คลังเตรียมเสนอรัฐบาลเพิ่มภาษีดีเซลอีก 2 บาท/ลิตร รวมเก็บเข้ากองทุน 3.25 บาท/ลิตร เป็น 5.25 บาท คาดรายได้เพิ่มกว่าแสนล้าน หวังลดขาดดุลงบประมาณปี 2559 คาดขาดดุล 3 แสนล้าน จากวงเงินรวม 2.72 ล้านล้าน ขณะนักวิชาการชี้ควรเก็บภาษีไม่เกิน 4 บาท นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่าในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บรายได้รัฐบาลที่มีม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้สรุปตัวเลขการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณรายจ่าย 2559 ไว้ที่ 2.33 ล้านล้านบาท เพิ่มจากปีงบประมาณ 2558 ที่มีเป้าหมายรายได้ที่ 2.325 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จาก 3 กรมจัดเก็บหลัก คือ กรมสรรพากร 1.9 ล้านล้านบาท กรมสรรพสามิต 4.96 แสนล้านบาท และ กรมศุลกากร 1.2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าหมายงบประมาณรายจ่ายในปีงบ 2559 ไว้ที่ 2.72 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณที่ประมาณ 3 แสนล้านบาท “การประมาณการตัวเลขรายได้ปี 2559 เราต้องใช้สมมติฐานรายได้ในปี 2558 เป็นฐานในการคำนวณ ซึ่งรัฐบาลยังคงยืนเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ในปีงบ 2558 ไว้ตามเป้าหมายเท่าเดิม ทำให้รายได้ในปีงบ 59 ไม่ขยับเพิ่มมากนัก โดยถือเป็นเป้าจัดเก็บที่เหมาะสมแล้ว”นายรังสรรค์ กล่าว นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่าในปีงบประมาณ 2559 กระทรวงการคลังได้ตั้งเป้าการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตไว้ที่ประมาณ 5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2558 จำนวนประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ถือเป็นเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ในอัตราที่สูงขึ้นมาก หรือประมาณ 19% ซึ่งกรมฯก็รับเป้าหมายนี้ โดยจะเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ให้เต็มที่ ภายใต้การจัดเก็บภาษีสินค้าในกลุ่มเดิม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กรมฯได้ศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าตัวใหม่ รวมถึง การปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีสินค้าเดิม โดยในส่วนสินค้าใหม่นั้น จะยึดหลักการจัดเก็บตามกฎหมายของกรมฯ อาทิ เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ทำลายสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยขณะนี้ มีสินค้าอยู่ในกลุ่มเป้าหมายประมาณ 5 รายการ “การที่กระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตให้เพิ่มขึ้นถึง 8 หมื่นล้านบาท นั่นหมายความว่า เขาเชื่อว่า เราจะสามารถจัดเก็บได้ตามนั้น ซึ่งอาจจะมีเป้าหมายสินค้าใหม่ที่ต้องการให้มีการจัดเก็บเพิ่ม รวมถึง การปรับอัตราภาษีน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วย อย่างไรก็ตาม ผลการจัดเก็บรายได้จริงจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจในปีงบประมาณดังกล่าวด้วย”เขากล่าว จ่อขึ้นภาษีดีเซล2บาทต่อลิตร แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ในการประชุมจัดทำกรอบงบประมาณปี 2559 ที่มี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เป็นประธาน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้จัดทำกรอบเป้าหมายจัดเก็บรายได้มาเสนอทั้งนี้เพื่อรองรับภาระงบประมาณที่เพิ่มขึ้นและควบคุมการตั้งงบประมาณขาดดุลให้ไม่เกิน 20% ของงบประมาณฯ หรือ 500,000 ล้านบาทตามระเบียบวิธีการงบประมาณ กระทรวงการคลังได้นำเสนอทางเลือกให้กับรองนายกรัฐมนตรีพิจารณาโดยเพิ่มการจัดเก็บรายได้จากภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นโดยใช้โอกาสที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นอีก 2 บาทต่อลิตร จากที่ปัจจุบันเก็บเข้ากองทุนน้ำมันอยู่ที่ 3.25 บาทต่อลิตร รวมเป็น 5.25 บาทต่อลิตร