ปตท.สผ.รื้อลงทุน5โครงการใหม่

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 7 มกราคม 2015.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ปตท.สผ.เตรียมทบทวนแผนลงทุน 5 โครงการใหม่ หลังน้ำมันดิบร่วงต่ำกว่า 50 ดอลลาร์/บาร์เรล

    รอ 1-2 เดือนประเมินแนวโน้ม ขณะนักวิเคราะห์คาดมีโอกาสร่วงแตะ 40 ดอลลาร์

    บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) เตรียมทบทวนการลงทุนใหม่ 5 โครงการ หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลงมาต่ำกว่าระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่ปรับแผนการลงทุนใหม่ จากปลายปีที่ผ่านมา ปตท.สผ. แจ้งแผนลงทุน 5 ปี (2558-2562) โดยมีตัดงบลงทุนไม่มากนัก แต่ยังตั้งสมมติฐานว่าราคาน้ำมันในปี 2558 จะอยู่ที่ระดับ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล

    นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. กล่าวว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงรวดเร็วกว่าที่คาด โดยเมื่อวันที่ 5 ม.ค.2558 ราคาน้ำมันดิบดูไบลงมาที่ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งต่ำสุดในรอบ 6 ปี

    "ไม่แน่ใจว่าราคาจะลดต่ำลงไปอีกมากน้อยแค่ไหน แต่ถือเป็นระดับที่กระทบต่อธุรกิจสำรวจและผลิตน้ำมัน"

    นายเทวินทร์ กล่าวว่าเมื่อปลายปีที่แล้ว คณะกรรมการบริษัทได้เห็นชอบแผนลงทุน 5 ปี ซึ่งเป็นแผนที่ยืดหยุ่นภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล จะมีการพัฒนาโครงการใหม่ และปีนี้ยอดผลิตเติบโต 6- 7%

    แต่ในช่วงเวลาที่ราคาน้ำมันปรับลดลงมาในระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล บริษัทคงใช้จังหวะเวลานี้มาทบทวนแผนลงทุนโครงการใหม่ 5 แห่ง ได้แก่ แหล่ง M3 ในพม่า , แหล่ง Cash Maple ที่ออสเตรเลีย, แหล่งในโมซัมบิก , แหล่งออยล์แซนด์ เคเคดี ในแคนาดา และแหล่งฮัลซีบาราเกซในอัลจีเรีย

    นายเทวินทร์ กล่าวว่าจะรอติดตามทิศทางราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอีก 1-2 เดือน คาดว่าจะได้ความชัดเจนในปลายปี 2558 ว่าจะลงทุนต่อไปอย่างไร

    ชี้ระดับ40ดอลลาร์พัฒนาแหล่งใหม่ยาก

    นายเทวินทร์ กล่าวว่า บริษัทยังได้วางแผนกรณีที่ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลงเฉลี่ยที่ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล ในแผนลงทุน 5 ปีก็ยืดหยุ่นให้สามารถปรับลดงบลงทุน โดยจะไม่กระทบการผลิตในปัจจุบันที่บริษัทลงทุนไปแล้ว แต่จะมีผลต่อการผลิตเพื่อเก็บสะสมปริมาณสำรองในอนาคต

    ก่อนหน้านั้น ปตท.สผ.ระบุว่าต้นทุนการผลิตน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 42 ดอลลาร์/บาร์เรล

    "ไม่มีใครสามารถที่จะคาดการณ์ได้ว่าราคาน้ำมันดิบจะลดลงต่ำกว่าระดับที่เป็นอยู่นี้อีกหรือไม่ เพราะในช่วงที่ราคาน้ำมันต่ำกว่า 60 ดอลลาร์/บาร์เรล ก็มีการมองกันว่าราคาน่าจะดีดกลับ แต่ก็ยังปรับตัวลดลงมาอีก ทำให้บริษัทต้องมองถึงการปรับแผนการลงทุนในแหล่งใหม่ๆของบริษัทที่มีต้นทุนสูง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ราคาน้ำมันจะลงไปที่ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล เราก็ยังผลิต ในประเทศเราไม่ลดการผลิต แต่การพัฒนาในแหล่งใหม่ โอกาสก็ยากขึ้น " นายเทวินทร์กล่าว

    ทั้งนี้ ในช่วงกลางปีนี้ ปตท.สผ.จะทบทวนเป้าหมายการผลิต 6 แสนบาร์เรล/วัน ว่าจะปรับลดลง หรือยืดระยะเวลาเป้าหมายราคาหุ้น ปตท.สผ.(PTTEP) ปิดตลาดวานนี้(6 ม.ค.) อยู่ที่ 107 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 889.41 ล้านบาท

