ปี2557ที่กำลังจะผ่านไป แม้ว่าตลาดรถยนต์จะหดตัวอย่างมากโดยข้อมูลถึงเดือนพ.ย.ยอดขายลดลง34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามปีนี้ ในแง่ของสีสันรถยนต์กลับสวนทางกับตลาด มีทั้งกิจกรรม และรถใหม่ หรือปรับโฉมใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง และใน เทสต์ ฮอต ไดรฟ์ ตลอดปีที่ผ่านมา มีรถมากมายหลายรุ่นที่ผ่านคอลัมน์นี้ และหากต้องการให้เลือกออกมาเป็นรถตัวเด่น หรือ รถที่ชอบ ประทับใจ ผมตอบได้เลยว่าคงทำไม่ได้ เพราะแต่ละคันก็มีส่วนที่ชอบแตกต่างกันออกไป มีจุดดี จุดเด่น จุดด้อย ที่แตกต่างกันออกไป แต่จะทำอย่างไร หากจะหยิบยกรถบางคันขึ้นมาสรุปรวมเล่าสู่กันฟัง ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปฉลองเทศกาลปีใหม่ และกลับมาพบกันอีกครั้งปีหน้า เอาเป็นว่าผมขอเลือกรถที่มีคนพูดถึงถามถึง ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องดีที่สุด แต่ตรงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งความต้องการก็มาจากหลายองค์ประกอบ เช่น ราคาที่เหมาะสม รายละเอียดในการใช้งาน รูปทรง หรือความชอบส่วนตัว หรือรถที่มีการถามไถ่ด้วยความอยากรู้ แม้จะยังไม่ตัดสินใจซื้อก็ตาม ต้นๆปี รถที่คนสนใจอย่างมากคันหนึ่งคือ นิสสัน จู๊ค หลังจากที่นิสสันตัดสินใจนำเข้ามาทำตลาดเองตั้งแต่ช่วงปลายปี 2556 ทำให้ราคาลดต่ำลงเกือบครึ่งเมื่อเทียบกับตอนขายโดยเกรย์มาร์เก็ต ด้วยชื่อที่คนรู้จักมาก่อนหน้ากับรูปทรงที่สะดุดตา ทำให้มันได้รับความสนใจอย่างมาก จู๊ค ให้ความสำคัญกับแนวคิดในการออกแบบเต็มที่ ให้ความสำคัญกับเส้นสาย รูปทรงมากกว่าความสะดวกสบาย ทำให้เบาะนั่งเบาะหลังคับแคบเล็กน้อย จากรูปทรงของหลังคาที่ลาดลง แต่ก็มีลูกเล่นเข้ามาหลายอย่างเช่น จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว กับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เชื่อมต่อไว-ไฟ ได้ และถอดออกไปเล่นนอกรถเหมือนแทบเล็ตตัวหนึ่งได้ หรืออุปกรณ์ควบคุมระบบปรับอากาศกับควบคุมระบบการขับขี่ใช้ชุดเดียวกัน ปุ่มหมุนก็ปุ่มเดียวกัน เพียงแต่กดปุ่มเล็กๆ 2 ปุ่ม ว่าจะควบคุมอะไร ระหว่าง CLIMATE กับ D-MODE ถือเป็นรถที่ขับได้ดี เครื่องยนต์ตอบสนองใช้ได้ ช่วงล่างก็ไว้ใจได้เช่นกัน ฟอร์ด อีโค บูสต์ โดดเด่นกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ขนาดเล็ก 1 ลิตร 3 สูบ แต่ให้กำลัง 125 แรงม้า แรงบิด 170 นิวตันเมตร ซึ่งจุดเด่นหลักก็คือเครื่องยนต์ที่จัดจ้าน ออกตัวดี อัตราเร่งดี เมื่อบวกกับตัวถังขนาดกะทัดรัด ช่วยให้การขับขี่ในเมืองมีความคล่องตัวสูง และเมื่อออกนอกเมือง