เปิดคำร้องกลต.ดำเนินคดี'ฉาย บุนนาค'ปั่นหุ้น

เปิดเอกสารคำร้อง ก.ล.ต. ให้ดีเอสไอสอบดำเนินคดี "ฉาย บุนนาค" ระบุเป็นศูนย์กลาง-ควบคุมซื้อขาย-ปั่นหุ้น SLC

โดยคดีนี้ ก.ล.ต.มีหลักฐาน 30 รายการ จำนวน 300 หน้ากระดาษ บรรยายพฤติการณ์สร้างราคาหุ้น โอนเงินซื้อหุ้นไปมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 57 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ได้ทำหนังสือเลขที่ ก.ล.ต.2266/2557 ส่งถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอให้สอบสวนการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ของนายฉาย บุนนาค กับพวก ซึ่งมีพฤติกรรมปั่นหุ้นบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1988) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ในลักษณะของการสร้างราคาผ่านบัญชีซื้อขายหุ้น พร้อมกันนี้ก.ล.ต.ได้ส่งเอกสารหลักฐานการตรวจสอบ 31 รายการ. จำนวน. 300. หน้ากระดาษ มาให้ดีเอสไอสอบสวนดำเนินคดีกับนายฉาย บุนนาค.ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการปั่นหุ้น SLC โดยพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ ได้ส่งหนังสือคำร้องของก.ล.ต. ให้สำนักคดีการเงินการธนาคารสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี

สำหรับบุคคลที่ถูก ก.ล.ต.ระบุรายชื่อพร้อมพฤติกรรมให้ดีเอสไอสอบสวนดำเนินคดีฐานให้การสนับสนุนการปั่นหุ้นของนายฉาย บุนนาค รวม10 ราย ประกอบด้วย นายปฐมัน บูรณะสิน , นายสุพิชยะ ฉายเหมือนวงศ์, นายมีศักดิ์ มากบำรุง, นายอภินันทกานต์ พงศ์สถาบดี, นายเทพฤทธิ์ สิหิสราภิสิทธิ์ , นายทรี บุญปราศภัย, น.ส.ชนาธิป ตันติพูนธรรม, นายพาวิตต์ นาถะพินธุ ,น.ส.ศิริญา ดำรงวิถีธรรม และนายไท บุญปราศภัย

หนังสือคำร้องของ ก.ล.ต.ระบุว่า ก.ล.ต.จับตาการซื้อขาย SLC มาตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.-29. เม.ย.53. และการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.-21 ก.ค.53. ทำให้พบความผิดปกติในการซื้อขายหุ้นSLC ระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-29 เม.ย. 53 ซึ่งมีสภาพผิดไปจากปกติจากการกระทำของผู้ต้องสงสัย 11 ราย ซึ่งเป็นการซื้อแบบกระจายตัว และการส่งคำสั่งซื้อขายของบัญชีต้องสงสัย 9 บัญชี มีนัยเพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อปริมาณและราคาหุ้น SLC ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 6.10 บาท ในวันที่ 30 มี.ค.53 เป็น 7.20 บาท ในวันที่ 29 เม.ย.53 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.10 บาท หรือร้อยละ 18.30 โดยสวนทางกับดัชนีตลาด (MAI) ที่ปรับตัวลดลงร้อยละ 3.35 นอกจากนี้ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของหุ้น SLC ก่อนช่วงเวลาต้องสงสัย 30 วันทำการ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาต้องสงสัย 18 วันทำการ เพิ่มขึ้นจาก 660,000 หุ้น เป็น 2,240,000 หุ้น หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 239.4 โดยไม่มีสารสนเทศที่มีนัยสำคัญสนับสนุนทางการเพิ่มขึ้นของราคา และปริมาณหุ้นที่ผิดปกติเกิดจากคำสั่งซื้อหุ้นของบุคคลต้องสงสัย 9 ราย คือนายปฐมัน นายสุพิชยะ นายอภินันทกานต์ นายทรี น.ส.ชนาธิป นายเทพฤทธิ์ นายพาวิตต์ และน.ส.ศิริญา ซึ่งคืดเป็นร้อยละ 55.64 ของปริมาณการซื้อขายทั้งตลาด

คำร้องของก.ล.ต.ยังได้บรรยายพฤติกรรมการซื้อขายหุ้นSLC ที่ไม่เป็นปกติด้วยว่า หากมีการซื้อหุ้นบุคคลต้องสงสัยจะซื้อในวันเดียวกัน กรอบเวลาเดียวกัน และในวันที่ไม่เข้าซื้อขายก็จะไม่เข้าซื้อขายทั้ง 9 บัญชี โดยในวันที่มีการซื้อจะซื้อตั้งแต่ 1,000 หุ้น จนถึง 8,046,300 หุ้น และร้อยละ 55.96 ของราคาหุ้นSLC ที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลมาจากการซื้อขายของ 9 บัญชีต้องสงสัย หากเป็นวันทำการที่บุคคลทั้ง 9 ไม่เข้าซื้อบัญชีจะนิ่ง ราคาเปิดไม่เปลี่ยนแปลง

