"อมรเทพ" เผย CIMBT ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปี 2558 เหลือ 3.3% จากเดิม 4.5% หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า-หนี้ครัวเรือนสู นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เปิดเผยว่า ธนาคารปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีไทยปี 2558 ลงเหลือ 3.3% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.5%เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าแบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่การบริโภคยังเผชิญปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงและราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ การส่งออกที่ยังชะลอตัว นอกจากนี้ ไทยยังกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญจากต่างประเทศ คือ สงครามค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย วิกฤติรัสเซีย และการปรับลดของราคาน้ำมัน ซึ่งไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะทั้งจากทางด้านความผันผวนทางเศรษฐกิจ ตลาดเงิน และตลาดทุน ดังนั้น ไทยจะต้องเตีรยมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต "ความเสี่ยงในประเทศหลักๆ คือความรวดเร็วในการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐ หากทำได้ก็จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทยได้ แต่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะแม้จะมีในเรื่องของการลงทุนจากภาครัฐและเอกชน การลงทุนในปีหน้ายังเร่งตัวได้ไม่มากนัก จากขั้นตอนการเบิกจ่ายงบ และจากสภาพคล่องในตลาดการเงินที่จะเริ่มตึงตัวมากขึ้นตามการเร่งตัวของสินเชื่อเมื่อเศรษฐกิจฟื้น"นายอมรเทพ กล่าว นายอมรเทพ กล่าวว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศที่ถือเป็นประเด็นใหม่ คือ วิกฤตืรัสเซียมีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า หลังจากที่สหภาพยุโรปใช้มาตรการคว่ำบาตร อีกทั้งราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง ทำให้รัฐบาลรัสเซียสูญเสียรายได้หลัก ค่าเงินรัสเซียอ่อนค่าไปเกือบครึ่ง จากภาวะเงินไหลออกส่งผลให้เกิดวิกฤติค่าเงิน แม้ทางธนาคารกลางรัสเซียจะขึ้นดอกเบี้ยมาถึง 17% อย่างไรก็ตาม รัสเซียไม่ได้เชื่อมโยงกับตลาดการเงินโลกมากเท่ากับอีกหลายประเทศ จึงยังไม่น่าห่วงว่าวิกฤติการเงินในรัสเซียจะลามไปฝั่งยุโรป ส่วนผลกระทบต่อไทยจะมี 3 ด้าน คือ ด้านตลาดการเงิน การส่งออกและการท่องเที่ยว แม้รัสเซียจะไม่ใช่ตลาดพันธบัตรและตลาดส่งออกหลักก็ตาม แต่ต้องส่งผลทางอ้อมหากยุโรปซึ่งเป็นคู่ค้าหลักของรัสเซียชะลอตัวทำให้การส่งออกของไทยไปยุโรปลดลง การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนไปรัสเซียอาจได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากปีนี้ แต่สินค้าเกษตรที่เติบโตได้ดียังน่าจะเติบโตได้ในปีหน้า สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง ประเทศไทยซึ่งนำเข้าสุทธิน้ำมันราว 10% ของจีดีพี และอาศัยแหล่งพลังงานอื่นไม่มากนัก ดังนั้นราคาน้ำมันจะลดลง แต่ไทยต้องเร่งปรับปรุงโครงสร้างพลังงานต่อไป โดยในช่วงที่ราคาน้ำมันตกต่ำ กลุ่มที่ได้ประโยชน์คืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและขนส่ง อุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรพวกยางและปาล์มจะได้ประโยชน์จากต้นทุนที่ต่ำลง ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ คือ การขุดเจาะน้ำมันและแก๊ซธรรมชาติ รวมทั้งราคาสินค้าเกษตร เช่น ยาง ปาล์ม อ้อย และข้าวอาจลดลงตามราคาน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ต่ำต่อไป Tags : อมรเทพ จาวะลา • CIMB • ธนาคาร • จีดีพี • เศรษฐกิจ • หนี้ครัวเรือน