คำว่าเล็กพริกขี้หนูนำมาใช้ได้กับ อีโคบูสต์ ความเร็วระดับการเดินทาง 120-130 เป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่ถ้าเผลอออกคันเร่งลงไประดับ 150-160 มาได้แบบไม่ต้องรอ ช่วงต้นปีลูกค้ารถหรูสิ้นสุดการรอคอย เมื่อเมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว ซี-คลาส ใหม่ ซึ่งแน่นอนเรื่องความหรูหราไม่ต้องถามให้เสียเวลา อุปกรณ์ต่างๆใส่มาเต็มที่ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปของซี-คลาส เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ก็คือ อารมณ์สปอร์ตที่เติมเข้ามาอย่างชัดเจน ทำให้มันได้ทั้งอารมณ์หรู นุ่มนั่งสบาย ตามแบบฉบับที่ลูกค้าตราดาวชื่นชอบ และเติมสปอร์ต เพื่อจับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ตามแผนการขยายฐานลูกค้าในตลาดโลก มันมีตัวถังใหญ่ขึ้น เพื่อเอาใจลูกค้าอารมณ์เดิม แต่การใช้อะลูมิเนียมมากขึ้น ทำให้ลดน้ำหนักลงได้ 100 กก. ก็ช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ตได้อีกทาง หลังจากที่มาสด้าบุกเบิกเทคโนโลยีสกายแอคทีฟกับ ซีเอ็กซ์-5 จนได้รับการยอมรับ รถที่จะสร้างยอดขายในเชิงปริมาณก็ตามมา นั่นคือ มาสด้า-3 มันเป็นรถที่สร้างขึ้นมาใหม่ ด้วยแนวคิดใหม่ ไม่ได้ต่อยอดจากรุ่นเดิม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนยุคการออกแบบมาเป็นยุคที่เรียกว่า โคโดะ จุดเด่นคือเครื่องยนต์ที่ตอบสนองดี และประหยัด กับช่วงล่างที่ไม่เสียชื่อชั้นมาสด้า คือ นิ่ง และสนุกในทางโค้ง คันนี้ ด้านการตลาดดูจะเงียบๆ ไปสักหน่อย แต่ช่วงที่เปิดตัวก็เป็นรถที่ได้รับการถามไถ่ถึงไม่น้อย สำหรับ ซูซูกิ เซเลริโอ อีโค คาร์ ที่ตัดในใจขยับมาใช้เครื่องเล็ก 1 ลิตร แต่จริงๆแล้วสมรรถนะไม่ได้เล็กตาม แม้แรงม้าจะไม่สูงนัก อยู่ที่ 68 แรงม้า ก็ตาม แต่ไม่น่าเชื่อว่าการตอบสนอง อัตราเร่งทำได้ดี ขณะที่ช่วงล่างก็ทำได้เกินคาดหมายเช่นกัน แต่การที่ยอดไม่เดินเท่าที่ควร น่าจะเป็นผลมาจากเรื่องของขนาดตัวถังที่เล็กกว่า และอาจจะมีปัจจัยทัศนคติผู้บริโภคที่ยังไม่ค่อยเชื่อใจเครื่องเล็กมากนัก ผู้มาใหม่ เอ็มจี พยายามสอดแทรกเข้าสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทย โดยชูจุุดขาย การเป็นรถอังกฤษ แต่ปัญหาของเอ็มจี ก็คือ ฟังก์ชั่นการใช้งานของรถที่ดูจะตามหลังคู่แข่งจากญี่ปุ่นอยู่พอควร ซึ่งเป็นสิ่งที่เอ็มจีบอกว่าจะต้องแก้ไขในการไมเนอร์เชนข์ต่อไป จริงๆแล่ว เอ็มจี 6 ถือว่าเป็นรถที่ขับดี ในรูปแบบนิ่งๆ เหมือนผู้ใหญ่ไม่มีอารมณ์เกรี้ยวกราดเหมือนวัยรุ่น ขับทางไกลดี นิ่ง แต่อาจจะรู้สึกกระด้างไปบ้าง ผ่านครึ่งปีไม่นาน ผมได้สัมผัสกับรถหรูในแทรค