จับทิศธุรกิจวาณิชธนกิจปี 58 คาดยังเติบโต - หุ้นไอพีโอพุ่งแรง รายการ Ringside สังเวียนหุ้น ทางสถานีโทรทัศน์ NOW26 ตอน "วาณิชธนกิจปี 2558” พูดคุยกับสองวาณิชธนากรอันดับต้นๆ ของเมืองไทยอย่าง สมภพ กีระสุนทรพงษ์ และ รัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กับอนาคตของธุรกิจนี้ในปีหน้า นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2557 หลักทรัพย์ที่ถูกเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปในครั้งแรก หรือ หุ้นไอพีโอนั้น มีการเติบโตอย่างมากจากช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 โดยในปีนี้ถือว่าการเข้าตลาดของหุ้นไอพีโอทำลายสถิติทั้งจำนวนบริษัทที่เข้าตลาด และมูลค่าการระดมทุน โดย ณ วันที่ 19 ธ.ค.2557 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น (ไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์) อยู่ที่ 34 บริษัท แบ่งเป็นหุ้นใหม่ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) 15 บริษัท, ตลาดเอ็มเอไอ (mai) 19 บริษัท รวมมูลค่าระดมทุนที่ 49,154.20 ล้านบาท และคิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอที่ 227,157.23 ล้านบาท เทียบกับปี 2556 ที่มีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น (ไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์) อยู่ที่ 26 บริษัท แบ่งเป็นหุ้นใหม่ที่เข้าตลาด SET 13 บริษัท, mai 15 บริษัท รวมมูลค่าระดมทุนที่ 39,062.12 ล้านบาท และคิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอที่ 193,967.93 ล้านบาท หุ้นไอพีโอโตต่อเนื่อง กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวต่อว่า การเติบโตของหุ้นไอพีโอในปี 2558 จะเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้และน่าจะเห็นการทำสถิติใหม่ๆ อีก โดยปัจจุบันมีบริษัทที่ยื่นไฟลิ่งกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. และรอเข้าตลาดหุ้นอีกจำนวนมาก จึงเชื่อว่าหุ้นไอพีโอยังเป็น "พระเอก" ของตลาดหุ้นเช่นเดิม ที่ผ่านมาบริษัทหลักทรัพย์ต้องใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อเข้าหาบริษัทและชักชวนที่จะให้เข้าสู่ตลาดหุ้น รวมถึงการขายหุ้นไอพีโอให้นักลงทุน ในอดีตเคยที่คำพูดที่กล่าวกันไว้มาก คือ "ถ้ารักกันจริงอย่าให้หุ้นไอพีโอ" เพราะมันไม่ดี แต่ปัจจุบันบริษัทต่างๆ เป็นฝ่ายเดินมาหาเราเพื่อขอให้เราอธิบายวิธีการเข้าตลาดหุ้น และนักลงทุนส่วนใหญ่ก็อยากได้หุ้นไอพีโอ เพราะเชื่อว่าถือหุ้นไอพีโอได้กำไรแน่ๆ ปีนี้หุ้นไอพีโอที่เข้าตลาดหุ้นทั้ง 34 ตัว มีเพียง 3 ตัวเท่านั้นที่ราคาต่ำจองในวันแรก "ตอนนี้ภาพทุกอย่างเปลี่ยน บริษัทส่วนใหญ่มองตลาดหุ้นเป็นช่องทางการระดมทุนที่สำคัญ นอกเหนือจากการกู้ธนาคาร เพราะเห็นได้จากบริษัทที่เข้าจดทะเบียนก่อนหน้าที่มีการขยายการลงทุนได้มากขึ้น บริษัทใหญ่ขึ้น และเป็นที่รู้จักมากขึ้น" นายสมภพ ระบุ ระวังไอพีโอพุ่งแรง นายสมภพ กล่าวอีกว่า ราคาของหุ้นไอพีโอในช่วงปีที่ผ่านมาที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง จนบางตัวชนเพดานราคา (ซิลลิ่ง) นั้น ไม่ได้เป็นเพราะการทำงานที่ผิดพลาดของกลุ่มผู้รับผิดชอบ ทั้งกลุ่มวาณิชธนกิจและกลุ่มนักวิเคราะห์ เพราะกว่าที่หุ้นแต่ละตัวจะสรุปราคาออกมา เราต้องทำงานหลายขั้นตอน