ธปท.เกาะติดสถานการณ์รัสเซีย หวั่นกระทบตลาดเงินไทย เตือนรับมือเงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวน นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับรัสเซียถือเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด เพราะกรณีดังกล่าวย่อมมีผลกระทบไปยังประเทศตลาดเกิดใหม่อื่นๆ บ้าง ซึ่งไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศตลาดเกิดใหม่ จึงอาจหลีกเลี่ยงผลกระทบดังกล่าวไม่ได้ แม้ว่าจะมีปัจจัยพื้นฐานที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ก่อนหน้านี้ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)มีการประเมินสถานการณ์ค่าเงินรูเบิล แต่ไม่ได้แสดงความกังวลมากนัก เพราะมองว่าสถานการณ์ไม่ลุกลาม “ผลกระทบจะรุนแรงหากมีอะไรเกิดขึ้นในประเทศรัสเซียในแง่ของวิกฤติการเงิน เพราะฉะนั้นเราจะต้องเตรียมตัวรองรับความผันผวนจากเงินทุนเคลื่อนย้ายจากอัตราแลกเปลี่ยน ความผันผวนในตลาดการเงิน อย่างไรก็ตามเราคงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากรักษาปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงรักษาพื้นที่นโยบายที่จะใช้ดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงิน และการคลัง” นายไพบูลย์กล่าว ค่าเงินบาท/ดอลลาร์วานนี้(19 ธ.ค.) แข็งค่าสุดที่ 32.78 ซึ่งแข็งค่าตามเงินภูมิภาคในเอเชียส่วนใหญ่ทรงตัว หรือแข็งค่าได้เล็กน้อย จากแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้น บาท/ดอลลาร์ช่วงท้ายตลาดวานนี้ อยู่ที่ 32.845/885 จากช่วงเช้า 32.82/85 ขณะที่ตลาดต่างประเทศ(offshore) อยู่ที่32.86/88 จาก 32.83/85 ช่วงเช้า นายไพบูลย์ กล่าวว่า การดูแลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนนั้น คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด และสอดคล้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้าย อีกทั้งไทยถือเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดเล็ก ดังนั้นเราต้องใช้กลไกอัตราแลกเปลี่ยนให้สอดคล้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจ ย้ำดูแลค่าบาทไม่ให้ผันผวน นายไพบูลย์ กล่าวว่า บทบาทของ ธปท. ต้องติดตามไม่ให้การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนมากเกินไป จนเป็นปัญหาต่อภาคเศรษฐกิจจริง รวมทั้งไม่สร้างความขัดแย้งทางพื้นฐานเศรษฐกิจ โดยธปท.มีเครื่องมือหลายประเภทที่ใช้ในการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ประเทศไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศค่อนข้างมาก ซึ่งก็สามารถที่จะใช้เป็นเครื่องมือดูแลเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนได้ระดับหนึ่ง โดย ธปท. เองก็ไม่ได้มีนโยบายที่จะตั้งเป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับใดระดับหนึ่ง ซึ่ง ธปท. จะให้กลไกตลาดเป็นตัวตัดสินค่าที่เหมาะสมของเงินบาทเป็นส่วนใหญ่ “สิ่งที่แบงก์ชาติกังวล คือ การเก็งกำไร กับความรู้สึกที่ทำให้การเคลื่อนไหวของเงินบาทผันผวนมากจนภาคเอกชนไม่สามารถวางแผนล่วงหน้า และไม่สามารถรับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้น โดยในปัจจุบันสถานการณ์ค่าเงินก็ถือว่าเป็นไปโดยปกติ”นายไพบูลย์กล่าว ธปท.คาดปี2558จะฟื้นตัว สำหรับการดำเนินนโยบายการเงินในปีหน้า ธปท.มองว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ และยังจำเป็นที่จะต้องได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายการเงิน และนโยบายการคลัง โดยในความเป็นจริงนโยบายการเงินก็มีการสนับสนุนมาโดยตลอด อัตราดอกเบี้ยประเทศไทยก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างผ่อนปรนในระดับต่ำต่อเนื่องมาโดยตลอด คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เอง ก็ได้มีการสะท้อนออกมาด้วยว่าปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือการใช้จ่ายภาครัฐ หรือการลงทุนภาครัฐให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยจะเป็นปัจจัยเสริมที่กระตุ้นให้ภาคเอกชนมาลงทุนอย่างต่อเนื่อง และมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนได้มากขึ้น คลังรัสเซียชี้รูเบิลแข็งค่าปีหน้า นายแอนทัน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังรัสเซีย กล่าวว่าเงินรูเบิลจะแข็งค่าขึ้นอย่างแน่นอนช่วงต้นปีหน้า พร้อมยืนยันว่ากระทรวงการคลังได้ขายเงินสกุลต่างประเทศออกมา และอาจเข้าซื้อไว้ใช้งานในช่วงต้นปีหน้า คำกล่าวดังกล่าวทำให้เงินรูเบิลแข็งค่าขึ้น 2.7% ที่ระดับ 59.85 