"โซลูชั่น คอนเนอร์" ควักเงินกว่า 1 พันล้านบาท ซื้อหุ้นเพิ่มทุน "แกรมมี่" พร้อมเก็บหุ้น "เนชั่น" ในตลาด 12.27% บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า คณะกรรมการบริษัท รับทราบการเข้าลงทุนในหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY 10 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.22% ในราคาหุ้นละ 13.50 บาท วงเงิน 135 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนระยะสั้น นอกจากนี้ คณะกรรมการ ยังรับทราบการดำเนินการ ของคณะกรรมการพิจารณาการลงทุน ที่รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท ให้พิจารณาลงทุนในหุ้นบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG และใบสำคัญแสดงสิทธิของ NMG (NMG-W3) ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารการลงทุนของบริษัท พิจารณาการเข้าซื้อหุ้นเนชั่น เพื่อเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ โดยซื้อเป็นการทั่วไปจากตลาดหลักทรัพย์ ระหว่างวันที่ 15-17 ธ.ค.ที่ผ่านมา 404.99 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.27% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว พาร์ 0.53 บาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 2.02 บาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ (NMG-W3) 225 ล้านหน่วย โดยมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 0.99 บาท คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 1,042.32 ล้านบาท ภายหลังจากการดำเนินงาน จะมีมูลค่าการลงทุนทั้งหมดคิดเป็น 49.48% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท ซึ่งเข้าเกณฑ์ที่บริษัทต้องทำหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นเรื่องการเปิดเผยข้อมูล ด้านนายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าลงทุนซื้อหุ้นและวอร์แรนท์เนชั่นในระดับดังกล่าว เป็น สัดส่วนที่น่าพอใจ ไม่คิดจะซื้อเพิ่มอีก โดยราคาเฉลี่ยที่ซื้อหุ้นเนชั่นอยู่ที่หุ้นละ 2.02 บาท ถือว่าไม่แพง แม้ราคาในกระดานตอนนี้จะไม่ถึง 2 บาท เพราะบริษัทตั้งใจเข้าลงทุนระยะยาว โดยไม่มีแผนเข้าบริหาร และโครงสร้างการบริหารทุกอย่างยังคงเดิม "เราลงทุนระยะยาว ไม่ได้มองว่าซื้อแพงไปไหม เพราะเราไม่ได้เอากำไรระยะสั้น และคงไม่มีการปรับโครงสร้างใดๆ ทุกอย่างยังคงเดิม เนชั่นบริหารเหมือนเดิม และก่อนซื้อก็มีการพูดคุยกับคุณสุทธิชัย หยุ่น ผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้ว ก็คุยกันไม่นานครับ" นายอารักษ์ กล่าว ส่วนการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของแกรมมี่ สัดส่วน 1.22% ตามที่แกรมมี่ ได้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) บริษัทมองว่าในอนาคตหากมีโอกาสก็ต้องการซื้อเพิ่มอีก "หากเป็นไปได้ ต้องการถือหุ้นแกรมมี่เพิ่ม เราคงดูไปเรื่อยๆ ไม่ได้มองว่าจะขายช่วงไหน เพราะศักยภาพแกรมมี่มีแอบแฝงอยู่มาก และปีหน้าเรากับแกรมมี่คงมีอะไรที่ชัดเจนมากขึ้น" นายอารักษ์ กล่าว นายอารักษ์ กล่าวต่อว่า การตัดสินใจเข้าลงทุนหุ้นเนชั่น และแกรมมี่ เพราะทั้งสองบริษัทมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดยเนชั่นเป็นสื่อครบวงจร และมีศักยภาพสูงมาก สะท้อนจากช่วงของการแข่งขันสูงในวงการทีวีดิจิทัล แต่เนชั่นยังสามารถรักษากำไรไว้ได้ดี ซึ่งในอนาคตน่าจะมีโมเดลธุรกิจออกมาร่วมกันระหว่างโซลูชั่น กับเนชั่น "ในช่วงที่มีวิกฤตสื่อ แต่เนชั่นยังรักษากำไรไว้ได้ แสดงว่าเขาไม่ธรรมดา อนาคตโมเดลจะเป็นอย่างไร ต้องค่อยๆ คุยกันไป น่าจะคุยกันอีกทีหลังปีใหม่ คงมีอะไรออกมาอีกพอสมควร" นายอารักษ์ กล่าว ส่วนแกรมมี่มีจุดเด่นด้านธุรกิจบันเทิง และมีฐานลูกค้าใหญ่มาก โดยเฉพาะฐานลูกค้าที่อายุต่ำกว่า 35 ปี ขณะที่โซลูชั่นมีจุดเด่นด้านข่าว ผ่านบริษัทย่อยคือ สปริงนิวส์ แต่ฐานลูกค้าของสปริงนิวส์อายุ 35 ปีขึ้นไป ดังนั้นแกรมมี่จะช่วยต่อยอดฐานลูกค้ากลุ่มนี้ได้ โดยอาจนำรายการข่าวของสปริงนิวส์ ไปนำเสนอผ่านแพลตฟอร์มของแกรมมี่ "เราคุยกับผู้บริหารแกรมมี่แล้ว ท่านยินดีช่วยสปริงนิวส์ ในมุมการขยายฐานการนำเสนอข่าวสารไปถึงกลุ่มอายุต่ำกว่า 35 ปี เอาข่าวไปเสนอผ่านแพลตฟอร์มแกรมมี่ด้วย"นายอารักษ์ กล่าว นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ยังอนุมัติการทำบันทึกความเข้าใจในการร่วมลงทุนในกลุ่มบริษัท ทีนิวส์ กับนายสนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม โดยจะทำการศึกษาข้อมูลเพื่อตัดสินใจในการร่วมลงทุน และกำหนดโครงสร้างของการร่วมทุนให้เสร็จภายใน 12 สัปดาห์ ก่อนการตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย นายอารักษ์ คาดว่า บริษัทจะพลิกมีกำไรปี 2559 จากการที่บริษัทย่อย "สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น" สถานีข่าวผ่านดาวเทียม จะเริ่มมีกำไรประมาณไตรมาส 4 ปี 2558 จากปัจจุบันที่ยังขาดทุนอยู่และน่าจะต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3 ปี 2558 ส่วนปีหน้าโครงสร้างรายได้ของบริษัท จะมาจากธุรกิจสื่อกว่า 60% และที่เหลือมาจากธุรกิจไอที โดยธุรกิจสื่อจะมีมาร์จินที่ดีกว่าไอที เพราะมีต้นทุนคงที่มากกว่า จึงต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะถึงจุดคุ้มทุนและเริ่มทำกำไร ขณะที่ธุรกิจไอที มาร์จินไม่สูงเพราะต้นทุนมากถึง 80% ดังนั้น การจะทำกำไรได้ดีต้องเน้นที่ปริมาณงาน แต่ไม่ต้องรอหลายปีกว่าที่จะมีกำไรเหมือนธุรกิจสื่อ Tags : โซลูชั่น คอนเนอร์ • อารักษ์ ราษฎร์บริหาร • ซื้อหุ้น • แกรมมี่ • เนชั่น