นั่นคือ ฝูงแอสตันมาร์ตินหลายรุ่น ทั้ง ดีบี 9, แวนเทจ เอส คูเป้ และแวนเทจ มันเป็นรถที่ขับสนุกทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่างมาพร้อม และผมสรุปนิยามสั้นๆว่า เป็นซูเปอร์คาร์ ที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ได้ซื้อมาจอดเฉยๆครับ มินิ ปรับโฉมใหม่เจเนอเรชั่นที่ 3 กับรหัสใหม่ เอฟ 56 การเปลี่ยนแปลงสำคัญของมันก็คือ ตัวถังใหญ่ขึ้นทุกมิติ เพื่อตอบสนองการใช้งานมากขึ้น ทั้งการนั่ง หรือการบรรทุกสัมภาระเดินทาง ช่วงล่างที่ไม่ได้ดิบเหมือนกับรุ่นแรก ลูกเล่นภายในที่เพิ่มเติมเข้ามามากมาย ทั้งแสงสีเสียง แต่อารมณ์กระชากกระชั้น จี๊ดจ๊าด ยังคงอยู่เช่นเดิม บีเอ็มดับเบิลยู 420ดี ผมให้นิยามว่าเป็นรถของคนชอบขับ มีบุคลิกเฉพาะตัว ขับสนุกตามรูปแบบบีเอ็มดับเบิลยู คล่องตัวสูงทั้งในกรุงเทพ และเดินทางไกล ที่สำคัญแม้จะใช้ความเร็วตลอดเส้นทาง แต่มันกินน้ำมันไปนิดเดียวเท่านั้น แม้ว่าตอนนี้ น้ำมันจะมีราคาลดลง ซีเอ็นจี เพิ่มขึ้น แต่ผู้บริโภคคิดคำนวณแล้วก็ยังเห็นว่าใช้ก๊าซประหยัดกว่า เห็นได้จากงานมหกรรมยานยนต์ที่ผ่านมา ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี มียอดจองที่สูงมาก ซิตี้โฉมปัจจุบัน พัฒนาขึ้นจากตัวเดิมชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องของช่วงล่างและการควบคุมรถ และในโฉมของซีเอ็นจี จุดเด่นคือ คอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานที่ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์ลื่นไหล ไม่ว่าจะใช้เชื้อเพลิงน้ำมัน หรือ ซีเอ็นจี ก็ตาม มาสด้า 2 เป็นอีโค คาร์ ตัวแรกที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล แม้จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการรวมถึงราคา จนกว่าจะถึงเดือน ม.ค.ปีหน้า แต่ขณะนี้ยอดจองก็มีเข้ามาไม่น้อยทีเดียว ประสบการณ์ในการขับในสนามแข่งโบนันซ่า ทำให้รู้ว่าเครื่องยนต์จะเป็นจุดขายหลักของมัน ควบคู่ไปกับช่วงล่างที่ปรับปรุงดีขึ้นจากรุ่นเดิมชัดเจน การใช้ความเร็วในโค้ง รถนิ่ง ไม่มีอาการสะบัดเหมือนโฉมที่ผ่านมา ปิดท้ายด้วย ฮอนด้า เอชอาร์-วี รถที่ขับง่าย นุ่มนวลนั่งสบาย ชนิดที่เชื่อว่าลูกค้าฮอนด้าชอบแน่ และเติมอารมณ์สปอร์ตเข้าไปให้มัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างที่ดีขึ้น พวงมาลัยมีน้ำหนักมากขึ้น ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น หรือจะเทียบง่ายๆ ก็คือ มันขับดีกว่าซีวิค ครับ Tags : ยานยนต์ • ตลาดรถยนต์ • ทดสอบ • ยอดขาย • มหกรรม • ฟอร์ด • โตโยต้า • นิสสัน • เมอร์เซเดส-เบนซ์ • ซูซูกิ