บริษัทขนาดกลางโยนบิ๊กล็อตเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้น กลุ่มทุนเดิม"ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์" ผ่านโบรก 4 วันติด รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่าเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2558 ในกระดานซื้อขายรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) พบมีการทำรายการของหุ้นบริษัทไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) จำนวน 15.02 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.90 บาท มูลค่ารวม 58.61 ล้านบาทรวมถึงใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้นสามัญชุดที่ 2 (TLUXE-W2) จำนวน 5.88 ล้านหน่วยที่ราคา 1.50 บาท มูลค่ารวม 8.83 ล้านบาท ทั้งนี้ หากพิจารณาราคาบิ๊กล็อตเทียบกับราคาหุ้นเฉลี่ยที่ซื้อขายในกระดานหลักของช่วงเช้า อยู่ที่ 4.53 บาท ต่อหุ้น พบว่าราคาในการทำบิ๊กล็อตมีส่วนต่างจากราคากระดาน 16% ขณะที่การเคลื่อนไหวราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จนกระทั่งมาปิดซื้อขายที่ราคา 5.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 15.56% มูลค่าการซื้อขาย 407 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบว่า ในวันที่ 9 ม.ค.2558 มีการทำรายการบิ๊กล็อตหุ้นไทยลักซ์ จำนวน 4 รายการ จำนวน 35.28 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 3.20 บาท มูลค่ารวม 112.37 ล้านบาท และวันที่ 12 ม.ค.2558 มีการทำบิ๊กล็อตวอร์แรนท์ อีกจำนวน 20 ล้านหน่วยที่ราคา 3.30 บาท มูลค่ารวม 60 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2558 มีรายการบิ๊กล็อตหุ้น TLUXE อีก 1 รายการ จำนวน 4.89 ล้านบาท มูลค่าซื้อขาย 20.08 ล้านบาท ราคาหุ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 4.10 บาท นายจรัล เจตนลิน กรรมการและในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) กล่าวว่า รายการบิ๊กล็อตหุ้นไทยลักซ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทำรายการขายของภรรยาคือ นางเจนจิรา เจตนลิน ซึ่งตนเองและครอบครัวได้ทยอยขายหุ้นออกมาในช่วงที่ผ่านมา ผ่านกระดานบิ๊กล็อต และต้องการขายทั้งหมดที่ถือไว้ โดยมอบหมายให้โบรกเกอร์เป็นผู้ดำเนินการแทน จึงยังไม่ทราบว่าขายให้กับใครไปบ้าง "ขายหุ้นไทยลักซ์ทั้งหมด และคนในครอบครัวก็ขายด้วย เพราะก็อายุมากแล้ว 73 ปีแล้ว ลูกๆ ก็อยู่ที่อเมริกา ไม่มีใครรับช่วงทำต่อก็เลยขายไป ขายทั้งหมดเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าขายให้ใคร เพราะให้โบรกเกอร์เป็นคนจัดการให้"นายจรัล กล่าว ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2558 บริษัทไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ รายงานว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการสอบถามถึงพัฒนาการใดๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหลักทรัพย์ เนื่องจากพบว่าสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากวันก่อนหน้าเพื่อให้ผู้ถือหุ้นและหรือผู้ลงทุนได้มีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างครบถ้วนบริษัทชี้แจงดังนี้ บริษัทไม่มีพัฒนาการใดๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย หรือสารสนเทศที่มีนัยสำคัญที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาและอาจเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯในระยะเวลาอันใกล้ เช่น การเพิ่มทุน การร่วมทุน การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน หรือข้อพิพาทที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไป ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ (KC) วานนี้ (15ม.ค.) ปิดการซื้อขายที่ระดับ 6.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.55 บาท หรือ 29.81% มูลค่าการซื้อขาย 190 ล้านบาท หลังจากตลาดหลักทรัพย์ได้ปลดเครื่องหมายพักการซื้อขายชั่วคราว (SP) ของหลักทรัพย์บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ เนื่องจากบริษัทชี้แจงข้อมูลการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นแล้ว นายสมชัย วนาวิทย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ (KC) กล่าวว่า การซื้อขายหุ้นครั้งนี้ ได้กำหนดให้ผู้ซื้อ คือนายภัทรภพ อิทธิสัญญากร วางมัดจำ 50 ล้านบาท ซึ่งผู้ซื้อได้ชำระเป็นแคชเชียร์เช็คต่อผู้ขาย คือกลุ่มงามอัจฉริยะกุล แล้วในวันทำสัญญา การชำระเงินส่วนที่เหลือตกลงชำระโดยทำรายการซื้อขายและชำระค่าหุ้นในกระดานบิ๊กล็อตของตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 514.15 ล้านหุ้น ภายใน 60 วัน นับแต่วันทำสัญญา หรือภายในวันที่ 9 มี.ค.2558 โดยจะทำการซื้อขายเป็นงวด ในจำนวนครั้งละประมาณ 43 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.61 บาท และในสัญญามิได้มีข้อกำหนดว่าจะต้องถือครองหุ้นจำนวนเท่าใดและเป็นเวลาเท่าใดเมื่อทำรายการซื้อขายหุ้นครบถ้วนแล้ว ฝ่ายผู้ขายจะคืนเงินมัดจำ 50 ล้านบาทแก่ผู้ซื้อหากผู้ซื้อผิดสัญญา ผู้ขายมีสิทธิ์บอกเลิกการซื้อขายและยึดเงินมัดจำ แต่หากผู้ขายผิดสัญญาต้องคืนเงินมัดจำ พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ซื้อ 50 ล้านบาท ภายใน 15 วัน นับแต่วันผิดสัญญา ผู้ซื้อจะยังคงประกอบธุรกิจหลักในด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อไป โดยจะเสนอกรรมการเข้ามาร่วมบริหาร แต่จะยังคงนายชาย งามอัจฉริยะกุล กรรมการผู้จัดการ และนายสมศักดิ์ งามอัจฉริยะกุล กรรมการบริหาร ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อธุรกิจหลักของบริษัทต่อไป เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการดำเนินโครงการต่างๆ ของบริษัท โดยผู้ซื้อมีแนวนโยบายที่จะให้การสนับสนุนและส่งเสริมเพื่อให้ธุรกิจหลักของบริษัทมีความพร้อมที่จะสามารถแข่งขันกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ รายละเอียดผู้ซื้อ คือนายภัทรภพ อิทธิสัญญากร เคยมีประสบการณ์ในด้านการทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาก่อน โดยเป็นเจ้าของและผู้บริหารโครงการ ประเวศเพลส ซึ่งพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ ของบริษัท จอยอัส ไลฟ์ ซึ่งประกอบกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และยังดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการของ บริษัท เอเซีย จอยท์ พาโนราม่า (AJP) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อได้ทำการซื้อหุ้นตามสัญญาซื้อขาย ฉบับลงวันที่ 10 ม.ค.2558 แล้ว ผู้ซื้อจะจัดทำคำเสนอซื้อหุ้นบริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ (KC) ส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยการจัดทำคำเสนอซื้อตามประกาศว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย Tags : ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ • TLUXE • บิ๊กล็อต