็พังช่วง Keynote ใกล้จะจบ แต่ของ WWDC นี่พังตั้งแต่ Keynote ยังไม่เริ่ม แต่ Apple ก็น่าจะตระหนักถึงปัญหาระดับโลกนี้เป็นอย่างดีเลยจัดห้องขนาดใหญ่ยักษ์ให้ห้องหนึ่ง มีทั้งปลั๊กไฟและ Gigabit Ethernet ให้ใช้งานตั้งแต่งานเริ่มจนถึง หกโมงเย็น ผมไปลองความเร็วพบว่า Download 3xx Mbps, Upload 9xx Mbps (Megabit นะ ไม่ใช่ Kilobit) น้ำตาจะไหล จุดที่แปลกใจอย่างหนึ่งเมื่อเทียบกับ Google I/O คือ WWDC แทบจะไม่มีบูธตั้งของโชว์ แต่จะเน้นห้องใหญ่ๆ เพื่อเป็น Hands-on Lab แทน ในขณะที่ Google I/O ก็ขนของมาโชว์เต็มที่ ก็เป็นคนละอารมณ์กันครับ สิ่งที่น่าสนใจคือ WWDC ปีนี้ Apple ใช้วิธีจับฉลากเอาจาก account Apple Developer แล้วผมพบว่าเมืองไทยมีคนได้สิทธิซื้อบัตรมา 4 คน แต่เมื่อเทียบกับสิงคโปร์หรือฮ่องกง ที่มากันประเทศละเกือบ 20 คน หรือ มาเลเซีย ที่มากัน 10 กว่าคน ก็น่าจะสะท้อนภาพอะไรบางอย่างว่า Apple Developer บ้านเราน้อยขนาดไหนได้ครับ Apple, WWDC14