อสังหาฯเชื่อการเปลี่ยนแปลงการเมืองของคสช. เร่งปลดล็อกงบประมาณ อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ หนุนอสังหาฯ ฟื้นตัวไตรมาส 3 ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้รับผลกระทบชัดเจน จากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว จากสถิติตัวเลขยอดการเปิดตัวช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย. 2557) ลดลงค่อนข้างมาก จาก 144 โครงการ จำนวน 4.3 หมื่นยูนิต ลดลงเหลือเพียง 115 โครงการ จำนวน 2.9 หมื่นยูนิต โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ลดลงจากจำนวน 3 หมื่นยูนิต เหลือเพียง 1.8 หมื่นยูนิต ลดลง 40% ส่วนบ้านจัดสรร ลดลงจาก1.3 หมื่นยูนิต เหลือ 1.1 หมื่นยูนิต ลดลง 17% ทำให้ในช่วงต้นปีมีการประเมินตลาดทรงตัว 5% เท่ากับปี 2556 แต่เมื่อปัญหาการเมืองยืดเยื้อมาถึง 6 เดือน จึงก็มีการปรับลดคาดการณ์เติบโตลงเรื่อยๆ เป็นติดลบ 2-5% นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด ระบุแนวโน้มเศรษฐกิจของไทยหลังจากนี้ว่า จะมีทิศทางที่ดีขึ้น ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ามาแก้ปัญหาด้านการเมือง และบริหารประเทศ อีกทั้งทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจที่คสช.ได้ตั้งขึ้นมาล่าสุด ล้วนแต่มีความสามารถ รวมถึงการประกาศเดินหน้าโครงการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค เช่น รถไฟรางคู่ ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นการเปิดหน้าดิน เพิ่มทำเลในการพัฒนาที่ดินและการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญที่เอกชนจะใช้ยึดเป็นหลักในการลงทุน "เมกะโปรเจค" ดันเปิดหน้าดินทำเลใหม่ ทั้งนี้ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญ คือ การเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภคของไทย เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปลายปี 2558 ซึ่งจะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ จากเดิมที่ไทยเป็นที่สนใจของนานาชาติเนื่องจากมีความพร้อมของระบบสาธารณูปโภคมากกว่าหลายประเทศในภูมิภาคนี้ แต่หลังจากเกิดปัญหาการเมือง ไทยก็เหมือนหยุดการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งหวังว่าหลังจากนี้ไทยจะเดินหน้าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่อไป ด้านนายวสันต์ เคียงศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพปัญหาการเมืองคลี่คลายและชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจในภาพรวม แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะไม่ขยายตัวแรง เพราะทั้งการส่งออก และการบริโภคในประเทศ ก็ยังอยู่ภาวะถดถอย ส่วนของการลงทุนต่างประเทศ เชื่อว่ายังคงชะลอการตัดสินใจลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ (wait and see) ต่อไป หากยังไม่มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ขณะที่แง่การใช้จ่ายของภาครัฐบาล แม้ว่าจะมีการจัดงบประจำปี 2558 แล้วเสร็จก่อนเดือนต.