ทั้งนี้ มองว่าการที่ราคาหุ้นไอพีโอปรับขึ้นไปแรง น่าจะมาจากการเก็งกำไรและอารมณ์ของนักลงทุนมากกว่า ซึ่งบางครั้งราคาไอพีโอก็ปรับขึ้นแรงสวนทิศทางตลาดหุ้น ดังนั้นจึงอยากเตือนนักลงทุนให้ลงทุนหุ้นไอพีโอด้วยความระมัดระวัง เพราะราคามีความผันผวนสูง มีความไม่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา การลงทุนจึงต้องพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานเป็นสำคัญ "ไม่มีใครรู้ว่าราคาหุ้นจะขึ้นมากแค่ไหน อย่าไปคิดว่าที่ราคาพุ่งขึ้นแรงเพราะวาณิชธนากรตั้งราคาผิด เนื่องจากเกมนี้ไม่มีใครโง่กว่าใครหรือใครฉลาดกว่าใคร เจ้าของเองก็อยากได้เงินเยอะ เรายิ่งขายได้แพงก็ได้ค่าธรรมเนียมเยอะ เวลาตั้งราคาเราจะมีข้อมูล มีการคำนวณ มีนักวิเคราะห์ดูแล ตั้งราคาแล้วขึ้นไปแตะ 200% เป็นเรื่องอารมณ์ แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องระวัง คือ ต้องลงทุนอย่างมีสติ หุ้นไม่ได้ขึ้น 200% เสมอไปทุกตัว บางตัวเช้าพุ่งแรง ปิดตลาดอาจร่วงก็ได้" เขากล่าว ไอบีปี 58 ยังเติบโต นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ธุรกิจวาณิชธนกิจ (อินเวสต์เมนท์ แบงก์กิง หรือ ไอบี) ในปี 2557 ถือว่าเติบโตมาก เพราะมีบริษัทที่ต้องการเข้าตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่าทุกๆ ปี โดยในส่วนของ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) มีลูกค้าที่รอเตรียมตัวเข้าตลาดหุ้นยาวไปจนถึงปี 2559 แล้ว ซึ่งยังไม่รวมการควบรวมกิจการที่มีคิวยาวต่อเนื่องเช่นกัน ทั้งนี้ มองว่าเหตุผลที่บริษัทอยากนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ เป็นเพราะเห็นความสำเร็จในการเข้าตลาดหลักทรัพย์จากบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันว่ามีการเติบโตมากขึ้นเพียงใด และการแข่งขันของธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ทำให้บริษัทต้องการโอกาสในการลงทุนมากขึ้น และสุดท้ายคือเจ้าของบริษัทรุ่นใหม่ที่ต้องการขยายธุรกิจเพื่อความอยู่รอดมากขึ้น ทำให้บริษัทรุ่นใหม่ต้องการเข้าตลาดหุ้นมากขึ้น ไอบีแข่งต่ำ-คนทำงานน้อย กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวต่อว่า การแข่งขันในธุรกิจวาณิชธนกิจปัจจุบันถือว่าอยู่ในอัตราที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากธุรกิจประเภทนี้มีความละเอียดในการทำงานสูง ต้องทำงานภายใต้ความถูกต้อง 100% และความกดดันที่มีสูงมาก เพราะการยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. ต้องถูกต้องสมบูรณ์ไร้ข้อผิดพลาด ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพราะลูกค้าต้องการที่จะเข้าตลาดหุ้นให้เร็วที่สุด ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยชอบทำงานในแขนงนี้มากนัก "การแข่งขันของธุรกิจไอบีมีไม่เยอะ เพราะมีงานรออยู่อีกมาก แต่จำนวนคนที่มาทำงานในสายงานนี้ไม่ได้เยอะตามความต้องการที่มีมากขึ้น จึงทำให้การแข่งขันไม่สูงมาก ขณะที่ความกดดันในการทำงานมีเยอะ งานวาณิชธนากรถือเป็นงานที่ขายตัวบุคคล งานทุกอย่างต้องทำภายใต้ความกดดัน ความถูกต้อง และความต้องการของลูกค้า" นายรัฐชัย กล่าวทิ้งท้าย Tags : Ringside • วาณิชธนกิจ • ไอพีโอ • รัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ • สมภพ กีระสุนทรพงษ์ • ธุรกิจ