รูเบิลต่อดอลลาร์ ประกอบกับมีการคาดหมายว่าผู้ส่งออกจะนำเงินดอลลาร์ออกขายมากขึ้น การแทรกแซงด้วยวาจาของนายซิลูอานอฟถูกมองว่าเป็นความพยายามส่วนหนึ่งของรัฐบาลในการทำให้เงินรูเบิลแข็งค่าขึ้น การฟื้นตัวของเงินรูเบิลสวนทางกับแรงกดดันให้มีการเทขายเมื่อต้นสัปดาห์ ซึ่งในช่วงหนึ่งเงินรูเบิลร่วงลงไป 20% เทียบกับดอลลาร์ นักวิเคราะห์แห่งรอสแบงก์กล่าวว่าการที่ธนาคารกลางค่อนข้างสงวนท่าที ประกอบการสงวนรักษาทุนสำรอง น่าจะทำให้เงินรูเบิลอยู่ที่ระดับประมาณ 60-62 รูเบิลต่อดอลลาร์ การที่รัฐบาลรัสเซียกดดันผู้ส่งออกไม่ให้กักตุนรายได้ในสกุลเงินต่างประเทศ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เงินรูเบิลไม่อ่อนค่าลงมากไปมากกว่านี้ หลังจากลดลงไป 45% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้ และธนาคารกลางใช้เงินกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์แล้วในการพยุงค่าเงินปีนี้ แต่เดือนที่แล้วธนาคารกลางลดการเข้าแทรกแซงพร้อมประกาศลอยตัวเงินรูเบิล สภาล่างผ่านกม.เพิ่มทุนธนาคาร สภาล่างรัสเซียผ่านร่างกฎหมายเพิ่มทุนภาคธนาคารถึง 1 ล้านล้านรูเบิล อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการปกป้องธนาคารต่างๆจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก หลังจากภาคการเงินได้รับผลกระทบมากผลจากแนวโน้มที่เศรษฐกิจเสี่ยงตกสู่ภาวะถดถอยประกอบกับการเผชิญมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกกรณีวิกฤติยูเครนที่จำกัดธนาคารต่างๆ เข้าถึงตลาดทุนระหว่างประเทศ ทำให้ต้นทุนในการระดมทุนของธนาคารต่างๆ สูงขึ้น สภาดูมาประกาศว่าได้เร่งผ่านร่างกฎหมายเพิ่มทุน หลังจากนายซิลูอานอฟกล่าวว่าธนาคารต่างๆ อาจได้รับเงินทุนเพิ่มเติมต้นปีหน้า และร่างกฎหมายฉบับนี้จะครอบคลุมความเสี่ยงทั้งหมดที่ธนาคารต่างๆ เผชิญ นอกจากนั้น ธนาคารกลางยังผ่อนคลายกฎระเบียบของภาคธนาคาร อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการสร้างเสถียรภาพแก่เงินรูเบิล หุ้นเอเชียพุ่ง-เฟดไม่ปรับดอกเบี้ย ขณะที่ ตลาดหุ้นเอเชียพุ่งเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันวานนี้ (19 ธ.ค.) ดัชนีหุ้นนิเคอิในตลาดโตเกียวปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.39% หรือ411.35 จุดที่ระดับ 17,621.40 หุ้นเกาหลีใต้ทะยานขึ้น 1.71% หรือ 32.48 จุด ดัชนีหั่งเส็งในตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 1.25% หรือ 284.42 จุดตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้เพิ่มขึ้น 1.67% หรือ 51.08 จุด หุ้นไต้หวันพุ่งขึ้น 1.36% หรือ 120.89 จุด และหุ้นฟิลิปปินส์สูงขึ้น 1.45% หรือ 101.72 จุด ตลาดหุ้นในโลกดิ่งลงช่วงต้นสัปดาห์เพราะวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก หลังจากราคาน้ำมันดิบลดลง ประกอบกับค่าเงินรูเบิลของรัสเซียดิ่ง แต่ตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นมาเมื่อวันพฤหัสบดี (18 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงท่าทีว่าจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนครึ่งแรกของปีหน้า ซึ่งสร้างความโล่งใจแก่ตลาดเกิดใหม่ที่เห็นกระแสทุนไหลกลับไปสหรัฐ เพราะคาดว่าจะได้ผลตอบแทนดีกว่า ก่อนหน้านี้ ดัชนีดาวโจนส์ในตลาดนิวยอร์กปิดตลาดวันพฤหัสบดี (18 ธ.ค.) พุ่งขึ้น 2.43% หรือ 421.28 จุด ที่ระดับ17,778.15 ราคาน้ำมันยังผันผวน ส่วนราคาน้ำมันสูงขึ้น โดยน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียทในตลาดสิงคโปร์ ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ ไปอยู่ที่54.84 ดอลลาร์ น้ำมันดิบเบรนต์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ที่ 59.59 ดอลลาร์ นายแดเนียล อัง นักวิเคราะห์แห่งบริษัทฟิลิปฟิวเจอร์ส กล่าวว่าหากประเด็นเกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทานในโลก ยังไม่ได้รับการแก้ไข ตลาดน้ำมันก็จะยังผันผวนต่อไป ขณะนี้ในตลาดมีอยู่ 2 กลุ่มคือกลุ่มที่เชื่อว่าราคาน่าจะลดลงอีก อีกกลุ่มเชื่อว่าราคาจะอยู่เหนือ 60ดอลลาร์ ล่าสุดซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่าแรงกดดันในเชิงแข่งขัน ทำให้ไม่สามารถลดกำลังการผลิตลงได้ และซาอุดีอาระเบียสามารถรับมือราคาน้ำมันในระดับต่ำได้ ส่วนราคาทองคำอยู่ที่ออนซ์ละ 1,198 ดอลลาร์ เทียบกับ 1,210.13 ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี Tags : ไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน • ธปท. • รัสเซีย • ค่าเงินบา • ค่าเงินรูเบิล • ราคาน้ำมัน