    น้ำมันดิบตลาดโลกหลุด50ดอลล์

    น้ำมันดิบในตลาดโลกหลุดระดับจิตวิทยา ทรุดต่ำกว่า 50 ดอลล์ครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปี หลังประเทศผู้ผลิตรายใหญ่เพิ่มปริมาณการผลิต ขณะซาอุฯลดราคาให้ผู้ซื้อในยุโรปกับสหรัฐ หวังแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด นักวิเคราะห์ชี้ยังไม่เห็นจุดต่ำสุด คาดราคาอาจดิ่งไป 40-45 ดอลลาร์

    ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียท ส่งมอบเดือนก.พ. ในตลาดนิวยอร์ก ทะลุระดับจิตวิทยาโดยร่วงลงแตะระดับ 49.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อันเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนพ.ค. 2552 ระหว่างการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ (5 ม.ค.) ก่อนดีดตัวมาปิดตลาดที่ 50.04 ดอลลาร์ หรือลดลง 2.65 ดอลลาร์ ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ร่วงลงไป 3.31 ดอลลาร์ เหลือ 53.11 ดอลลาร์

    ส่วนในตลาดสิงคโปร์วานนี้ (6 ม.ค.) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส ดีดตีวขึ้นอีก 9 เซนต์ที่ 50.13 ดอลลาร์ สำหรับน้ำมันดิบเบรนต์เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ที่ 53.33 ดอลลาร์

    ราคาน้ำมันลดลง หลังมีสัญญาณว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่างรัสเซียกับอิรักได้เพิ่มปริมาณการผลิต ทั้งที่ความต้องการใช้น้ำมันในโลกลดลง โดยกระทรวงน้ำมันอิรักเผยว่าการส่งออกน้ำมันดิบเดือนธ.ค. สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2523 ขณะที่ผลผลิตน้ำมันของรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว สูงที่สุดหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ด้วยปริมาณการผลิตเฉลี่ยวันละ 10.58 ล้านบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 0.7%

    ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงยังมาจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 11% เมื่อปีที่แล้วเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ในตะกร้าเงิน ปัจจัยเหล่านี้บดบังข่าวที่ว่าผลผลิตน้ำมันของลิเบียลดลงเหลือวันละ 380,000 บาร์เรล เพราะความขัดแย้งในประเทศ

    นอกจากนั้น ซาอุดีอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุด ยังเผยว่าได้ลดราคาน้ำมันรายเดือนให้แก่ผู้ซื้อในยุโรป นับเป็นการลดราคาครั้งที่ 6 ตั้งแต่เดือนมิ.ย. นักวิเคราะห์มองว่าการลดราคาครั้งนี้สะท้อนความพยายามอันดุเดือดของซาอุดีอาระเบียในการปกป้องส่วนแบ่งตลาด โดยนอกจากยุโรปแล้ว ซาอุดีอาระเบียยังลดราคาน้ำมันให้แก่โรงกลั่นในสหรัฐเป็นเดือนที่ 6 ติดกัน และขึ้นราคาน้ำมันที่ขายให้เอเชีย

    คาดมีโอกาสแตะ40ดอลล์

    นักวิเคราะห์กล่าวว่าราคาน้ำมันอาจร่วงลงอีก โดยนายไคลน์ คูเปอร์ แห่งบริษัทไอเอเอฟแอดไวเซอร์ กล่าวว่าหลายฝ่ายวิตกว่ายังไม่เห็นจุดต่ำสุดของราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันพยายามหาจุดที่มีเสถียรภาพในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ปัจจัยพื้นฐานยังอ่อนแอ

    นายฟาวัด ราซักซาดา นักวิเคราะห์แห่งฟอเรกซ์ดอทคอม กล่าวว่าการทะลุระดับจิตวิทยาที่ 50 ดอลลาร์อาจจุดชนวนการเทขาย และอาจทำให้ราคาดิ่งลงไปถึง 40-45 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

    นักวิเคราะห์คาดว่าการผลิตน้ำมันจากหินดินดานของสหรัฐ จะยังมีประมาณเพิ่มขึ้น ผลจากเม็ดเงินลงทุนลงไปแล้ว สภาพการณ์ดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันแก่ราคาน้ำมันดิบ

