เจ้าหน้าที่ทหาร-ตร. ออกจากอโศกกลับที่ตั้ง เปิดสกายวอล์คแล้ว เทอร์มินอล 21 - BTS ยังปิด ส่วนอนุสาวรีย์ชัยฯ ยังตรึงโดยรอบ ไม่ปิดการจราจร ขณะที่ยังไม่พบกลุ่มต่อต้าน ขณะเก๋งชนทหารคาด่านถ.บรมราชชนนี สาหัส อ้างหลับใน บรรยากาศที่เทอร์มินอล 21 แยกอโศก ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ทยอยออกจากพื้นที่เพื่อกลับที่ตั้งแล้ว โดยจะมีการเตรียมพร้อมทำหน้าที่ตลอดเวลาหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น ขณะที่มีการเปิดทางเดินสกายวอล์คเพื่อให้ประชาชนได้ใช้งานตามปกติ แต่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 ยังคงปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด อย่างไรก็ตาม บีทีเอสอโศก ยังคงไม่เปิดให้ประชาชนใช้บริการ ซึ่งคาดว่าหากมีการเคลียร์พื้นที่ และสถานการณ์เรียบร้อยแล้ว จะสามารถเปิดให้ประชาชนใช้งานได้ ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด ทหาร- ตร. ยังตรึงรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ - ไม่ปิดจราจร บรรยากาศบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ล่าสุดบรรยากาศโดยทั่วไปยังคงเป็นไปอย่างเรียบร้อยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน และเจ้าหน้าที่ทหารยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่โดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารเข้ามาชุมนุมในพื้นที่ โดยมีการสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่อยู่เป็นระยะถึงแม้จะไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมแสดงตัวในพื้นที่ก็ตาม โดยห้างสรรพสินค้าและผู้ประกอบกิจการโดยรอบยังคงเปิดให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตาม ระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิยังคงเปิดให้บริการและไม่มีการปิดการจราจรในพื้นที่แต่อย่างใด ตำรวจเข้มแยกศรีเทพา - ไร้ม็อบต้าน บรรยากาศบริเวณแยกศรีเทพา หรือ แยกเทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ล่าสุด เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย โดยไม่พบการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมในการต่อต้าน ทั้งนี้ ภายในพื้นที่ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธร จ.สมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการจิตวิทยาจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 1 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ทหาร คอยประจำการรอบพื้นที่ ในส่วนการจราจร รถยนต์ยังคงสามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ โดยไม่มีการปิดพื้นที่การจราจรแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะยังคงตรึงกำลังอยู่ภายในพื้นที่ จนกว่าจะพบว่าไม่มีผู้เข้ามาชุมนุมและสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทหาร ตำรวจ ตรึงเข้ม อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บรรยากาศที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารยังคงตรึงกำลังในพื้นที่ โดยยืนตั้งแนวรอบพื้นที่ และกระจายประจำจุดต่าง ๆ ทั้งบนสกายวอล์คและด้านล่าง เพื่อเตรียมรับมือผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร โดยมีรถควบคุมผู้ต้องหาและรถติดเครื่องขยายเสียงมาจอดบริเวณเกาะกลางถนน พร้อมเปิดเพลงที่มีเนื้อหาสร้างความสามัคคี ขณะเดียวกันยังมีการเปิดภาพภารกิจของทหารผ่านจอแอลซีดีขนาดใหญ่ด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยไม่พบกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด และไม่มีการปิดการจราจร ทั้งนี้ พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้บังคับการโรงเรียนศูนย์การทหารม้าจังหวัดสระบุรี ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์กล่าวว่า ในวันนี้ยังคงใช้กำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจำนวนเท่าเดิม คือ 8 กองร้อย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าทหาร 5 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 กองร้อย คอยควบคุมสถาการณ์ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนจะมีการปรับลดกำลังหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทางกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจะเดินทางมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอีกหรือไม่ พ.อ.ชัยยา เผย วันนี้ไม่พบกลุ่มมวลชนต้าน คสช. พันเอกชัยยา จุ้ยเจริญ ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 9 หรือ ผบ.ป 9 ในฐานะ ผู้บังคับบัญชาเหตุการณ์ ศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจนครบาลบุปผาราม หรือ ศปก.สน.บุปผาราม เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า จากการติดตามสถานการณ์ในวันนี้ ไม่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการควบคุมอำนาจการปกครองของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และป้ายสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในพื้นที่ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการประสานงานพูดคุยกับทางแกนนำของกลุ่มต่อต้าน โดยการขอความร่วมมือไม่ให้มีการชุมนุม เพื่อให้ประเทศสามารเดินหน้าต่อไปได้ และท้ายที่สุดจะเข้าสู่การเลือกตั้งสำเร็จ โดยเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา ได้มีคำสั่งปิดศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจนครบาลบุปผาราม พร้อมลดกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เหลือเพียงกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร 10 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10 นาย พร้อมชุดหน่วยเคลื่อนที่เร็วประจำการในพื้นที่อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ จนถึงเวลา 21.00 น. และในพื้นที่รอบนอกจะมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เก๋งชนทหารคาด่านถ.บรมราชชนนีสาหัส อ้างหลับใน เมื่อเวลา 17.22 น. เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งส่วนบุคคลพุ่งชนเจ้าหน้าที่ทหาร ขณะตั้งด่านความมั่นคง บนถนนบรมราชชนนี ขาเข้า ก่อนขึ้นคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ทราบชื่อ จ่าสิบเอกศุภลักษณ์ ฉัตรเจก ลักษณะท่อนขาผิดรูป และมีแผลตามร่างกาย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนำส่ง ร.พ.กรุงเทพธนบุรี 2 แล้ว พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ธรรมศาลา ยังได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ และทำการสอบปากคำ เบื้องต้นให้การอ้างว่า เกิดจากการหลับใน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่ออยู่ระหว่างการสอบสวนต่อไป อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุดังกล่าวส่งผลให้รถแท็กซี่ 1 คัน และรถยนต์ส่วนบุคคล 2 คัน รวม 3 คัน ได้รับ ความเสียหาย ด้านสภาพการจราจรมีปริมาณรถมาก ติดขัดเป็นอย่างมาก ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว ข่าวที่เกี่ยวข้อง ::::: ทหารปิดราชดำเนินBTSงดจอดราชดำริเพลินจิตชิดลม http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=541278 จนท.ลดกำลังเปิดราชประสงค์-คุมเข้มเทอร์มินอล21 http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=541316