"ธีระชัย" อดีตรมว.คลังแนะรัฐเร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน พร้อมเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานไม่ให้สะดุดเพราะการเมือง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนา “เศรษฐกิจไทย-ตลาดหุ้น 2558 : อนาคตบนทางแยก” ว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังต้องเผชิญกับความผันผวนหลายด้าน โดยเฉพาะจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับลดลงมาก รวมถึงนโยบายการเงินของประเทศขนาดใหญ่ที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ภาคการเงินของโลกผันผวนอย่างมาก อาทิ กรณีที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ประกาศยกเลิกการกำหนดเพดานอัตราแลกเปลี่ยนเทียบกับสกุลเงินยูโร ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเตรียมรับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้น อีกทั้งต้องดูแลปัจจัยเสี่ยงในประเทศ โดยเฉพาะปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 84 ของผลิตภัณฑ์มวลรรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 89 ภายในปีนี้ นายธีระชัย กล่าวว่า ขอเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งจัดอันดับประวัติการชำระเงินกู้ หรือเครดิต บูโร สกอร์ เพื่อให้สามารถดูแลกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ได้ทันท่วงที ป้องกันปัญหาการกู้เงินนอกระบบ พร้อมทั้งแสดงความเห็นด้วยหากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงบ้าง เพื่อช่วยลดภาระหนี้ครัวเรือนและสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะความเสี่ยงอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำมาก นอกจากนี้ ยังต้องระวังปัจจัยการเมืองภายในประเทศ เนื่องจากประชาชนคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีนโยบายดูแลปัญหาเศรษฐกิจและค่าครองขีพ พร้อมเร่งเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งหากการเมืองไม่มีเสถียรภาพก็อาจทำให้โครงการลงทุนชะงัก จึงเสนอให้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชุมชนควบคู่ไปด้วย ส่วนกรณีกระทรวงพลังงานจะเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 เห็นว่าควรชะลอออกไปก่อน โดยควรจะปฏิรูปการคลังปิโตรเลียมให้เหมาะสมกับศักยภาพของประเทศไทย เนื่องจากการจัดเก็บผลประโยชน์เข้ารัฐจากสัมปทานยังอยู่ระดับต่ำ 3,000-4,000 ล้านบาท เทียบกับผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจริงในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมหลักแสนล้านบาท ทั้งนี้ สัดส่วนการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐจากระบบสัมปทานไทยแลนด์ทรีอยู่ที่ร้อยละ 62 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ร้อยละ 64 Tags : ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล • คลัง • หนี้ครัวเรือน • เศรษฐกิจ