'ฮอนด้า เอชอาร์-วี'ขับง่าย'นุ่มได้สปอร์ตพอตัว'

หัวข้อกระทู้ ใน 'ยานยนต์' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 22 ธันวาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    จัดว่าเป็นรถที่อยู่ในความสนใจของหลายคน จากข่าวคราวที่แว่วมานานแล้ว

    ว่าฮอนด้าจะทำตลาดรถครเอสยูวีขนาดเล็ก เอชอาร์-วี

    และเมื่อเปิดตัวจริง ก็ไม่ผิดคาด เพราะว่าได้รับความสนใจจากผู้บริโภคจำนวนมาก และในงานมหกรรมยานยนต์ที่ผ่านมา เอชอาร์-วี สร้างยอดจองได้เป็นอันดับ 2 รองจาก ซิตี้ โดยมี 3 รุ่น เริ่มจาก S ราคา 8.9 แสนบาท รุ่น E 9.75 แสนบาท และ EL 1.045 ล้านบาท

    เอชอาร์-วี เป็นรถที่ฮอนด้า มอเตอร์ ญี่ปุ่น กำหนดให้เห็น โกลบอล โมเดล เพื่อทำตลาดทั่วโลก และสร้างขึ้นจากโกลบอล สมอลล์ แพลทฟอร์ม ซึ่งซิตี้ ก็ใช้แพลตฟอร์มนี้ แต่ว่าเอชอาร์-วี มีการปรับแต่งใหม่ให้ใหญ่ขึ้น เพราะโครงสร้างตัวถังใหญ่กว่า น้ำหนักมากกว่า

    ซึ่งเมื่อผลิตออกมาเต็มคันแล้ว ก็คงต้องบอกว่ามันไปอยู่ในกลุ่มคอมแพคท์ หากเทียบกับซีดาน ก็คือ กลุ่มซีวิคนั่นแหละครับ

    นาโนอิชะ โมริชิตะ หัวหน้าทีมวิศวกร เอชอาร์-วี บอกว่า การสร้างรถคันนี้ ผ่านการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าทั่วโลก และสิ่งที่ได้สรุปสั้นๆ ก็เช่น เรื่องของการขับขี่ ความปลอดภัย ดูหรูหรา มีระดับ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ทัศนวิสัยในการขับขี่ เข้าออกรถได้ง่าย ขับสนุก และตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้

    ซึ่งผมว่า โมริชิตะ ก็ตอบสนองได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ

    เริ่มจากการออกแบบ ซึ่งดูดี ผสมผสานความรู้สึกหรูเล็กๆ กับสปอร์ตผ่านความคมของเส้นสายที่ชัดเจน เช่น เส้นด้านข้าง ที่เส้นบนวิ่งจากกรอบหน้าต่างหลังลงไปถึงซุ้มล้อหน้า โดยมีเส้นล่างไล่จากกันชนหลัง โดดข้ามล้อ ขนานพื้นไปกับตัวถังจนถึงด้านหน้าคอยเป็นฐานรองรับ

    ขณะที่ด้านท้าย ก็ใช้เส้นโค้งเชื่อมกลางระหว่างไฟสองด้าน ซึ่งเส้นโค้งก็ช่วยดันให้รถดูใหญ่ขึ้น กว้างขึ้นครับ

    เติมความหรูด้วยซันรูฟขนาดใหญ่ ช่วยให้ห้องโดยสารดูโปร่งขึ้น เมื่อเปิดหมด หรือว่า เปิดเฉพาะตัวบังแดดให้แสงเข้า

    ภายในห้องโดยสาร ถือว่าโดยตัวของมันมีความกว้างขวางใช้ได้สำหรับรถคอมแพคท์ เบาะนั่งหลังทั้งวัสดุ และการออกแบบ นั่งได้สบาย แต่ถ้าหากว่านั่ง 3 อาจจะติดๆกันหน่อย แต่ไม่ถึงกับเบียดเสียดให้รำคาญ

    และแน่นอนว่าเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของฮอนด้าก็คือ เบาะที่ปรับได้หลากหลายรูปแบบ ปรับง่าย เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน จะบรรทุกของ บรรทุกคน จะพับราบก็ได้ หรือพับแบบยกขึ้น สำหรับรองรับการบรรทุกสัมภาระที่มีความสูงก็ไม่ยาก

    วัสดุต่างๆ ภายในดูดี งานเรียบร้อย การออกแบบคอนโซลหน้า มาตรวัดต่างๆ ให้อารมณ์ร่วมกับ ฮอนด้า รุ่นอื่น เน้นดูโฉบเฉี่ยว และฉูดฉาด ดูตื่นตัว

    ทัศนวิสัย เมื่อนั่งในตำแหน่งผู้ขับขี่ เห็นได้ชัดเจนรอบด้าน และได้เปรียบจากความสูงที่มากว่ารถเก๋ง ช่วยให้เห็นได้ไกล ประเมินได้ก่อน ขับแล้วเครียดน้อยกว่า

