'หุ้นร่วง'ตามกลไกตลาด

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 16 ธันวาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    นายกฯชี้"ไม่มีอะไร" สั่งปรีดิยาธรดูแล-แจงนักลงทุน วอลุ่มทุบสถิติ1.02แสนล้าน-โบรกฯชี้ถูกบังคับขาย"ผิดปกติ"

    หุ้นร่วงหนักจากสารพัดปัจจัย "ภูมิภาค-ข่าวลือ-น้ำมัน" ดิ่งลงถึง 139 จุด ก่อนฟื้นตัวช่วงท้ายตลาด เหลือ 36.46 จุด นายกฯเตือนอย่าเชื่อข่าวลือ ลงทุนระวังภาวะผันผวน สั่ง"ปรีดิยาธร"ดูแลใกล้ชิด ด้านตลท.ยันไม่พบการซื้อขายผิดปกติ เป็นไปตามภาวะตลาด ขณะโบรกเกอร์ระบุ นักลงทุนถูกบังคับขายเพียบ ประเมินหุ้นไทยยังลงต่อ จากราคาน้ำมันโลกฉุดกลุ่มพลังงาน

    ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงอย่างหนัก 139 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายวานนี้ (15 ธ.ค.) แม้ไม่ทำลายสถิติเมื่อปี 2549 จากนโยบายควบคุมเงินทุน ซึ่งในครั้งร่วงลงถึง 142 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายทำลายสถิติของตลาด มีมูลค่าสูงถึง 102,662 ล้านบาท

    การปรับลดลงของตลาดหุ้น มาจากหลายปัจจัย และ มี"ข่าวลือ"เกิดขึ้นในตลาด โดยมีแรงเทขายอย่างหนักในช่วงบ่าย จากหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน แต่ในช่วงท้ายตลาดปรับตัวดีขึ้น จนมาปิดที่ระดับ 1,478.49 จุด ลดลง 36.46 จุด หรือ 2.41%

    การซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน ปรากฏว่านักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 829 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 2,560 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 4,194 ล้านบาท และนักลงทุนภายในประเทศ ซื้อสุทธิ 7,584 ล้านบาท

    กลุ่มหลักทรัพย์ที่ปรับลดลงมากที่สุดคือ พลังงาน ลดลง 4.09% นำโดยกลุ่มปตท. รองลงมากลุ่มสื่อสาร ลดลง 1.6% และกลุ่มธนาคาร ลดลง 0.5%

    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงแรงเป็นไปตามตลาดหุ้นในต่างประเทศ ขณะที่ข่าวต่างๆ ในตลาด ไม่มีอะไรผิดปกติ

    "สถานการณ์ไม่มีอะไร เป็นการลือส่งเดช ลือไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไร ไม่เกี่ยวข้องกัน" นายกรัฐมนตรี กล่าว

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่าหุ้นไม่ได้ตกเฉพาะในประเทศไทย เพราะในต่างประเทศก็ตก อย่างไรก็ตามได้สั่งการไปยังม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ที่รับผิดชอบให้เข้าไปดูแล และได้แจ้งต่อต่างประเทศว่าสถานการณ์ในประเทศยังปกติ และรัฐบาลได้ติดตามมาโดยตลอด การขึ้นลงของหุ้นไทยเป็นไปตามกลไกตลาดหุ้น ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของสถานการณ์น้ำมันโลก หรือปัญหาการเมืองและการสู้รบในต่างประเทศ

    "คำว่าหุ้นจะให้ขึ้นอย่างเดียวคงไม่ได้ มันต้องขึ้นต้องลงต้องดูว่าเวลาขึ้นก็ขึ้นเยอะ ซึ่งก็ได้กำไรเยอะ เวลาลงก็ต้องเจ็บตัวกันบ้าง อยากเตือนนักเล่นหุ้นว่าอย่าเอาเงินจมไปเล่นหุ้น คือ อย่ากู้เงินมาแล้วไปเล่นหุ้น มันต้องเงินลอย เงินเหลือใช้นำไปเล่น"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

    รมว.คลังยันไม่จำเป็นออกมาตรการ

    นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลงแรง ถือเป็นการเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับตลาดอื่นทั่วโลก เนื่องจากตลาดต่างประเทศขณะนี้มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงแรง

