ตลาดหลักทรัพย์ เตือนรายย่อยระมัดระวังในการลงทุน เนื่องจากตลาดทุนปีนี้มีแนวโน้มผันผวน ผลจากการลอยตัวค่าเงินสวิส ความเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (19 ม.ค.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นคึกคัก โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี ทำจุดสูงสุดที่ 1,536.14 จุด หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.40 จุด ก่อนที่ดัชนีหุ้นมาปิดซื้อขายที่ 1,535.37 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.63 จุด หรือ 1.16% มูลค่าการซื้อขาย 36,102.65 ล้านบาท โดยเป็นแรงซื้อของนักลงทุนสถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์หนุน โดยสถาบันซื้อสุทธิ 1,446.78 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 518 ล้านบาท ส่วนต่างชาติขายสุทธิ 1,000.24 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปขาย 964.54 ล้านบาท นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้คาดตลาดทุน และตลาดการเงินมีแนวโน้มผันผวน ผลจากภาวะเศรษฐกิจในหลายประเทศ ยังมีความเปราะบาง ค่าเงินมีการเปลี่ยนแปลงผันผวนมากกว่าปกติ ล่าสุดการลอยตัวของค่าเงินสวิตเซอร์แลนด์จากเดิมที่ผูกค่าเงินกับกลุ่มสหภาพยุโรป ส่งผลโดยตรงกับตลาดหุ้นทั่วโลก ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน ยังไม่มีการฟื้นตัวที่ชัดเจน ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อฉุดดึงให้เศรษฐกิจขยายตัวขึ้นได้ และอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะยังปรับขึ้นไม่มากนัก ยกเว้นสหรัฐ ส่งผลให้ตลาดทุนและตลาดเงินยังคงเผชิญสภาวะผันผวน จึงอยากให้นักลงทุนมีความระมัดระวัง ส่วนราคาน้ำมันที่มีการปรับลดลงจะส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่นั้น เบื้องต้นได้มีการเฝ้าติดตามงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มพลังงานที่คาดว่าจะออกมาใน ก.พ.นี้ ว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร โดยมองว่าราคาน้ำมันที่ปรับลดลงแตะระดับ 40 ดอลลาร์สหรัฐ แต่อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามในปีนี้ในส่วนของมูลค่าที่สะท้อนออกมาว่าจะส่งผลต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างไรบ้าง ด้านนายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปีนี้ยังคงเผชิญสภาวะผันผวน ผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรปและจีนที่ยังชะลอตัวลง ดังนั้นต้องจับตาว่าผลดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อตลาดทุนไทยอย่างไร ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทย น่าจะมีมุมมองที่ดีกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนจากการดำเนินงานต่างๆ ของรัฐบาล แต่ต้องจับตาดูเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเปราะบาง ส่วนราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงอย่างรวดเร็วที่ช่วงผ่านมา ส่งผลต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงานปรับลดลง แต่คาดว่า จะช่วยส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในบริษัทจดทะเบียนที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน เนื่องจากจะมีต้นทุนที่ปรับลดลง หากราคาน้ำมันในปีนี้ยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจตั้งแต่ในไตรมาส 2 และโดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากต้นทุนราคาน้ำมันถูกลงซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นแรงสนับสนุนให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีของไทยทั้งปีเติบโตได้มากกว่า 4% สำหรับดัชนีหุ้นไทยปีนี้ จะปรับตัวขึ้นได้ 10-15%จากสิ้นปี 2557 ผลจากขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล แต่ต้องติดตามการดำเนินของรัฐบาลว่าจะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้หรือไม่ นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นวานนี้พบดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นได้โดดเด่น เป็นผลมาจากราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่จะเริ่มทรงตัวได้ ทำให้หุ้นพลังงานมีแรงเก็งกำไรคึกคัก โดยภาวะตลาดหลังจากนี้ ต้องจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป ในการประชุมในคืนวันที่ 22 ก.ค. ว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ โดยคำแนะนำการลงทุน คือให้นักลงทุนทยอยซื้อสะสมหุ้นในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีปันผลที่ดี Tags : เกศรา มัญชุศรี • ตลาดหุ้น • นักลงทุนรายย่อย • หุ้นผันผวน