ไทยพาณิชย์รุกงานไอบีปีหน้า1.1แสนลบ. มองทิศทางตลาด ไม่เลวร้ายกว่าปีนี้แล้ว ไทยพาณิชย์ คาดปีหน้าธุรกิจวาณิชธนกิจยังคึกคัก คาดมูลค่ารวมเกินกว่า 1.1 แสนล้านบาทจากปีนี้ที่มี 8 หมื่นล้านบาท เผยยื่นไฟลิ่งไอพีโอให้ลูกค้าแล้ว 3 รายระดมทุนปีหน้า มั่นใจตลาดยังเอื้อ ด้านกฟผ.คาดออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้เดือนก.พ. นางสาววรดา ตั้งสืบกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า งานวาณิชธนกิจของธนาคารในปีหน้ายังมีต่อเนื่อง โดยในปี 2558 ธนาคารคาดว่า มูลค่าการระดมทุนของลูกค้าจากทั้งการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ครั้งแรก (IPO) ของลูกค้าและการออกกองทุนทั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) รวมจะมีมูลค่าดีลเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 หมื่นล้านบาท จากในปีนี้ที่มีมูลค่ารวมประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ถือเป็นอันดับ 3 ของตลาดวาณิชธนกิจ แต่ถ้ารวมงานด้านควบรวมกิจการด้วยแล้วจะมีมูลค่ากว่าแสนล้านบาท สำหรับงานด้านไอพีโอในปีหน้านั้นบริษัทมีลูกค้าอีก 3 รายที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยอยู่ระหว่างยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ในธุรกิจเกษตร อาหาร และก่อสร้าง มูลค่าการระดมทุนประมาณ 2-4 พันล้านบาทต่อราย เช่นโรงงานน้ำตาลตะวันออก บริษัท บางกอกแร้นช์ และบริษัทสหกล แต่เมื่อคิดเป็นมาร์เก็ตแคปรวมประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปีนี้ที่ธนาคารสามารถนำลูกค้าเข้าซื้อขายในตลาดได้ 3 ราย ทั้งบริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ และ บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง ทั้งนี้จะเห็นว่าแนวโน้มบริษัทขนาดกลางเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น แต่ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้นักลงทุนยังนิยมที่จะลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่มากกว่า ในส่วนของธนาคารนั้นจะเน้นบริษัทขนาดกลางและใหญ่ที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายมากกว่าบริษัทขนาดเล็ก "ตลาดปีหน้าไม่น่าจะเลวร้ายไปกว่าปีนี้แล้ว แม้การเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปก็ตาม เพราะปัจจัยสำคัญคือการผลักดันเครื่องยนต์เศรษฐกิจโดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐ นอกจากนี้นโยบายดอกเบี้ยในภูมิภาคยังต้องจับตา หากจีนลดดอกเบี้ยในขณะที่สหรัฐขึ้นดอกเบี้ยอาจจะทำให้เงินจากจีนไหลเข้ามาในตลาดทุนมากขึ้น ภาพก็คงไม่เปลี่ยนไปมากนัก ยิ่งราคาน้ำมันลดลงก็น่าจะช่วยต้นทุนโดยรวมลดลงไปด้วย" นางสาววรดายังกล่าวว่ากองรีทที่มีแผนจะออกในปีหน้ามีทั้งลูกค้าในกลุ่มโรงพยาบาล โรงงานและอาคารสำนักงาน ขณะที่ความคืบหน้าของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ว่าคาดจะสามารถจัดตั้งได้ภายในครึ่งแรกของปี 2558 ด้านนายสุนชัย คำนูญเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. คาดว่า กองทุนโครงสร้างพื้นฐานของกฟผ.จะสามารถออกได้ราวเดือนก.พ.-มี.ค.นี้ โดยมูลค่าการระดมทุนจะอยู่ราว 2 หมื่นล้านบาท สำหรับราคาน้ำมันที่ปรับลดลงในขณะนี้ส่งผลกับต้นทุนของกฟผ.ไม่มากนัก เนื่องจากสัดส่วนการใช้น้ำมันในการผลิตไฟฟ้ายังคิดเป็นสัดส่วนน้อย แต่ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงจะส่งผลต่อราคาก๊าซให้ปรับตัวลดลงตามมาในอนาคต ซึ่งสัดส่วนของการใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60-70% ของพลังงานทั้งหมด Tags : ไทยพาณิชย์ • นางสาววรดา ตั้งสืบกุล • อสังหาริมทรัพย์