เมืองไทยลิสซิ่งลุยนาโนไฟแนนซ์ เล็งขยายสาขาปีหน้าอีก150แห่ง ตั้งเป้าสินเชื่อ1.65หมื่นล. หวัง3ปีหน้าโตก้าวกระโดด เมืองไทย ลิสซิ่ง เปิดแผนปีหน้า ขยายสาขาเพิ่มอีก 150 แห่ง ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 1.65 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากสิ้นปี 2557 ด้านผู้บริหารมั่นใจนำพาบริษัทโตก้าวกระโดดได้ช่วง 3 ปีข้างหน้า พร้อมลุยนาโนไฟแนนซ์ทันทีหากทางการชัดเจนเรื่องหลักเกณฑ์ขอใบอนุญาต ระบุฐานลูกค้าในมือกว่า 700,000 บัญชีเอื้อต่อการบุกตลาดหนุนรายได้กับกำไรเพิ่ม นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2558 ว่า บริษัทเตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 150 แห่ง จากปัจจุบันมีสาขาจำนวน 500 แห่ง และตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มเป็น 16,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2557 ขณะที่ยอดปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท "แผนที่จะเปิดสาขาใหม่ 150 สาขา ในปัจจุบันได้หาทำเลที่ตั้งเรียบร้อยแล้ว จะเป็นการเช่าพื้นที่สาขาทั้งหมด และจะทยอยเปิดสาขาทั้งหมดในไตรมาส 1 ปี 2558 และคาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 16,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30% จากปี 2557 และจากพอร์ตสินเชื่อในปี 2558 ได้คาดการณ์ว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปี 2557" นอกเหนือจากแผนธุรกิจข้างต้น นายชูชาติระบุด้วยว่าบริษัทพร้อมรุกธุรกิจปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ารายย่อยในระดับล่าง ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของระบบสถาบันการเงิน ผ่านธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ทันที หากทางการมีความชัดเจนในเรื่องของหลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตจัดตั้ง “จากฐานลูกค้าในปัจจุบันของเราที่มีกว่า 7 แสนราย เป็นลูกค้าชั้นดี คือ ค้างชำระไม่เกิน 30 วัน ถึงเกือบ 90% โดยหากเราเริ่มธุรกิจนาโนไฟแนนซ์จากฐานลูกค้าที่มีคุณภาพดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการต่อยอดจากธุรกิจเดิมของเรา มั่นใจว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่ภาครัฐกำหนดไว้สำหรับธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ ก็ถือว่าอยู่ในระดับสูง ทำให้เราสนใจเข้าทำธุรกิจนี้ เพราะเรามีความชำนาญในธุรกิจนี้อยู่แล้ว และมีความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นฐานลูกค้า การทำตลาด ระบบงานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการบริหารและติดหนี้ที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากเราเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า และมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน" เขาคาดด้วยว่าอัตรากำไรสุทธิ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทได้รับเงินจากการระดมทุน ผ่านการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรกหรือไอพีโอ ซึ่งเงินที่ระดมทุนได้ส่วนใหญ่ จะนำมาใช้ในการปล่อยสินเชื่อ และจากการที่บริษัทเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำให้บริษัทสามารถเจรจากับสถาบันการเงิน เพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งทั้งสองสาเหตุดังกล่าวจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลง และส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวสูงขึ้น “มั่นใจว่าอนาคตหลังจากนี้จะโตก้าวกระโดดตามแผนได้แน่นอน โดย 3 ปีข้างหน้า เตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 500 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีสาขากระจายทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง โดยสาขาที่เปิดใหม่ประมาณ 50% จะเป็นสาขาที่จะเปิดให้บริการในพื้นที่ใหม่ที่บริษัทยังไม่มีสาขาอยู่ ซึ่งจะเป็นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ถือเป็นการขยายฐานลูกค้าได้ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น" สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทมีรายได้รวม 1,348.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.14% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่มีกำไรสุทธิจำนวน 397.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน Tags : เมืองไทย ลิสซิ่ง • นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