(รายงาน) เอดีบีหั่นเป้า'จีดีพี'ประเทศในเอเชีย แนะเร่งปฏิรูปพลังงานช่วงน้ำมันขาลง รัสเซีย-โอเปกยันไม่ลดผลิต ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ออกรายงาน "แนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียปี 2014" วานนี้ (17 ธ.ค.) ประเมินเศรษฐกิจกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียยังขยายตัวต่อเนื่อง แม้จะชะลอตัวในครั้งปีหลัง ชี้แนวโน้มราคาน้ำมันระดับต่ำเป็น"โอกาสทอง"ปฏิรูปนโยบายด้านเศรษฐกิจ มีรายละเอียดดังนี้ เอดีบี ระบุในรายงานว่าแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าพลวัตขับเคลื่อนเศรษฐกิจชะลอตัวช่วงครึ่งหลังของปีนี้ก็ตาม และในช่วงราคาน้ำมันปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง เอดีบีเห็นว่าเป็นโอกาสทองให้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียเดินหน้าปฏิรูปหลายด้านที่เป็นประโยชน์ต่อภูมิภาค นายชาง จิน เหวย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบี กล่าวว่าแม้การเติบโตของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนาในเอเชียช่วง 3 ไตรมาสแรกปีนี้ ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก และไม่ได้มากไปกว่าที่เอดีบีคาดการณ์ไว้ โดยราคาน้ำมันลดลงอาจเป็นจังหวะที่ดีสำหรับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียหลายประเทศที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมัน "ราคาน้ำมันในตลาดโลกกำลังลดลง เป็นเหมือนโอกาสทองสำหรับกลุ่มประเทศผู้นำเข้าน้ำมันอย่างอินเดียและอินโดนีเซีย เดินหน้าปฏิรูปโครงการอุดหนุนราคาพลังงานต่างๆที่ต้องใช้ต้นทุนสูง ในทางตรงกันข้าม กลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันสามารถใช้โอกาสนี้ พัฒนาภาคการผลิตต่างๆของประเทศ ให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้น ในช่วงที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังต่ำ และทำให้อัตราแลกเปลี่ยนแท้จริงของประเทศแข่งขันได้" นายชาง จิน เหวย กล่าว รายงานเอดีบีวิเคราะห์ว่า ด้วยราคาสินค้าโภคภัณฑ์และน้ำมันลดลง ทำให้กลุ่มประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนาในเอเชียส่วนใหญ่ พากันทบทวนปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อลง และเอดีบีได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อเอเชียลงอยู่ที่ 3.2%ปีนี้ และเพิ่มเล็กน้อยอยู่ที่ 3.5% ปีหน้า จากเดิมเคยให้ไว้ 3.4%ปีนี้ และ 3.7%ปีหน้า เอดีบีคาดการณ์จีดีพีเอเชียครอบคลุมประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนา 45 ประเทศในปีนี้ไว้ 6.1% ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 6.2% ที่เคยให้ไว้ในเดือนก.ย.ปีนี้ และในปี 2558 คาดว่าจีดีพีเอเชียอยู่ที่ 6.2% ปรับลงจากเดิมให้ไว้ 6.4% ซึ่งในปีที่แล้วเอดีบีคาดการณ์จีดีพีเอเชียเติบโต 6.1% ขณะที่คาดการณ์เติบโตของเอเชียกลาง, เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน) ถูกปรับลดลง ส่วนเอเชียใต้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง การเติบโตของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจอาเซียนช่วง 9 เดือนปีนี้ น้อยกว่าคาดการณ์ไว้ และได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีของไทย อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์เล็กน้อย และลดคาดการณ์เติบโตของจีดีพีอาเซียนปีนี้เหลือ 4.4% จากเดิมให้ไว้ 4.6% และปรับลงเหลือ 5.1%ในปีหน้า จากเดิมให้ไว้ 5.3% สำหรับเศรษฐกิจจีน เอดีบีได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีลงเล็กน้อยอยู่ที่ 7.4%ในปีนี้ จากเดิมให้ไว้ 7.5% และปรับลดเหลือ 7.2%ในปีหน้า จากเดิมให้ 7.4% ส่วนอินเดียในมุมมองของเอดีบีเศรษฐกิจยังคงเติบโตได้ตามคาดไว้ 5.5%ปีนี้ หลังจากไตรมาสแรกจีดีพีโต 5.7% และไตรมาส2ขยายตัวได้ 5.3% ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจรัสเซีย มีผลให้การเติบโตของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนาแถบเอเชียตอนกลางรวมถึงคาซัคสถานลดลงด้วย กระแสเงินที่ไหลเข้าประเทศลดลง ผสมกับความต้องการในต่างประเทศซบเซา มีส่วนทำให้การเติบโตของอาร์เมเนีย, สาธารณรัฐเคอร์จีซ และอุซเบกิสถาน ปรับลดลง และส่งผลให้เอดีบีปรับลดคาดการณ์เอเชียตอนกลางปีนี้ลงเหลือ 5.1% จากเดิมให้ไว้ 5.6% และลดลงเหลือ 5.4%ปีหน้า จากเดิม 5.9% สำหรับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจแถบมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะขยายตัวในอัตราเร่งสูงถึง 