    นายไมเคิล แมคคาร์ธีย์ นักยุทธศาสตร์แห่งซีเอ็มซีมาร์เกต กล่าวว่าราคาน้ำมันอาจมีเสถียรภาพหากปริมาณการผลิตในโลกลดลงหลังจากราคาทรุดตัว และประเทศอย่างจีนกับสหภาพยุโรปทบทวนแนวโน้มความต้องการในไตรมาสนี้

    คาดศก.เอเชียโตเพิ่ม0.25-0.5%

    นักวิเคราะห์บางคนคาดว่าราคาน้ำมันที่ถูกลงจะทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจในการจับจ่ายมากขึ้นและหนุนนำเศรษฐกิจโลก แต่ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันโลกที่ลดลง 50% ตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้วก็ก่อให้เกิดความวิตกเรื่องเงินฝืด โดยนักวิเคราะห์ของเอเอ็นแซต ระบุว่า ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้รถ แต่เป็นเรื่องปวดศีรษะสำหรับผู้กำหนดนโยบาย ในช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐพยายามปรับนโยบายกลับสู่ภาวะปกติ และยุโรปไม่ต้องการเผชิญเงินฝืด

    บริษัทที่ปรึกษาแคปิตอลอิโคโนมิก ระบุว่าราคาน้ำมันที่ลดลงน่าจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศตลาดเกิดใหม่ของเอเชียเติบโตได้ 4.7% ปีนี้ จาก 4.3% เมื่อปีที่แล้ว

    นายราจีฟ บิสวัส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งบริษัทที่ปรึกษาไอเอชเอส กล่าวว่าราคาน้ำมันที่ลดลงน่าจะทำให้จีดีพีของเอเชียแปซิฟิกขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีก 0.25-0.5% ขณะที่นายโทบี อิลเลส นักวิเคราะห์แห่งอีโคโนมิสต์อินเทลลิเจนซ์ยูนิต กล่าวว่าได้ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีปีนี้ของจีนเป็น 7.1% ผลจากราคาน้ำมันลดลง

    ด้านกระทรวงน้ำมันของอินเดีย คำนวณว่าราคาน้ำมันที่ลดลงทุกๆ ดอลลาร์ จะทำให้ภาระในการอุดหนุนพลังงานของรัฐบาลลดลง 1,000 ล้านดอลลาร์ และนายเซดริก ชีฮับ หัวหน้าฝ่ายวิจัยแห่งบิซิเนสมอนิเตอร์อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่าปัจจัยนี้จะช่วยผลักดันจีดีพีอินเดียให้ขยายตัวได้ 6.3% ในปีงบประมาณหน้า จาก 5.6% ในปีงบประมาณปัจจุบันที่สิ้นสุดเดือนมี.ค.

    แต่ประเทศอย่างมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของเอเชีย อาจมีรายได้เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันลดลงปีนี้

    โบรกฯเผยปตท.สผ.กระทบหนักสุด

    นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรกลุ่มพลังงานปีนี้จะเพิ่มขึ้น 3% จากปี 2557 ที่คาดการณ์ว่า กำไรกลุ่มพลังงานจะลดลง 13% จากปี 2556 โดยกลุ่มปตท. ประเมินว่า จะมีกำไรสุทธิ 90,000 ล้านบาท ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    บริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่มีกำไรโดดเด่นในปี 2558 คือบริษัท ไทยออยล์ (TOP) ซึ่งจะพลิกจากขาดทุนสุทธิเป็นกำไรสุทธิ และบริษัท ปตท. ที่จะได้อานิสงส์จากกรปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ จะทำให้บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก โดยประเมินว่ากำไรของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จะลดลง 20% ในปีนี้

    "ราคาหุ้นกลุ่มปตท.ที่ปรับลดลงวานนี้ เป็นผลมาจากนักลงทุนตื่นตระหนกจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงรวดเร็ว ฝ่ายวิจัยประเมิน ราคาน้ำมันดิบปีนี้ จะกลับมายืนที่ระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ จึงยังไม่ปรับประมาณกำไรทั้งปี"

    นายกฤษณ์ สุวรรณพิบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่าแนวโน้มระยะสั้น มีโอกาสรีบาวน์ขึ้นมาได้ หากขึ้นมาที่ระดับ 51 ดอลลาร์/บาร์เรลได้อีกครั้งจะทรงตัวในระดับนี้ แนวโน้มระยะกลางมองว่า ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเมื่อปี 2552 ที่ 33.8 ดอลลาร์/บาร์เรลเช่นกัน

    Tags : ปตท.สผ. • ลงทุน • เทวินทร์ วงศ์วานิช • น้ำมันดิบ • ตลาดโลก • อินเดีย • ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้