ทั้งนี้การเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลเพิ่มขึ้นในอัตราดังกล่าวจะไม่ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลกระทบกับประชาชนมากนักเนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันปรับตัวลดลงและราคาขายปลีกดีเซลอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับ 26 บาทต่อลิตรเท่านั้น “ก็มีการคุยกันในเรื่องนี้เพราะรองนายกฯก็ติงว่าเป้าหมายในการจัดเก็บรายได้ต่ำ ซึ่งภาษีสรรพสามิตดีเซลหากเก็บเพิ่มก็เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับภาครัฐ เพราะเดิมตอนที่เคยเก็บเต็มเพดานก็ได้รายได้เข้ารัฐสูงถึงเดือนละ 9,000 ล้านบาทเศษ หรือปีละกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งราคาน้ำมันในระดับนี้ถือว่าทำได้เพราะการเก็บเพิ่มไม่ทำให้ราคาเกิน 30 บาท/ลิตร แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะที่ประชุมก็เห็นว่าหากมีการเก็บภาษีส่วนนี้เพิ่มอาจจะกระทบจิตวิทยาในการใช้จ่ายของประชาชนและสวนทางกับที่นายกรัฐมนตรีสั่งการใช้ลดราคาน้ำมันให้สอดคล้องกับในตลาดโลก รวมทั้งขณะนี้การเก็บเงินจากดีเซลเป็นการเก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯยังไม่ได้ส่งรายได้ในรูปแบบสรรพสามิตดีเซล ซึ่งเรื่องนี้รองนายกฯก็สั่งการให้กระทรวงการคลังไปทำรายละเอียดผลกระทบที่ชัดเจนก่อนมาเสนออีกครั้ง"แหล่งข่าวกล่าว ด้านนายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่าราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่องอาจทำให้รัฐบาลสามารถปรับเพิ่มการเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลจะเพิ่มรายได้ของรัฐ คลังชงอัตราภาษีให้รัฐบาลเลือก กระทรวงการคลัง เสนอประมาณการรายได้จากการเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลให้ม.ร.ว.ปรีดิยาธรพิจารณา โดยใช้ตัวเลขปริมาณการใช้น้ำมันต่อปี 21,324.93 ล้านลิตร ทั้งนี้ ประมาณการว่าหากมีการจัดเก็บภาษีในอัตรา 0.005 บาทต่อลิตรจะมีรายได้เพียง 106.62 ล้านบาท หากเก็บภาษีในอัตรา 0.75 บาทต่อลิตรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 15,093.70 ล้านบาท เก็บในอัตรา 2.50 บาทต่อลิตรคิดเป็นรายได้ 53,312.33 ล้านบาท หากเก็บภาษีในอัตรา 3.25 บาทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 69,306.02 ล้านบาท และหากเก็บในอัตราสูงสุด 5.25 บาทต่อลิตร จะมีรายได้เพิ่มเป็น 111,955.88 ล้านบาท แนะเก็บเพิ่มอีกไม่เกิน0.75บาท/ลิตร นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่าราคาน้ำมันในระดับปัจจุบันรัฐบาลสามารถที่จะพิจารณาเพิ่มการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลได้โดยการเพิ่มการเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลทุกๆ 1 บาทจะทำให้มีรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้นวันละ 58 ล้านบาทเนื่องจากปริมาณการใช้ดีเซลของประเทศไทยอยู่ที่วันละ 58 ล้านลิตร ทั้งนี้รัฐบาลยังมีทางเลือกในการโยกเงินที่เก็บเข้ากองทุนน้ำมันในส่วนของน้ำมันดีเซลที่เก็บอยู่ลิตรละ 3.25 บาท มาเป็นภาษีสรรพสามิตดีเซลแทน โดยควรเก็บที่อัตราไม่เกินลิตรละ 4 บาทหรือเก็บเพิ่มอีกไม่เกิน 0.75 บาทต่อลิตร "หากใช้วิธีการปรับเปลี่ยนการเก็บเงินเข้ากองทุนฯในส่วนของน้ำมันดีเซลเป็นการเก็บภาษีสรรพสามิตจะทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกไม่เปลี่ยนแปลงและไม่กระทบกับประชาชน" 3เดือนแรกจัดเก็บรายได้ต่ำเป้า3.62% นายสมชาย กล่าวว่า ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมฯใน 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ต.ค.-ธ.