บีโอไอออกมาตรการหนุนเอสเอ็มอีลงทุน38ประเภทกิจการ ยกเว้นภาษี2-8 ปี ระบุลงทุน20จังหวัดยากจน ได้ลดภาษีเพิ่มอีก3ปี นางหิรัญญา สุจินัย รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ได้ลงนามในประกาศมาตรการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยประเภทกิจการเอสเอ็มอีที่ได้รับการส่งเสริมฯมี 38 ประเภทกิจการ เช่น กิจการผลิตปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยอินทรีย์ กิจการเลี้ยงสัตว์หรือสัตว์น้ำ (ยกเว้นกุ้ง) กิจการผลิตผลิตภัณฑ์แก้ว หรือเซรามิกส์ กิจการผลิตเครื่องดนตรี กิจการผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กหรือชิ้นส่วนเหล็ก กิจการผลิตยางล้อสำหรับยานพาหนะ เป็นต้น กิจการที่ได้รับส่งเสริมฯจะได้รับสิทธิและประโยชน์ด้านภาษีสูงกว่าเกณฑ์ปกติ โดยจะได้รับยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักร และได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตั้งแต่ 2-8 ปี จากปกติที่บางกิจการไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ 2 ปี หรือบางกิจการได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ 3 ปี ก็จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้เพิ่มอีก 2 ปี รวมเป็น 5 ปี เป็นต้น นอกจากนี้ หากเอสเอ็มอีไทยจะตั้งสถานประกอบการในพื้นที่ 20 จังหวัดรายได้น้อย เช่น กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครพนม น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ แพร่ เป็นต้น จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีก 3 ปี แต่รวมแล้วไม่เกิน 8 ปี ทั้งนี้ กิจการเอสเอ็มอีไทยที่ได้รับส่งเสริมตามมาตรการนี้ ยังสามารถใช้เครื่องจักรที่ใช้แล้วในประเทศได้ในมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล ประธานสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (เอสเอ็มไอ) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า มาตรการส่งเสริมดังกล่าวของบีโอไอ จะเป็นเพียงแรงจูงใจหนึ่งให้เอสเอ็มอีขยายการลงทุน แต่ปัจจัยหลักที่จะทำให้เอสเอ็มอีเติบโต ก็คือความชัดเจนของนโยบายภาครัฐ โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะต้องจะต้องกำหนดนโยบายและแผนแม่บท ทำงานอย่างชัดเจน Tags : นางหิรัญญา สุจินัย • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา • บีโอไอ • เอสเอ็มอี