ถือเป็นงานวิวาห์ยักษ์ใหญ่แห่งปีเลยก็ว่าได้ สำหรับงานวิวาห์ของ "ดอน ธีระธาดา" อดีตนักแสดงหนุ่มชื่อดังของเมืองไทย ที่ผันตัวเป็นไปสตั๊นแมนในแวดวงฮอลลีวูด มานานกว่า 10 ปี โดยล่าสุดเจ้าตัวได้ควงแขนคู่หมั้นสาวชาวเวียดนาม "มีมี่" และคุณแม่ "ซูซี่ หทัยเทพ ธีระธาดา" เดินทางมาเลือกซื้อเครื่องเพชรที่จะใช้ในงานวิวาห์ดังกล่าว พร้อมทั้งเปิดเผยถึงฤกษ์งานมงคลสมรสที่กำลังจะเกิดขึ้นให้เราฟังว่า... เห็นว่าสาเหตุที่กลับมาเมืองไทยครั้งนี้เป็นเพราะจะมีข่าวดี ? ดอน - "ใช่ครับ ผมกลับมาเมืองไทยครั้งนี้ก็เพราะว่ากำลังจะมีพิธีแต่งงานกับแฟนผม เนื่องจากเมื่อปีที่ผ่านมาผมเพิ่งจะขอเขาแต่งงานที่สมุย และในส่วนของการจัดงานนั้นจะมี 2 วันคือวันที่ 21 ธันวาคม เป็นพิธีส่วนตัวที่สมุย เชิญแขกประมาณ 60 คน ส่วนวันที่ 25 ธันวาคม จะเป็นงานใหญ่จัดขึ้นที่กรุงเทพ และอันนี้ก็จะมีการเชิญสื่อ เชิญเพื่อน ๆ ดารา ผู้กับกับ และก็ผู้ใหญ่ในวงการมาร่วมงานด้วยครับ" ตอนที่เราขอคุณมีมี่แต่งงานบรรยากาศวันนั้นโรแมนติกไหม ? ดอน - "ตลกมากกว่าครับ (หัวเราะ) คือผมพยายามทำให้โรแมนติก แต่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นผมอาเจียนตลอดทั้งวันเลยจนมีมี่เขาคิดว่าผมไม่สบาย แต่สุดท้ายพอผมขอเขาแต่งงานปุ๊ปและเขาตอบตกลง พลุก็ถูกจุดขึ้นทันที ซึ่งมันก็โรแมนติกอยู่บ้าง แต่ก็อาจจะน่ารักบวกกับตลกนิด ๆ มากกว่า (หัวเราะ)" มีมี่ - "ก็รู้สึกว่าโรแมนติกนะ มีมี่เองก็ประทับใจด้วย เพราะไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะขอแต่งงาน คือมันก็เซอร์ไพรส์และก็มีความสุขไปพร้อม ๆ กัน (ยิ้ม)" เราสองคนไปพบรักกันที่ไหน ถูกใจกันยังไงบ้าง ? ดอน - "เราพบรักกันที่อเมริกาครับ เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งคุณมีมี่เขาเป็นหมอฟันอยู่ที่นั่น ตอนที่ผมไปเจอเขาครั้งแรกก็เป็นเพราะว่าผมเหตุจำเป็นให้ต้องไปผ่าฟันคุดอะครับ (หัวเราะ) ส่วนสาเหตุที่ผมประทับใจในตัวเขาก็เป็นเพราะว่า เขาเข้าใจผม เข้าใจการทำงานของผม และอยู่ข้าง ๆ ผม คอยสนับสนุนผมอยู่ตลอดในทุก ๆ เรื่องครับ" มีมี่ - "มีมี่ปีประทำใจที่เขาเป็นคนตลก เวลาอยู่ด้วยแล้วรู้สึกสนุก แถมเขาก็ยังเป็นคนที่น่าสนใจมากสำหรับมีมี่ อีกอย่างเราก็คบกันมานานแล้วด้วยเหมือนกัน" พอจะบอกได้ไหมว่าจะจัดงานที่ไหน ? คุณแม่ - "วันที่ 25 จัดงานที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นค่ะ และจะมีช่วงแถลงข่าวที่ห้องราชดำริ ซึ่งห้องนี้แม่ต้องบอกก่อนว่าทางโรงแรมไม่เคยให้ใครง่าย ๆ เนื่องจากเป็นห้องที่เวลามีประธานาธิบดีมาก็จะใช้แค่เฉพาะห้องนี้ ส่วนพิธีแห่ขันหมากก็จะมีตั้งแต่ 7 โมงเช้า ซึ่งแม่เตรียมช้างไว้ให้เขาขี่ด้วย คือมาเป็นขบวนช้างเลย ส่วนเรื่องปิดถนนคงทำไม่ได้ แต่คาดว่าช่วงเช้าคงไม่มีรถอะไรสักเท่าไหร่ และหลังจากหมั้นเสร็จปุ๊ป ก็จะมีพิธีสงฆ์ เลี้ยงอาหารเพล และช่วงเย็นก็จะมีงานแต่ง พอถึง 3 ทุ่มก็จะเป็นอาฟเตอร์ปาร์ตี้ค่ะ" นอกเหนือจากเครื่องเพชรมูลค่าหลาย 100 ล้าน ที่มาซื้อวันนี้แล้ว จะมีสินสอดอะไรเพิ่มเติมอีกไหม ? คุณแม่ - "ก็มีคอนโดที่ซื้อให้เขาทั้งคู่ค่ะ เป็นคอนโดในกรุงเทพเพราะแม่อยากให้เขาเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกเวลากลับมาเมืองไทย นอกจากนี้แล้วแม่ก็ตั้งใจไว้ว่าจะซื้อร้านใหม่ให้ว่าที่ภรรยาเขาด้วย ส่วนบ้านก็ต้องมีด้วยเหมือนกันเพราะเขาจะมีเป็นครอบครัวแล้ว" พี่ดอนตั้งใจมีลูกเลยหรือเปล่าหลังแต่งงาน ? ดอน - "เราทั้งคู่ยังไม่พร้อมครับ เพราะผมกำลังเปลี่ยนอาชีพอยู่ ส่วนคุณมีมี่ก็กำลังจะเปิดร้านใหม่ ดังนั้นถ้าให้มีลูกตอนนี้คงยังไม่พร้อมจริง ๆ เราขอได้สนุก ได้เดินทาง ได้ใช้ชีวิตร่วมกันไปก่อนสักระยะดีกว่า" หลังจากแต่งงานตั้งใจจะเฟดจากวงการถาวรเลยไหม ? ดอน - "ถ้างานสตั๊นอาจจะไม่แสดงแล้วครับ เพราะผมเพิ่งผันตัวเองมาเป็นผู้กำกับคิวบู้ สอนดาราออกแบบแอคชั่น และก็มีแพลนว่าจะกำกับหนังด้วยในเร็ว ๆ นี้" ในส่วนของแขกที่มาร่วมงานเห็นว่าจะมีเพื่อนนักแสดงมาด้วย อันนี้รวมถึงในวงการฮอลลีวูดด้วยไหม ? ดอน - "ก็มีบ้างครับทั้ง ดารา ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์ แต่ทั้งนี้แล้วอาจจะมีบางคนที่ไปสมุยแต่ไม่ไปกรุงเทพ ไปกรุงเทพแต่ไม่ไปสมุย คือต้องดูเรื่องความสะดวกของเขาด้วย" สรุปคุณแม่พอจะบอกเป็นตัวเลขรวม ๆ ได้ไหมว่างบประมาณทั้งหมดที่ใช้จัดงานแต่งครั้งนี้เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ? คุณแม่ - "คือปกติแล้วแม่ไม่ชอบนับ เพราะถ้านับแล้วจะตกใจ ดังนั้นในส่วนของเครื่องเพชรก็ให้เป็นไปตามที่คุณชูชัยบอกดีกว่า ส่วนเงินค่าโรงแรมค่าออแกไนซ์เซอร์แม่จ่ายหมดแล้วค่ะ เพราะแม่ไม่ชอบติดค้างใครจนกระทั่งงานจบ ที่สำคัญแม่ถือว่าโชคดีมากเพราะว่าได้ คุณคุกกี้ ลูกของ เจ้ากอแก้ว เข้ามาช่วยจัดการให้ ซึ่งปกติแล้วคุณคุกกี้ไม่ยอมจัดงานให้ใครง่าย ๆ ซึ่งแม่ก็ปลื้มใจมากที่เขาให้ความเมตตาดอน"