    คร่าวๆ ครับ สำหรับรายละเอียดของรูปร่างหน้าตา หรือว่าความสะดวกสบายในการนั่ง ซึ่งอยากแนะนำว่าถ้าใครจะซื้อก็ลองไปนั่งดู จะให้ดีก็ไปกันให้หมดบ้าน เพื่อลองนั่งดูในตำแหน่งต่างๆ ไม่ใช่แค่คนขับเท่านั้น

    เอชอาร์-วี ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร รองรับเชื้อเพลิงได้ถึง อี85 เป็นเครื่องแบบ SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที เกียร์ CVT พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด

    และก็เช่นเดียวกับหลายๆ รุ่นของฮอนด้าที่จะมีระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Assist และปุ่ม Econ Mode ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง ด้วยการปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ให้สัมพันธ์กัน ปรับระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสมกับอุณหภูมิภายนอกรถ

    ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชัน บีม

    ส่วนอุปกรณ์มาตรฐาน ผมสรุปคร่าวๆของตัวท็อปนะครับ ก็เช่น ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri Eyes Free Mode

    เชื่อมต่อ HondaLink Application การเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง

    ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส ระบบควบคุมประตูและสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ต้องใช้กุญแจ ระบบเบรกมือไฟฟ้ามีสวิตช์ควบคุมที่คอนโซลกลาง จะใช้งานก็ดึงขึ้น ระบบ Auto Brake Hold ซึ่งหากใช้ระบบนี้ เมื่อผู้ขับเหยียบเบรกจนรถหยุดนิ่ง ก็สามารถถอนเท้าจากเบรกได้เลยไม่ต้องเหยียบค้างไว้ ช่วยลดความเมื่อยขาได้ โดยเบรกยังคงทำงานอยู่ และเมื่อจะออกตัวก็แค่เหยียบคันเร่ง มันก็จะปลดเบรกให้เอง

    ถุงลมคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง เข็มขัดนิรภัย 3 จุด แบบดึงกลับอัตโนมัติ เบรกเอบีเอส ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว (VSA) ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย ทำงานร่วม VSA เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการขับขี่ทางโค้งหรือเส้นทางเปียกลื่น

    ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ และจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก

    เส้นทางทดสอบครั้งนี้ประมาณ 113 กม. ผสมกันระหว่างทางใหญ่ๆ อย่างถนนธนะรัชต์ และเส้นแคบๆ คดโค้ง 2 เลนสวนทาง เขาใหญ่-วังน้ำเขียว

    เครื่องยนต์กระฉับกระเฉงเพียงพอที่จะจัดการกับรถน้ำหนักหย่อนๆ 1.3 ตันเล็กน้อย ความเร็วเท่าที่มีโอกาสลองกดช่วงโล่งๆ ขึ้นไปถึง 180 ได้ไม่ยาก เช่นเดียวกับการเร่งแซง ซึ่งต้องใช้บ่อยครั้งกับเส้นทางที่ว่า ไว้ใจได้ แต่การเรียกกำลังที่รอบสูง ก็ทำให้จังหวะดังกล่าวเสียงเครื่องยนต์คำรามดังพอควร แต่รวมๆแล้วถือว่าผ่านครับ

    ช่วงล่าง เอชอาร์-วี นุ่มนวลนั่งสบาย ตรงใจลูกค้าฮอนด้าแน่ แต่ขณะเดียวกันก็ยังให้ความรู้สึกว่าเกาะถนน และปราดเปรียวในทางโค้งได้ดี อาจจะไม่ได้ให้อารมณ์สปอร์ตมากนัก แต่ก็มั่นใจได้ว่ามันจะไม่ออกนอกเส้นทาง ถือว่าทำได้ดีในการไม่ทิ้งเอกลักษณ์หรือจุดขายของตัวเองไป แต่เติมความมั่นคงในการขับขี่เข้ามาให้ด้วย ส่วนหนึ่งก็คงเป็นผลจากกดจุดศูนย์ถ่วงของรถที่มีความสูงให้ต่ำลง

    พวงมาลัยดีกว่ารถหลายๆรุ่นของฮอนด้า น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้ควบคุมรถง่ายขึ้น แต่ก็ไม่ได้หนักขึ้นจนทำให้แฟนฮอนด้ารู้สึกว่าแตกต่าง เชื่อว่าต้องชอบ แม้ว่าคนที่ชื่นชมอารมณ์หนักๆของพวงมาลัยอย่างผมจะอยากให้มันหนักกว่านี้อีกสักหน่อยก็ตาม

    สรุปว่าน่าสนใจ สำหรับรถในตลาดคอมแพคท์ ทำได้ดีทั้งรูปแบบการใช้งาน หรือ การขับขี่ ใครที่ชื่นชอบฮอนด้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็รีบจับจองได้เลย หากไม่อยากรอนาน


    Tags : ฮอนด้า • เอชอาร์-วี • ยานยนต์ • พาสปอร์ต • ตลาดรถยนต์ • รถเอสยูวี • มหกรรม

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้