"ดีเอสไอ" เร่งสอบคดีปั่นหุ้น "โซลูชั่น คอนเนอร์" เรียก"ก.ล.ต." เข้าให้ปากคำ ยันดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน ขณะ "กมธ.ยกร่างฯ" เล็งห้ามซื้อหุ้นครอบงำสื่อ หวังสกัดอิทธิพลต่อการแสดงความเห็น และปิดกั้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เกรงกระทบต่อสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน หลังจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ยืนหลักฐานการสร้างราคาหุ้นบริษัทโซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ที่ผิดปกติระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-29 เม.ย.2553 และตรวจสอบเชิงลึกพบพยานหลักฐาน ทั้งที่เป็นพยานวัตถุและพยานเอกสาร ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2557 ที่ผ่านมา ล่าสุดวานนี้ (8 ม.ค.) พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีปั่นหุ้นบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1988) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ว่า สำนักคดีการเงินการธนาคาร ได้เชิญตัวแทนจากสำนักงานก.ล.ต. ในฐานะผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ มาให้การประกอบสำนวนคดีแล้ว หลังจากนี้จะสอบสวนดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน โดยคดีนี้ ก.ล.ต. ตรวจพบพฤติการณ์การปั่นหุ้นโซลูชั่น คอนเนอร์ ในปี 2553 และได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอเมื่อ เดือนก.ย. 2557 ที่ผ่านมา โดยขอให้ดีเอสสอบสวนการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ของ นายฉาย บุนนาค กับพวก ซึ่งมีพฤติกรรมปั่นหุ้นโซลูชั่น คอนเนอร์ ในลักษณะของการสร้างราคาผ่านบัญชีซื้อขายหุ้น สำหรับคดีนี้เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553 ซึ่ง ก.ล.ต. พบความผิดปกติในการซื้อขายหุ้น โซลูชั่น คอนเนอร์ ระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-29 เม.ย. 2553 ที่มีสภาพผิดไปจากปกติจากการกระทำของผู้ต้องสงสัย 11 ราย ซึ่งเป็นการซื้อแบบกระจายตัว และการส่งคำสั่งซื้อขายของบัญชีต้องสงสัย 9 บัญชี มีนัยเพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อปริมาณและราคาหุ้นโซลูชั่น คอนเนอร์ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 6.10 บาท. ในวันที่ 30 มี.ค.2553 เป็น 7.20 บาท ในวันที่ 29 เม.ย.2553 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.10 บาท หรือเพิ่มขึ้น 18.30% โดยสวนทางกับดัชนีตลาดเอ็ม เอ ไอ หรือ MAI ที่ปรับตัวลดลง 3.35% นอกจากนี้ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของหุ้นโซลูชั่น คอนเนอร์ ก่อนช่วงเวลาต้องสงสัย 30 วันทำการ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาต้องสงสัย 18 วันทำการ เพิ่มขึ้นจาก 660,000 หุ้น เป็น 2,240,000 หุ้น หรือเพิ่มขึ้น 239.4% โดยไม่มีสารสนเทศที่มีนัยสำคัญสนับสนุนทางการเพิ่มขึ้นของราคา การเพิ่มขึ้นของราคาและปริมาณหุ้นที่ผิดปกติเกิดจากคำสั่งซื้อหุ้นของบุคคลต้องสงสัย 9 ราย ซึ่งคิดเป็น 55.64% ของปริมาณการซื้อขายทั้งตลาด จากการโทรสอบถามนายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว แต่กลับไปรับการปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลในเรื่องนี้ "ผมไม่สะดวกที่จะคุย" นายอารักษ์ กล่าว กมธ.ยกร่างฯเล็งห้ามซื้อหุ้นครอบงำสื่อ ด้านความคืบหน้าตามประเด็นการพิจารณารายละเอียดในหลักการเฉพาะเรื่องของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามที่ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.ยกร่างฯ) ได้กำหนดให้มีคณะทำงานคณะเล็กไปพิจารณานั้น แหล่งข่าวจาก กมธ.