ค. แต่ก็เป็นงบปกติซึ่งไม่มีงบพิเศษแต่อย่างใด "ตัวเลขการส่งออก คล้ายๆ เดิม ไม่ดีขึ้น เพราะปริมาณส่งออกข้าวยังน้อย ต้องรอการปลูกข้าวรอบใหม่ แต่การอนุมัติโครงการของภาครัฐเพื่อเร่งจ่ายเงินจำนำข้าวแก่ชาวนา จะช่วยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น แต่คงไม่ทำให้เศรษฐกิจโตหวือหวาในทันที ทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจทรงตัวไปถึงสิ้นปีนี้ เพราะเท่าที่ประเมินกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เร็วสุดก็ปลายปี กว่าเรียกว่าเชื่อมั่นกลับมาคงเป็นปลายปีหรือต้นปีหน้า" เขายังกล่าวว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ ถือว่าเป็นทิศทางที่ดี เพราะช่วยกระตุ้นในระดับล่างคือภาคเกษตรได้ดี เช่น การเร่งจ่ายเงินค่าจำนำข้าวให้ชาวนาก็จะทำให้ชาวนามีเงินมาใช้จ่าย เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจก็น่าจะดีขึ้น และภาคอุตสาหกรรมจะเป็นภาคที่ได้รับผลดีตามมา ปัจจัยบวกดันอสังหาฯไตรมาสสามฟื้น โดยสภาวะดังกล่าวถือเป็นแง่บวกสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้กลับมา ผลักดันให้ธุรกิจอสังหาฯ มีอัตราการขยายตัวมากขึ้น เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ภาพการเมืองไม่มีความชัดเจน เป็นปัญหายืดเยื้อมากว่า 6 เดือน ทำให้มีการปรับลดการเติบโตตลาดอสังหาฯปีนี้เหลือติดลบ 2-5% ทั้งนี้ ตลาดอสังหาฯในครึ่งปีหลังจะขยายตัวมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคด้วยว่าจะกลับมาได้เร็วแค่ไหนด้วย เพราะผู้ประกอบทุกรายมีสินค้าพร้อมขายอยู่แล้ว "แม้ว่าภาพรวมตลาดจะดีขึ้น แต่ในแง่ยอดขายใหม่ปีนี้ เชื่อยังคงลดลงต่อเนื่อง จากการชะลอโครงการลงทุนของผู้ประกอบการ จึงทำให้รายได้มาจากการขายใหม่ปีนี้ติดลบ แต่รายได้ของบริษัทต่างๆ ไตรมาส 1 ยังเป็นบวก เพราะเป็นรายได้มาจากแบ็กล็อก" การเมืองชัดเจน ขาดเพียงความ "เชื่อมั่น" นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์ต่างๆ ที่มีความคืบหน้าไปทางบวก และมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ น่าทำให้จีดีพีปีนี้เติบโตได้มากขึ้น ซึ่งจะขาดเพียงความเชื่อมั่นอย่างเดียวว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก กรรมการบริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาการเมืองคลี่คลายระดับหนึ่ง ทำให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยมีมากขึ้น เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้ จะสามารถปลดล็อกปัญหาที่ยืดเยื้อ รวมทั้งเร่งปลดล็อกงบประมาณกระทรวงต่างๆ การอนุมัติโครงการของภาครัฐ ล่าสุดการเร่งจ่ายเงินจำนำข้าวแก่ชาวนา เป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ หากพิจารณาทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจของ คสช. เชื่อว่ามีความสามารถในการฟื้นความเชื่อมั่น ดังนั้น ประเมินภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ คาดมีแนวโน้มฟื้นตัวไตรมาส 3 นี้ โดยข้อมูลบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ระบุว่ายอดขายของผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเฉพาะคอนโดปรับลดลงถึง 80-90% ขณะที่ตลาดแนวราบลดลงกว่า 10% เทียบช่วงเดียวกันปี 2556 สำหรับค่ายอื่นที่จะรีวิวแผนลงทุนใหม่ช่วงเดือนมิ.ย.หลังสถานการณ์การเมืองเริ่มคลี่คลาย อาทิ แสนสิริ เดิมวางแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งปี 19 โครงการ 3.3 หมื่นล้านบาท, แอล.พี.เอ็น.ฯ เปิดโครงการใหม่ทั้งปี 12 โครงการ 2.07 หมื่นล้านบาท และเสนาดีเวลลอปเม้นท์ เปิดโครงการใหม่ทั้งปี 8 โครงการ มูลค่าขายรวม 5 พันล้านบาท Tags : อสังหาริมทรัพย์ • โสมพัฒน์ ไตรโสรัส • วสันต์ เคียงศิริ • คสช. • เศรษกิจ • เมกะโปรเจค