ค.) ผลปรากฏว่า จัดเก็บได้จำนวนประมาณ 1.02 แสนล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการประมาณ 3.8 พันล้านบาท หรือ 3.62% โดยภาษีที่จัดเก็บจากสินค้ารถยนต์เป็นรายการที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 6 พันล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีภาษีจากสินค้าเบียร์และสุราที่ต่ำกว่าเป้าหมายรายการละกว่า 2 พันล้านบาท ส่วนภาษีน้ำมันนั้น เกินกว่าเป้าหมายกว่า 2 พันล้านบาท ผลจากการปรับขึ้นอัตราภาษีน้ำมันดีเซล อย่างไรก็ดี สำหรับการจัดเก็บภาษีรถยนต์นั้น คาดว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น หรือนับตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป เพราะเป็นช่วงที่ผู้บริโภคมีความต้องการซื้อรถยนต์กันมาก ขณะเดียวกัน เท่าที่ได้หารือกับผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ต่างๆก็พบว่า เขาได้ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมไว้ไม่ต่ำกว่า 9 แสนคัน จากปี 2557 ที่มียอดขายอยู่ประมาณ 8 แสนคัน เชื่อจัดเก็บภาษีรถยนต์ฟื้นปีนี้ ทั้งนี้ ยอดการจัดเก็บรายได้จากภาษีรถยนต์มีแนวโน้มติดลบน้อยลง ดูได้จากเดือนต.ค.2557 ยอดจัดเก็บรายได้ภาษีรถยนต์ต่ำกว่าประมาณการจำนวน 3 พันล้านบาท เดือนพ.ย.2557 ต่ำกว่าประมาณการ 2 พันล้านบาท และต่ำกว่าประมาณการ 1 พันล้านบาทในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา “ไตรมาสแรกของปี เชื่อว่า ยอดขายรถยนต์น่าจะดี เพราะหลายค่ายตั้งเป้ายอดขายไว้สูงจากปี 57 ทำให้เราเชื่อว่า ภาษีที่จัดเก็บจากสินค้ารถยนต์ไม่น่าจะต่ำกว่าเป้าหมาย และ จะส่งผลต่อการน้ำมันและภาษีน้ำมันของกรมฯด้วย”เขากล่าวและว่า ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2558 กระทรวงการคลังได้เพิ่มเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของกรมฯอีกประมาณ 500 ล้านบาท คาดเก็บภาษีคณะบุคคลเพิ่ม8หมื่นล. นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวว่า เป้าหมายการจัดเก็บรายได้ไว้ที่ 1.92 ล้านล้านบาท อยู่บนสมมติฐานจีดีพีที่จะขยายตัวได้ราว 5-6% และ การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของกรมฯ ซึ่งรวมถึง การจัดเก็บภาษีจากการปรับแก้กฎหมาย อาทิ การจัดเก็บภาษีคณะบุคคล ซึ่งในปีนี้ กรมฯคาดว่า จะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีนี้ได้ถึง 8 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีภาษีตัวใหม่ เช่น ภาษีโรงเรียนกวดวิชา ซึ่งกรมฯเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาในระดับนโยบายเร็วๆนี้ รวมถึง การจัดเก็บภาษีจาก Transfer Pricing ส่วนผลการจัดเก็บรายได้ของกรมฯใน 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 ต่ำกว่าประมาณการจำนวนประมาณ 9.9 พันล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าสินค้าน้ำมันที่ปรับลดลงประมาณเดือนละ 3-4 พันล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีภาษีที่จัดเก็บจากปิโตรเลียมที่ลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงหลายพันล้านบาทด้วย อย่างไรก็ดี การจัดเก็บรายได้ภาษีมูลค่าจากการบริโภคในประเทศยังมีสัญญาณที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และ ยังมีรายได้จากอากรแสตมป์ที่เพิ่มขึ้นจากสัญญาการจ้างงาน สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น สำหรับรายได้จากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น จะต้องรอประเมินผลการยื่นแสดงรายได้ในช่วงนี้ ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล ก็ยังมีสัญญาณไม่ค่อยดีนัก เพราะเป็นการยื่นแสดงรายได้จากผลประกอบการปีที่แล้ว ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากรกล่าวว่า เป้าจัดเก็บรายได้ปี 2558 ในเบื้องต้นยังคงไว้ที่ 1.12 แสนล้านบาท โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาหรือไตรมาสแรกของปีงบ 2558 จัดเก็บรายได้ 2.7 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 5% ที่ 2.85 หมื่นล้านบาท เป็นผลมาจากการนำเข้าชะลอตัวลง แต่หากประเมินรายเดือนมีแนวโน้มการจัดเก็บดีขึ้น คาดว่า ช่วงไตรมาส 2 ของปีงบ 2558 จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และมั่นใจว่า ทั้งปีจะจัดเก็บได้ตามเป้าหมาย Tags : รังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ • ดีเซล • ภาษี • กระทรวงการคลัง • สมชาย พูลสวัสดิ์ • แหล่งข่าว • ประสงค์ พูนธเนศ • สมชัย สัจจพงษ์