ยกร่างฯ เปิดเผยว่า บทบัญญัติที่เกี่ยวกับสื่อมวลชน นอกจากจะคงบทบัญญัติด้านสื่อมวลชนตามที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ส่วนที่ 7 ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความเห็นของบุคคลและสื่อมวลชนกำหนดไว้แล้ว ยังเพิ่มสาระสำคัญใหม่ คือ กรณีที่บุคคลจะเข้าครอบงำหลายสื่อเพื่อก่อให้เกิดอิทธิพลต่อการแสดงความเห็นและนำเสนอข้อมูลข่าวสารจะกระทำไม่ได้ เพราะส่วนดังกล่าวถือเป็นผลกระทบต่อสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน อย่างไรก็ตาม มีรายละเอียดที่ต้องพิจารณา เช่น ในการทำข่าวต่างจังหวัดที่พบว่ามีนักท่องเที่ยวผูกคอตายในบังกะโลแห่งหนึ่ง แต่เจ้าของบังกะโลที่เป็นผู้มีอิทธิพลสั่งห้ามนักข่าวท้องถิ่นนำเสนอข่าว หากมีใครนำเสนอจะเกิดอันตรายกับนักข่าวคนนั้น ต่อไปจะถือเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ เด็ดขาด เพื่อปกป้องสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องของประชาชน ส่วนกรณีที่พบว่ามีนักธุรกิจกว้านซื้อหุ้นในธุรกิจสื่อมวลชนนั้น แหล่งข่าวบอกว่า เป็นประเด็นที่เข้ากรอบหลักการดังกล่าวเช่นกัน ก.ล.ต.กล่าวโทษ11รายปั่นหุ้นโซลูชั่น ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2557 ที่ผ่านมา สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษผู้กระทำผิด 11 ราย ได้แก่ 1.นายฉาย บุนนาค 2.นายปฐมัน บูรณะสิน 3.นายสุพิชยะ ฉายเหมือนวงศ์ 4.นายมีศักดิ์ มากบำรุง 5.นายอภินันทกานต์ พงศ์สถาบดี 6.นายเทพฤทธิ์ สีหิสราภิสิทธิ์ 7.นายทรี บุญปราศภัย 8.นายพาวิตต์ นาถะพินธุ 9.นางสาวชนาธิป ตันติพูนธรรม 10.นางสาวศิริญา ดำรงวิถีธรรม และ 11.นายไท บุญปราศภัย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีสร้างราคาหุ้น โซลูชั่น คอนเนอร์ สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับสภาพการซื้อขายหุ้นโซลูชั่น คอนเนอร์ ที่ผิดปกติระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-29 เม.ย.2553 ที่ผ่านมา จึงตรวจสอบเชิงลึกพบพยานหลักฐาน ทั้งที่เป็นพยานวัตถุและพยานเอกสาร เช่น บัญชีข้อมูลการซื้อขายหุ้นโซลูชั่น คอนเนอร์ บัญชีแสดงการหมุนเวียนเงินภายในกลุ่ม ซึ่งมีทั้งบัญชีกลาง บัญชีรายบุคคล บัญชีการจ่ายค่าตอบแทนเป็นรายเดือนให้กับบุคคล 7 ราย ที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุน ตลอดจนการให้ถ้อยคำยอมรับของผู้ต้องสงสัยบางราย เกี่ยวกับการควบคุมเงิน และการสั่งการในการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่า นายฉาย นายปฐมัน และนายสุพิชยะ ได้ตกลงรู้เห็นร่วมกันซื้อขายหุ้นโซลูชั่น คอนเนอร์ ในลักษณะสร้างราคาผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และบัญชีธนาคารของบุคคล 9 ราย ได้แก่ นายปฐมัน นายสุพิชยะ นายมีศักดิ์ นายอภินันทกานต์ นายเทพฤทธิ์ นายทรี นายพาวิตต์ นางสาวชนาธิป และนางสาวศิริญา พบพฤติกรรมสั่งซื้อขายหุ้นผิดปกติ โดยพฤติกรรมการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นโซลูชั่น คอนเนอร์ ของบุคคลกลุ่มนี้ มีลักษณะสอดรับกันในด้านจังหวะเวลา การส่งคำสั่งด้านซื้อและขายในปริมาณมากที่หลายระดับราคาเพื่อครองตลาด และควบคุมการเปลี่ยนแปลงราคา และทำราคาตลาดให้สูงขึ้นด้วยการส่งคำสั่งให้เกิดการซื้อขายระหว่างบัญชีของบุคคลในกลุ่ม อันเป็นการลวงให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นโซลูชั่น คอนเนอร์ ซึ่งเมื่อมีผู้ลงทุนจำนวนมากหลงเชื่อและเข้าซื้อขายตาม บัญชีซื้อขายของบุคคลทั้ง 9 รายข้างต้นก็ทยอยขายทำกำไร โดยมีนายไทช่วยเหลือสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้อง การกระทำในลักษณะข้างต้นเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243 (1) (2) ประกอบมาตรา 244 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ก.ล.ต. จึงได้ดำเนินการกล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นอำนาจและดุลพินิจของศาลยุติธรรม Tags : ก.ล.ต. • SLC • โซลูชั่น คอนเนอร์ • กมธ.ยกร่างฯ • อารักษ์ ราษฎร์บริหาร • แหล่งข่าว • ซื้อขายหุ้น