พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เชิญ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) รองหัวหน้า คสช. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) รองหัวหน้า คสช. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) รองหัวหน้า คสช. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช. พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. พร้อมด้วย สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุม อันเป็นผลสืบเนื่องจากหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ได้จัดการประชุมส่วนย่อย 7 กลุ่มงานที่ได้รับผิดชอบในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะกลุ่มงานด้านเศรษฐกิจ ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของ คสช. รวมถึงความคืบหน้าในการตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป และการแจงถึงสถานการณ์ทางการเมืองหลังเข้ามาควบคุมการปกครองเป็นเวลา 10 วัน ที่พบว่ายังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านอย่างต่อเนื่อง โดยมีการถ่ายทอดสดการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคต่างๆ ทั้ง กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรับฟังการหารือในเรื่องความมั่นคงและแผนงาน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า สถานการณ์ขณะนี้เริ่มไปในทิศทางที่ดี เพราะในช่วงแรกก็ปรองดองกันอยู่แค่นี้เอง แต่จะปรองดองมากกว่านี้ หรือจะไปทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับสภาปฏิรูป ซึ่งทหารต้องการให้คนในชาติมีความปรองดองมากกว่านี้ อยากให้ทุกฝ่ายอธิบายให้ประชาชนได้ทราบ ไม่เช่นนั้นก็จะวกมาอยู่ในจุดเริ่มคือการทะเลาะกัน จึงต้องออกกฎหมายให้เป็นรูปธรรม ตอนนี้มีปัญหาเรื่องการประชาสัมพันธ์ แหล่งข่าวที่ประชุมระบุว่า หัวหน้า คสช.คาดหวังไม่อยากให้มีสีแบ่งข้างหรือทะเลาะกัน ต้องใช้เวลา ส่วนงาน 6 ฝ่ายเน้นการปรับปรุงหลักการทำงานของส่วนราชการ โดยให้ปลัดกระทรวงเป็นฝ่ายขับเคลื่อน แต่ไม่ให้รองหัวหน้า คสช.เข้าไปก้าวก่าย เพื่อนำพาประเทศบ้านเมืองพัฒนาต่อไป นอกจากนี้ยังกำชับการจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป โดยให้กระทรวงมหาดไทย และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นตัวขับเคลื่อน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแม่งาน ซึ่งในวันที่ 4 มิ.ย. กอ.รมน.จะประชุมกำหนดทิศทาง แนวทางการปรองดอง และการทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากนั้น ในระหว่างการประชุม ทาง พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับว่าทุกอย่างต้องดำเนินการตามขั้นอย่างรวดเร็วภายใน 2 สัปดาห์ เพราะปัญหาสะสมมาถึง 9 ปี และที่น่าพอใจในขณะนี้ คือ ไม่มีการทะเลาะกันเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มคู่ขัดแย้ง ต่อมาพ.อ.วินธัย สุวารี พร้อมด้วย พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก ร่วมแถลงผลการประชุม คสช. โดย พ.อ.วินธัยกล่าวว่า การตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปที่อยู่ในโรดแมประยะแรก จะใช้กลไก กอ.รมน. และกระทรวงมหาดไทย จะเริ่มจากสถาบันครอบครัวไปจนถึงระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด เนื่องจากจะเห็นได้ความขัดแย้งเริ่มจากครอบครัว เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง อาจมีความคิดความนิยมทางการเมืองแตกต่างกัน ดังนั้น การสร้างศูนย์ปรองดองจะให้ทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะนำไปสู่การปฏิบัติในระยะที่สองของโรดแมป หากเป็นไปได้คงจะใช้เวลาสั้นลง นอกจากนี้นักการเมือง ประชาสังคม และนักวิชาการ จะต้องระดมความคิดเห็น มีเวทีพูดคุยหาแนวทางจากทุกฝ่าย เมื่อถามว่า ทาง คสช.ได้ยึดอำนาจมาแล้ว 12 วัน ทาง พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้า คสช.มีความพอใจหรือไม่ อย่างไร พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ท่านมีกำลังใจ เพราะเจ้าหน้าที่ได้ให้ความร่วมมือทุกภาคส่วนในการดำเนินงานของ คสช.