"บล.ยูโอบี เคย์เฮียน" รุกวาณิชธนกิจ เร่งให้คำปรึกษาการปรับโครงสร้างองค์กร การระดมทุนก่อนเข้าตลาด นายชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทเน้นการให้บริการด้านวาณิชธนกิจมากขึ้นตามความต้องการของตลาด โดยมีจำนวนรายการด้านวาณิชธนกิจของบริษัทมากกว่า 20 รายการ และมีการนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก 5 บริษัท "ธุรกิจวาณิชธนกิจปีนี้มีแนวโน้มที่ดีตามภาวการณ์ตลาดหุ้นที่ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาขนาดรายการที่เกิดขึ้นในตลาด มีมูลค่าที่ไม่สูงทำให้ไม่น่าสนใจ แต่ปีนี้เริ่มเห็นทิศทางของรายการเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น มาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ซึ่งหลายรายการอยู่ในระดับพันล้านบาท ทำให้บริษัทหันมาเน้นในเรื่องนี้มากขึ้น จุดเด่นของบริษัทคือเป็นบริษัทที่มีบริษัทแม่เป็นต่างชาติ ให้การทำรายการระหว่างประเทศมีความสะดวกกว่าบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ" ธุรกิจด้านวาณิชธนกิจที่บริษัทเน้นทำรายการ คือ การให้คำปรึกษาเรื่องการปรับโครงสร้างบริษัท และการให้บริการด้านที่ปรึกษาสินเชื่อกับบริษัทก่อนที่จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจำนวนรายการมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีรายการอยู่ในมือแล้วกว่า 20 รายการ จากปีก่อนที่ 7 รายการ และยังมีการนำบริษัทเข้าทำการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก 5 บริษัท มูลค่าการระดมทุนของแต่ละบริษัทไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยไตรมาสแรกปีนี้ จะยื่นไฟลิ่งกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) 1 ราย อยู่ในธุรกิจในกระแสที่นักลงทุนให้ความสนใจ สำหรับทิศทางการแข่งธุรกิจโบรกเกอร์ปีนี้ มองว่า จะดุเดือดมากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันของธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ซึ่งหลายบริษัทหลักทรัพย์หันมาแข่งในเรื่องราคาค่าคอมมิชชั่นให้อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งนโยบายของบริษัทจะไม่ไปแข่งในตลาดดังกล่าว โดยปัจจุบันค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์บริษัทอยู่ในระดับเดียวกับอุตสาหกรรมที่ 0.18% ของมูลค่าการซื้อขาย ทั้งนี้บริษัทมีจุดเด่นที่อัตราการทำกำไรจากการซื้อขายอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น ปัจจุบันมีบัญชีลูกค้าทั้งสิ้น 2 หมื่นบัญชี มีบัญชีที่เคลื่อนไหวเป็นประจำอยู่ในระดับ 1.4 หมื่นบัญชี โดยปีนี้จะขยายฐานนักลงทุนใหม่ไม่ต่ำกว่า 3,000 บัญชี เน้นใช้กลยุทธ์เข้าไปขยายฐานนักลงทุนในสถานศึกษาให้ความรู้ด้านการลงทุนที่ถูกต้อง ส่วนลูกค้าปัจจุบัน บริษัทเน้นการให้ความรู้ และช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทุนกับบริษัทได้ในระยะยาว ส่วนเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน หรือ มาร์เก็ตติ้ง ปัจจุบันบริษัทมี 270 คน ซึ่งเพียงพอกับ 20 สาขาที่มีอยู่ แม้ช่วงที่ผ่านมาในอุตสาหกรรมจะแย่งตัวเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนกันมาก แต่บริษัทมีเจ้าหน้าที่ย้ายออกไปเพียงเล็กน้อย สาเหตุหนึ่งมาจากบริษัทได้ปรับการจ่ายค่าตอบแทน จากเดิมที่จะผันแปรตามปริมาณการซื้อขาย ทำให้เจ้าหน้าที่การตลาดมีรายได้ไม่มั่นคง ซึ่งบริษัทปรับพวกเขามีรายได้ที่ดีขึ้น รวมถึงการทำงานร่วมกันมหาวิทยาลัย ในการรับนักศึกษาที่พึ่งสำเร็จการศึกษาใหม่เข้ามาอบรม และเป็นเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาแนะนำการลงทุนกับบริษัท โดยจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา บริษัทมีผลสำเร็จจากพนักงานที่ผ่านโครงการดังกล่าวเข้ามาทำงานกับบริษัท มากกว่า 90% Tags : ชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม • บล.ยูโอบี เคย์เฮียน • วาณิชธนกิจ • ตลาดหุ้น