สำหรับข้อมูลในชั้นสืบสวนระบุประวัติของนายฉายว่า เคยทำงานในบล.นครหลวงไทย ภายหลังลาออกจาก บล.นครหลวงไทย ได้หันมาลงทุนในหุ้นกลุ่มต่างๆ โดยในปี 49 นายฉายถูก ก.ล.ต.ปรับฐานปั่นหุ้น 4.8 ล้านบาท และปรับผู้สนับสนุนการปั่นหุ้น 2 รายๆละ 3.3 แสนบาท ต่อมาในปี 51-53 นายฉายกับพวกถูกดำเนินคดีฐานปั่นหุ้นอีก อย่างไรก็ตาม ในชั้นการตรวจสอบของก.ล.ต.ระบุถึงหุ้น SLC ว่า เดิมผู้ถือหุ้นใหญ่คือนายนิทัศน์ มณีศิลาสิทธิ์ จากนั้นมีการขายหุ้นให้นายดิเรก วงศ์ชินศรี ในราคาหุ้นละ 3.50 บาทรวมเป็นเงิน 114 ล้านบาท โดยเงินลงทุนที่นายดิเรกนำมาซื้อหุ้นเป็นเงินทุนที่รวบรวมจากหลายบัญชี และเป็นเงินจากบัญชีของนายฉาย บุนนาค จำนวน 75 ล้านบาท ส่วนนายปฐมันและนายสุพิชยะร่วมทุน 10 ล้านบาท ข้อเท็จจริงในชั้นสืบสวนบ่งชี้ว่านายฉายเป็นผู้ควบคุมการใช้จ่ายเงินทุนดังกล่าว เพื่อซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่รายเดียว รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับการทำคำเสนอซื้อหุ้นจากบุคคลทั่วไปในการสนับสนุนการซื้อขายหุ้น SLC ในบัญชีต้องสงสัยที่มีพฤติการณ์สร้างราคาหุ้น SLC

ในชั้นสืบสวนพยาน (นายไท บุญปราศภัย) ซึ่งทำงานในบล.คันทรี่กรุ๊ป ให้การด้วยความสมัครใจพร้อมมอบพยานเอกสารประกอบ ระบุว่านายฉาย มอบหมายให้รวบรวมและบันทึกข้อมูลจัดส่งให้ โดยมีข้อมูลการซื้อขายหุ้นSLC รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ในการตรวจสอบบัญชีกระแสการเงินของผู้ต้องสงสัยยังพบความสัมพันธ์ทางการเงินระหว่างกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่มีการโอนเงินไปมา เช่น การถอนเงินจากบัญชีของนายปฐมันจำนวน 3.8 ล้านบาทที่ระบุว่าโอนให้นายฉายและกองกลางเพื่อซื้อหุ้นSLC การโอนเงินจากบัญชีนายสุพิชยะเข้าบัญชีนายปฐมันโดยระบุว่าเป็นการจ่ายค่าหุ้น SLC หรือการนำเงินฝากเข้าบัญชีตนเองของผู้ต้องสงสัยบางคนก่อนนำไปสั่งซื้อหุ้น SLC รวมถึงการลงบัญชีว่ามีการรับเงินจากบัญชีกองกลางเพื่อนำไปชำระค่าหุ้น SLC เป็นต้น

พฤติการณ์ของผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้จึงเป็นการสร้างภาพลวงว่าราคาหุ้นSLC ปรับตัวสูงขึ้น มีผู้สนใจซื้อจำนวนมาก และมีราคาเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางสูงขึ้นทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปหลงเชื่อและซื้อขายตาม ทั้งนี้หากการซื้อขายของบุคคลต้องสงสัยทั้ง9 ไม่เกี่ยวข้องกันย่อมไม่มีเหตุที่ นายฉายต้องมอบหมายให้นายไทรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและข้อมูลที่นายไทบันทึกตรงกับคำซื้อขายที่เกิดขึ้นจริง ข้อมูลที่พบในชั้นสืบสวนจึงเป็นหลักฐานแสดงว่าผู้ต้องสงสัยได้ตกลงร่วมกันในกลุ่มที่มีนายฉาย เป็นศูนย์กลางและเป็นตัวการสำคัญที่ได้รับประโยชน์จากการซื้อขายหุ้นSLCในลักษณะของการสร้างราคา

Tags : ก.ล.ต. • ดีเอสไอ • โซลูชั่น คอนเนอร์ • SLC • ปั่นหุ้น • ฉาย บุนนาค