"ณรงค์ชัย" ชูเป้า10ปีโซลาร์เซล5พันเมกฯ "ดุสิต" จี้รัฐเปิดเสรีโซลาร์รูฟท็อปก่อนเม.ย.58 วานนี้ (22 ธ.ค. 2557) สมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย จัดงานสัมมนาและนิทรรศการเรื่องการลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม โซลาร์รูฟ) ปี2558 ซึ่งมีนักลงทุนและผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง” นโยบายการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทนของประเทศไทย” ว่า รัฐบาลมีแนวทางที่จะส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์อาทิตย์ให้เพิ่มมากขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า จาก 3,800 เมกะวัตต์ที่มีนโยบายรับซื้อแล้วในปัจจุบันเป็น 4,500-5,000 เมกะวัตต์ ทั้งในส่วนของโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนพื้นดินหรือโซลาร์ฟาร์ม และโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา หรือโซลาร์รูฟท็อป โดยในปี 2558 จะเป็นปีที่กระทรวงพลังงานเร่งเคลียร์โครงการเดิมที่ยังค้างท่ออยู่จำนวน 1,013 เมกะวัตต์ ให้ดำเนินการได้ทั้งหมด และในปี 2559 คาดว่าจะน่าเริ่มรับซื้อไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ในล็อตใหม่ได้ อย่างไรก็ตามการรับซื้อไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์กระทรวงพลังงานจะพยายามดูแลไม่ให้มีผลกระทบต่ออัตราค่าฟ้าในส่วนของเอฟทีมากนัก จากโครงการการรับซื้อที่ผ่านมาที่ให้ส่วนเพิ่มค่าไฟฟ้าหรือแอดเดอร์ที่ 8 บาทต่อหน่วยที่มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าประมาณ 13 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งถือว่ายังมีผลต่อค่าไฟฟ้าในระดับสูง จึงเปลี่ยนมาเป็นระบบฟีทอินทารีฟ ที่ 5.66 บาทต่อหน่วย และการเปิดรับซื้อล็อตใหม่ก็อาจจะมีการพิจารณาอัตราฟีทอินทารีฟใหม่ นายณรงค์ชัย กล่าวว่า ปัจจุบันสถานภาพการรับซื้อไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ ตัวเลขยังไม่ชัดเจนว่าในที่สุดผู้ประกอบการจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้ครบตามเป้าหมายที่ขยายออกไปเป็น 3,800 เมกะวัตต์ในปี 2558 หรือไม่ เพราะเท่าที่ได้มีการตรวจสอบลงในรายละเอียดพบว่ามีกลุ่มที่ยังไม่มีหลักฐานทางเอกสารและการก่อสร้าง ที่อาจจะต้องถูกยกเลิกโครงการอีกประมาณ 250เมกะวัตต์ ทั้งนี้ข้อมูลสถานภาพการรับซื้อไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ ในส่วนของโซลาร์ฟาร์ม ขายไฟเข้าระบบแล้วจำนวน 294 รายกำลังผลิตติดตั้ง 1,322 เมกะวัตต์ ยังไม่ขายไฟฟ้าเข้าระบบ 14 ราย กำลังการผลิต 296 เมกะวัตต์ ยื่นคำขอแล้วแต่ยังไม่ได้ตอบรับซื้อและเปลี่ยนจากแอดเดอร์ 6.50 บาทต่อหน่วย มาเป็นฟีทอินทารีฟ 5.66 บาทต่อหน่วย ที่รัฐบาลปลดล็อคให้นั้น มีจำนวน 178 รายกำลังผลิตติดตั้ง 1,013 เมกะวัตต์ นายดุสิต เครืองาม นายกสมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ด้านพลังงาน กล่าวว่า ในส่วนของวาระเร่งด่วนที่จะต้องปฏิรูปเร็ว ในส่วนของกรรมาธิการพลังงาน ของสภาปฏิรูปแห่งชาตินั้น จะส่งเรื่องไปถึงคณะรัฐมนตรี ที่จะให้มีการเปิดเสรีการผลิตไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์รูฟท็อป โดยไม่จำกัดระยะเวลาและปริมาณการเสนอขายไฟฟ้า ซึ่งเซลล์แสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาภายใต้โครงการดังกล่าว จะถูกใช้ภายในบ้านที่อยู่อาศัยก่อน ส่วนปริมาณไฟฟ้าที่เหลือ ก็เสนอขายเข้าระบบให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง ในอัตราค่าไฟฟ้าเดียวกับที่ครัวเรือนซื้อจากทั้งสองการไฟฟ้า หรือเรียกว่าระบบNet Metering โดยเรื่องนี้คาดว่ารัฐบาลจะรับไปดำเนินการให้ได้ก่อนเดือนเมษายนปี 2558 และคาดว่าศักยภาพในการผลิตไฟฟ้า ผ่านโครงการดังกล่าวในระยะ 10-20 ปีข้างหน้า น่าจะมีประมาณหมื่นเมกะวัตต์ Tags : โซลาร์ฟาร์ม • แสงอาทิตย์ • ดุสิต เครืองาม