โบรกหั่นต้นทุนรับมือวอลุ่มหด

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 2 มิถุนายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    โบรกเกอร์เริ่มหันคุมต้นทุน ลดพนักงาน หลังมูลค่าการซื้อขายหด เหลือเฉลี่ยวันละ 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่คอมมิชชั่นยังแข่งดุ

    แหล่งข่าววงการบริษัทหลักทรัพย์ หรือ "โบรกเกอร์" เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจหลักทรัพย์ได้เริ่มทยอยลดพนักงานลง ในส่วนที่มีเงินเดือนระดับสูง เนื่องจากต้องการลดภาระต้นทุนในการดำเนินธุรกิจช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มขึ้น ล่าสุดมีกระแสข่าว โบรกเกอร์รายใหญ่ ที่มีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ติด 1 ใน 3 ได้เริ่มลดคนไปจำนวนหนึ่งแล้ว

    โดยบริษัทแม่มีแผนจะขยับฐานะเป็นบริษัทโฮลดิ้ง และเกลี่ยพนักงานบางส่วนที่ฐานเงินเดือนต่ำไปไว้ในบริษัทลูก ส่วนคนที่มีฐานะเงินเดือนสูงก็จะให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลเข้าไปเจรจาเพื่อตกลงเงื่อนไขที่จะให้ออก

    "สถานการณ์ในธุรกิจหลักทรัพย์ตอนนี้ บริษัทส่วนใหญ่ต้องปรับตัว โดยเฉพาะการบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายเพราะวอลุ่มการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยลดลงหากเทียบกับปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 3 หมื่นล้านบาทต่อวัน และมีการแข่งขันลดอัตราค่าคอมมิชชั่น จนสมาคมบล.เตรียมจะออกกฎเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใหม่เกิดขึ้น"

    ก่อนหน้านี้ นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASP) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถปรับโครงสร้างองค์กร และเปลี่ยนเป็นบริษัทโฮลดิ้งได้เร็วที่สุดเดือน มี.ค.2558 โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมแผนปรับโครงสร้างองค์กร โดยในระยะแรกโครงสร้างรายได้ของบริษัทฯ จะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนไป และรายได้หลักจะยังคงมาจากธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์เช่นเดิม

    "ในการปรับโครงสร้างองค์กร เป็นโฮลดิ้งคอมพานี จะใช้เวลาเร็วที่สุด 1 ปี ซึ่งหลังขอมติผู้ถือหุ้นน่าจะทันในเดือน มี.ค.ปีหน้า โดยในระยะแรกโครงสร้างรายได้ยังคงเดิม เพียงแต่การปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อแยกความเสี่ยงของแต่ละธุรกิจออกจากกัน" ดร.ก้องเกียรติ กล่าว

    น.ส.สุดธิดา จิระพัฒน์สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) กล่าวว่าแผนการปรับโครงสร้างกิจการของบริษัท เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ และเพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ขณะเดียวกันยังช่วยจำกัดขอบเขตความเสี่ยงที่แตกต่างกันระหว่างธุรกิจการเป็นตัวแทน และธุรกิจลงทุนด้วยเงินทุนของบริษัท

    การปรับโครงสร้างกิจการ โดยจัดตั้งบริษัท Holding Company จะทำให้สามารถขยายฐานการเติบโตทางธุรกิจมากขึ้น เพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ และสร้างความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจใหม่ เช่นธุรกิจอื่นๆ ที่มิใช่ธุรกิจหลักทรัพย์ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแล และสามารถกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจแต่ละด้าน ไม่ให้กระจุกตัวอยู่กับบริษัทแม่เพียงบริษัทเดียว

    ขณะเดียวกันยังเป็นการเปิดโอกาสในการหาพันธมิตร หรือผู้ร่วมทุนใหม่ๆ ที่มีความชำนาญเฉพาะธุรกิจ ที่ต้องการเข้ามาร่วมมือและร่วมทุนเป็นรายธุรกิจก็สามารถทำได้ เพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ภายหลังการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรองรับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงเพิ่มช่องทางในการหารายได้และกระจายความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจในอนาคต ท่ามกลางการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้น

    ส่วนโครงสร้างกิจการจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบของ Holding Company แต่ในแง่ของโครงสร้างรายได้ยังคงมีรายได้ ใกล้เคียงกับรูปแบบเดิม และการบริหารงานก็ยังคงมีลักษณะคล้ายกับการบริหารงานเดิมของบริษัทฯ โดยเปลี่ยนแปลงแต่เพียงให้คณะกรรมการหลักในการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งได้แก่ คณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการชุดย่อย มาบริหารงานอยู่ที่บริษัทโฮลดิ้ง ในการกำกับดูแลกิจการ และการบริหารงาน

    Tags : โบรกเกอร์ • บริษัทหลักทรัพย์ • คอมมิชชั่น

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้