คาดเอกชนปีนี้ลงทุน1.2แสนล.

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 13 มกราคม 2015.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "กสิกรไทย" คาดมูลค่าการลงทุนเอกชนปีนี้ 1.27 ล้านล้านบาท รับการแข่งขันรายใหญ่รุนแรง หันเจาะลูกค้าเติบโตดี

    นายจงรัก รัตนเพียร รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานธุรกิจลูกค้าบรรษัท ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การแข่งขันของธุรกิจรายใหญ่มีความรุนแรงมาก แต่ธนาคารยังเห็นโอกาสในการเติบโตจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ เนื่องจากปัจจุบันยังมีบริษัทขนาดใหญ่อีกว่า 90% ที่ยังไม่เคยระดมเงินผ่านตลาดทุน ซึ่งธนาคารมองว่า กลุ่มนี้จะมีความต้องการเงินทุนมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าที่มียอดขายตั้งแต่ 1,000-5,000 ล้านบาท ลูกค้ากลุ่มนี้มีการเติบโตที่ดีทั้งในแง่ยอดขายและกำไรนั้นมีสูงถึง 39% ของลูกค้าทั้งหมด

    "ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งหมด ที่มียอดขายเกินกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี มีประมาณ 20% เท่านั้น ในจำนวนนี้มียอดขายมากกว่า 1,000-5,000 ล้านบาท ประมาณ 80% ส่วนอีก 20% มียอดขายมากกว่า 5,000 ล้านบาท พบว่า ธุรกิจขนาดใหญ่กว่า 1 ใน 3 มีความศักยภาพสูง โดยสามารถทำทั้งยอดขายและผลกำไรเติบโตในช่วง 4 ปีที่ผ่านมากว่า 20% ซึ่งสูงกว่าการเติบโตโดยเฉลี่ยของประเทศถึง 5 เท่า"

    ดังนั้น แสดงให้เห็นถึงความสามารถของผู้ประกอบการในการทนต่อแรงเสียดทาน ทั้งนี้อุตสาหกรรมหลัก จะมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และเกษตรอุตสาหกรรม กลุ่มสื่อสารและยานยนต์ รวมทั้งกลุ่มธุรกิจบันเทิง และถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธนาคารที่จะเข้าไปเจาะตลาดในปีนี้

    ขณะเดียวกันธนาคาร คาดว่า การลงทุนของเอกชนในปีนี้คาดจะมีมูลค่ารวมกว่า 1.27 ล้านล้านบาท ผ่านโครงการลงทุนของภาครัฐและเอกชน รวมถึงการลงทุนในต่างประเทศ แบ่งเป็นโครงการของภาคเอกชน 250,000 ล้านบาท โครงการลงทุนสาธารณูปโภคของภาครัฐบาล 270,000 ล้านบาท และการลงทุนในต่างประเทศ 750,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเป็นการระดมทุนผ่านช่องทางของตลาดทุนกว่า 50%

    ส่วนของเม็ดเงินสินเชื่อคาดว่าจะมีไม่มากนัก หรือ 3-4 แสนล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากลูกค้าสามารถพึ่งพาตลาดทุนได้ โดยธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อรายใหญ่ปีนี้เพียง 4-6% ของพอร์ตสินเชื่อที่มี 4 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันตั้งเป้ารายได้รวมปี 2558 โตกว่า 15% โดยมีการเติบโตของสัดส่วนค่าธรรมเนียมต่อรายได้เพิ่มขึ้น 13% ทำให้สัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมเมื่อรวมกับรายได้จากเงินฝากเมื่อเทียบกับยอดเฉลี่ยของมูลค่าสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นจาก 2.28% เป็น 2.67%

    นอกจากนี้ปีนี้ธนาคารจะให้ความสำคัญในการให้บริการการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินแก่ธุรกิจขนาดใหญ่อย่างครบวงจร ไม่ว่าแหล่งทุนทางเลือกใหม่ๆ ผ่านตลาดทุน การปรับโครงสร้างธุรกิจและทุนเพื่อรองรับการเติบโตได้อย่างเหมาะสม

    รวมทั้งการบริหารความเสี่ยง ที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง และการตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีอยู่ 45% ของรายได้รวม คาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 50% รวมถึงการใช้ประโยชน์จากเงินฝากต่อค่าเฉลี่ยสินทรัพย์เป็น 2.67 เท่า

    สำหรับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับลดลง แม้จะเป็นประโยชน์กับธุรกิจเพราะทำให้ต้นทุนปรับลดลง แต่ทำให้โครงการลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงานในขณะนี้อาจจะชะลอไปบ้าง เนื่องจากความน่าสนใจลดลง เพราะมีการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันคงจะยังไม่ปรับขึ้นไปตลอดทั้งปีนี้

    การลงทุนประหยัดพลังงาน ยังเป็นเรื่องที่จำเป็น และเป็นแผนระยะยาวที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญต่อไป ส่วนทิศทางดอกเบี้ยที่ปรับลดลงทำให้คาดว่าในปีนี้จะเห็นภาคธุรกิจหันไประดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้มากขึ้น

    Tags : จงรัก รัตนเพียร • กสิกรไทย • การลงทุน

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้