"บล.ไทยพาณิชย์" เร่งใช้กลยุทธ์เดินหน้าขยายฐานลูกค้าแบงก์ บริการครอบคลุมทุกสินค้า ดันมาร์เก็ตแชร์แตะ 4.2 % ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2558 บริษัทจะเน้นการขยายฐานลูกค้ากับกลุ่มนักลงทุนรายบุคคลมากขึ้น โดยมองว่าลูกค้าเงินฝากของธนาคารยังมีจำนวนอีกมากที่ยังไม่เป็นลูกค้าของบล. ซึ่งบล.มองว่าช่องทางนี้จะช่วยให้การเติบโตของจำนวนบัญชีลูกค้าปรับเพิ่มขึ้นในอนาคต "บล.ไทยพาณิชย์มีความได้เปรียบที่มีแม่เป็นธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเราเห็นว่า ลูกค้าที่ใช้บัญชีเงินฝากยังมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้เป็นลูกค้าบล. ดังนั้นเราต้องเสริมส่วนนี้เข้าไป สร้างความรับรู้ให้กับลูกค้าให้มีความรู้ในการลงทุนมากขึ้น และหันมาเป็นลูกค้ากับบริษัท จุดแข็งของการมีบริษัทแม่เป็นสถาบันการเงินคือ การเชื่อมต่อระหว่างธนาคารกับบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้บริการลูกค้ามีการเชื่อมต่อที่ดีกว่า บริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่ได้มีบริษัทแม่เป็นธนาคาร" ที่ผ่านมาใช้กลยุทธ์ดังกล่าวค่อนข้างได้ผล เห็นได้จากการเติบโตของจำนวนบัญชีลูกค้าที่ปี 2556 มีบัญชีลูกค้าอยู่ที่ 28,500 บัญชี แต่ปัจจุบันมีบัญชีลูกค้าอยู่ที่ 60,000 บัญชี แม้ช่วงที่ผ่านมา จะมีการช่วงชิงลูกค้าพอร์ตขนาดใหญ่ กดดันทำให้เกิดการแข่งขันในค่าธรรมเนียมต่อเนื่อง แต่ในกลุ่มลูกค้ารายบุคคลทั่วไป ตลาดยังเปิดกว้างอยู่ ซึ่งลูกค้าบุคคลไม่ได้ต้องการเพียงแค่ค่าคอมมิชชั่นที่ถูก แต่ต้องการสนับสนุนการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพ และมีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายทั้งการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ปีก่อนมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 3.57 % หรืออันดับที่ 13 โดยล่าสุดในเดือนธ.ค. อยู่อันดับที่ 9 มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 3.58 % โดยในปี 2558 นั้นบริษัทตั้งเป้าหมายจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 4.2% สำหรับมูลค่าการซื้อขายปีนี้ หลังจากตลาดฟื้นตัวขึ้นได้ในครึ่งปีหลัง ทำให้มูลค่าการซื้อขายอาจจะปิดอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท ในปี 2558 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากราคาพลังงานที่ลดลง กดดันให้ต้นทุนบริษัทจดทะเบียนปรับตัวดลง จะช่วยให้กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตได้ หากไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามากดดันตลาดหุ้นอย่างผิดปกติ มองว่าจะอยู่ในระดับที่ 4.5 หมื่นล้านบาท นายอภิชาติ ศรีอมรธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายวานิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บล.เคทีบี มีแผนจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2558 จำนวน 3 บริษัท เป็นครั้งแรกที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในรอบหลายปี สาเหตุที่ต้องหันมาจับเรื่องวานิชธนกิจมากขึ้นนั้น เพราะต้องการให้นักลงทุนเริ่มรู้จักกับบริษัทหลักทรัพย์ ที่ผ่านมายอมรับว่า บริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่ได้เน้นการทำตลาดมากนัก และไม่รู้จักเป็นวงกว้างกับนักลงทุนเท่าที่ควร แต่ในปี 2558 บล.เคทีบีจะเปิดตัวมากขึ้น โดยจะหันมาเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับบริษัทจดทะเบียน เพราะหุ้นไอพีโอเป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจ และช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทได้ ที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นไอพีโอ พบว่า นักลงทุนให้การตอบรับที่ดี สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท จะเน้นลูกค้ารายบุคคลเป็นหลัก สำหรับส่วนแบ่งการตลาดของมูลค่าการซื้อขายของ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) อยู่ที่ 0.70 % อยู่ในอันดับที่ 31 จากบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมด 35 บริษัท Tags : ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ • ไทยพาณิชย์ • ธนาคาร