13.4%ในปีหน้า ซึ่งนำโดยปาปัว นิวกินี สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติส่งออกได้อย่างเต็มที่ ขณะที่เศรษฐกิจของฟิจิ, หมู่เกาะ โซโลมอน และปาโล มีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้เอดีบีได้ปรับคาดการณ์จีดีพีกลุ่มประเทศเศรษฐกิจแถบแปซิฟิกเพิ่มขึ้นปานกลาง เอดีบียังทบทวนคาดการณ์การเติบโตของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมสำคัญอย่างสหรัฐ ยูโรโซนและญี่ปุ่น โดยเฉพาะญี่ปุ่นขยายตัวอ่อนแอในไตรมาส3ปีนี้ ตรงข้ามกับเศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทำให้เอดีบีปรับลดคาดการณ์จีดีพีกลุ่มประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าปีนี้ลงเล็กน้อยเหลือ 1.4% จากเดิมให้ไว้ 1.5% ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.1%ในปีหน้า .............................................................................. รัสเซีย-โอเปกยันไม่ลดผลิตน้ำมัน รัสเซียและประเทศในอ่าวอาหรับที่เป็นสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)ยืนกรานที่จะไม่ปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง และปัจจัยดังกล่าวก็มีส่วนกดดันราคาน้ำมันให้ดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 5 ปีเมื่อวานนี้ หลังจากกลุ่มโอเปกตัดสินใจที่จะไม่ปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันในการประชุมวันที่ 27 พ.ย. ราคาน้ำมันดิบก็ดิ่งลงมาแล้วเกือบ 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่กลุ่มโอเปกยังคงยืนกรานไม่ปรับลดการผลิต ถึงแม้สมาชิกบางประเทศในโอเปกอย่างเช่น เวเนซุเอลาเรียกร้องให้โอเปกลดการผลิตลง รัสเซียระบุว่า รัสเซียจะไม่ปรับลดปริมาณการผลิตลง ถึงแม้ราคาน้ำมันดิ่งลงสู่ระดับต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และถึงแม้ว่างบประมาณของรัสเซียจะเข้าสู่ภาวะสมดุลก็ต่อเมื่อราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับราว 100 ดอลลาร์ก็ตาม นายอเล็กซานเดอร์ โนแวค รมว.พลังงานรัสเซียกล่าวในการประชุมสุดยอดผู้ผลิตก๊าซที่ประเทศกาตาร์ว่า "ถ้าหากเราปรับลดปริมาณการผลิต ประเทศผู้นำเข้าก็จะปรับเพิ่มการผลิตของตนเอง และสิ่งนี้จะส่งผลให้เราสูญเสียส่วนแบ่งตลาด" เราวางแผนที่จะตรึงปริมาณการผลิตไว้สำหรับปี 2557 โดยไม่เพิ่มขึ้น หรือลดลง" ขณะที่สกุลเงินรูเบิลของรัสเซียดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ถึงแม้ธนาคารกลางรัสเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 6.50 % สู่ 17 % รัฐมนตรีน้ำมันของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กล่าวในวันจันทร์ว่า ไม่มีความจำเป็นที่กลุ่มโอเปกจะต้องจัดประชุมฉุกเฉิน และตลาดควรจะถูกปล่อยให้หาจุดสมดุลได้ด้วยตัวเอง กาตาร์ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกโอเปกแสดงความเห็นแบบเดียวกันเมื่อวานนี้ โดยนายโมฮัมเหม็ด อัล-ซาดา รมว.น้ำมันกาตาร์กล่าวว่า "เราจำเป็นต้องจับตาดูตลาดอย่างใกล้ชิด แต่ตลาดจะเข้าสู่เสถียรภาพในที่สุด" ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงสู่ระดับต่ำกว่า 59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นการร่วงลงสู่ระดับดังกล่าวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2552 โดยขณะนี้ราคาน้ำมันดิ่งลงมาแล้วเกือบ 50 % นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. โดยเป็นผลจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ และจากการที่สหรัฐผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐร่วงลงเกือบ 1% วานนี้(17 ธ.ค.) โดยยังคงอยู่ต่ำกว่า 56 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังข้อมูลอุตสาหกรรมบ่งชี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา และรัสเซียไม่สามารถยุติการร่วงลงของค่าเงินรูเบิล วานนี้ สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนม.ค. ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 1.30 ดอลลาร์ สู่ระดับ 54.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 89 เซนต์ สู่ระดับ 59.12 ดอลลาร์/บาร์เรล การปิโตรเลียมสหรัฐเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด 1.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล Tags : เอดีบี • เศรษฐกิจ • เอเชีย • พลังงาน • รัสเซีย • โอเปก • ผู้ส่งออก • เอมิเรตส์