"ประยุทธ์" นายกรัฐมนตรี เตือนแบงก์อย่ากระตุ้นสินเชื่อบุคคลมากเกินไป เพราะขณะนี้ระดับหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงขึ้น นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยถึง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการค้ำประกันและจดจำนองว่า ในขณะนี้สมาคมได้หารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น แต่ในแง่ของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งต่างเตรียมความพร้อมไว้แล้ว หากกฎหมายมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ก.พ.นี้ ทั้งในเรื่องของการติดตามหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งก็ยอมรับว่ามีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อ หรือการทำงานของธนาคาร แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบกับลูกค้ามากนัก สำหรับการเข้าหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า เป็นเรื่องที่ดีที่เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจได้เข้าไปเสนอความเห็น และทำงานร่วมกันกับภาครัฐในการผลักดันเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตยั่งยืน นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ในส่วนของสมาคมธนาคาร ได้ให้ข้อมูลว่าระบบธนาคารพาณิชย์มีความแข็งแรง มีเงินกองทุนที่มั่นคง เป็นสายเลือดให้ระบบเศรษฐกิจทำงานได้เต็มที่ แต่องค์ประกอบอื่นที่เอื้อให้การทำงานของระบบธนาคาร ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ควรมีการผลักดันกฎหมายหลักประกันธุรกิจ ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงแหล่งเงินได้มากขึ้น "เชื่อว่ากฎหมายดังกล่าว จะสามารถผ่านได้ในรัฐบาลชุดนี้ และจะทำอย่างไรให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงิน และแก้กฎหมายอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้การทำธุรกรรมง่ายขึ้นลดการใช้กระดาษลง" นายบุญทักษ์ กล่าว นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวเตือนการทำงานของระบบธนาคารพาณิชย์ว่า ไม่ต้องการเห็นการสนับสนุนให้สินเชื่อบุคคลเติบโตมากไป เพราะขณะนี้ระดับหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นอยู่แล้ว หากจะให้สินเชื่อบุคคลควรเป็นไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตัวเอง และทำให้เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจในระยะสั้นและระยะยาว "ส่วนของธนาคารพาณิชย์จะเติบโตไปตามเศรษฐกิจ หากร่วมมือกันพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตยั่งยืนได้ ระบบธนาคารพาณิชย์ก็เติบโตไปได้ แม้ความผันผวนจะมีมากในขณะนี้เพราะสหรัฐเลิกมาตรการคิวอีและอาจปรับขึ้นดอกเบี้ย ระหว่างที่มีการคาดการณ์ดอกเบี้ยจะเห็นความผันผวนที่ต้องจับตาโดยเงินบาทจะอ่อนค่า แต่เมื่อเทียบกับภูมิภาคแล้วน่าจะอ่อนน้อยกว่า หรือหากเฟดขึ้นดอกเบี้ยสภาพคล่องก็จะหายไป ส่วนราคาน้ำมันที่ลดลงไทยอาจจะได้ประโยชน์โดยมองว่าจะมีผลดีกับจีดีพีของเรา 0.5% ทำให้ในปีนี้คาดว่าจีดีพีจะเติบโตได้ 3-4%" เขายังกล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงสะท้อนความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก แม้การลดลงอย่างรวดเร็ว จะเป็นผลดีกับภาคผลิตที่ได้รับประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลง แต่อาจกระทบกับอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น ภาคเกษตรที่ใช้เป็นพลังงานทดแทนที่จะมีราคาลดลงตามไปด้วย และการเคลื่อนย้ายทรัพยากรภาคเกษตรพลังงานทดแทนอาจทำไม่ทัน แม้ราคาพลังงานจะลดลง แต่ผู้ประกอบการที่เคยลงทุน เพื่อปรับปรุงการใช้พลังงานควรเดินหน้าโครงการต่อไป เพื่อความปลอดภัยและเป็นการกระจายแหล่งพลังงานในอนาคต Tags : บุญทักษ์ หวังเจริญ • นายกรัฐมนตรี • สินเชื่อบุคคล • หนี้ครัวเรือน • ประยุทธ์ จันทร์โอชา