    อย่างไรก็ตาม อยากให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมั่นใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากพอถึงช่วงเวลาหนึ่งแล้วมองว่าราคาหุ้นจะมีการปรับเพิ่มขึ้นตามกลไก ส่วนจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการออกมาดูแลหรือไม่นั้น มองว่าไม่จำเป็น

    “ตลาดหุ้นลดลงไปตามกระแสตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งมีลงได้ก็ขึ้นได้ นักลงทุนทั้งในต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนไทยอย่าไปตื่นตระหนก อย่าไปคิดมาก ส่วนทางการหรือรัฐบาลก็พยายามดำเนินการอยู่แต่ถ้าจะให้เร็วในการเรียกความเชื่อมั่นบางครั้งมันก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน”

    มั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจไทย

    นายสมหมาย กล่าวว่า ในปี 2558 ประเมินว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐบาล โดยเฉพาะมาตรการในเรื่องของกระตุ้นการใช้จ่าย ขณะที่ปัจจัยที่ยังน่าเป็นห่วง คือ ปัญหาการส่งออกที่ยังชะลอตัวลงต่อเนื่องจากปีนี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะพยายามดำเนินงานในด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ เพื่อดูแลเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ในระยะต่อไป

    “ปีหน้ามองว่าเศรษฐกิจจะดี แต่ยังมีความยากลำบากเรื่องการส่งออก ทั้งนี้ รัฐบาลก็เดินหน้าเต็มที่ อย่างในเรื่องภาษี ยังไม่เห็นว่าจะมีการปรับขึ้น มีแต่การปรับลดภาษีลงมากกว่า ส่วนปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันตลาดโลกที่ตกต่ำนั้น มองว่าจะตกไปจนถึงปีหน้า แต่ก็น่าจะเป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกช่องทางหนึ่ง เพราะเป็นตัวช่วยลดต้นทุนการผลิตด้วย”

    ชี้ตลาดหุ้นเกิดใหม่ร่วงหมด

    นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า เตือนนักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนกในกรณีที่หุ้นปรับตัวลดลงในช่วงนี้ มองว่าราคาหุ้นที่ปรับลดลง เป็นผลมาจากความกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงมาก ซึ่งตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ดัชนีล้วนเคลื่อนไหวในแดนลบ ตั้งแต่ไตรมาส 4 จนถึงปัจจุบัน โดยดัชนีในตลาดเกิดใหม่ปรับลดลง 5.8% ส่วนตลาดหุ้นไทยปรับ 4.2%

    ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาได้ปรับลดลงค่อนข้างมากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ต้นสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นในเอเชียก็ปรับลดลง 1-2% ตลาดหุ้นไทยก็เช่นเดียวกัน สาเหตุมาจากปัจจัยเรื่องราคาน้ำมัน ซึ่งทุกประเทศเกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน อย่างประเทศไทยก็มีการนำเข้าน้ำมัน จะเห็นว่ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันลดลงไปราว 9% กว่า เพราะได้รับผลกระทบ จึงมีคนปรับโพซิชั่น รวมถึงกลุ่มก่อสร้างที่ปรับลดลงเช่นกัน

    จากกรณีราคาน้ำมันปรับลดลง นักลงทุนควรพิจารณาการลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน เช่นหุ้นกลุ่มสายการบิน นอกจากนี้มองว่าการลดลงของราคาน้ำมันจะช่วยส่งผลให้เศรษฐกิจปี 2558 ปรับตัวดีขึ้น จากต้นทุนการผลิตที่ลดลง และส่งผลให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อปรับตัวลดลงด้วย ?

    ยืนยันไม่ตั้งกองทุนพยุงหุ้น

    นางเกศรา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องตั้งกองทุนพยุงหุ้น แม้ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องมากกว่า 100 จุดแล้ว แต่เห็นว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมาก ถึงระดับ 138.95 จุด ทางตลาดหลักทรัพย์ได้แจ้งความเคลื่อนไหวกับกระทรวงคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว โดยประเมินว่าเป็นการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างประเทศและนักลงทุนไทย ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากดัชนีปรับตัวลดลงมา 10% ระบบเซอร์กิตแบรคเกอร์จะทำงานอัตโนมัติ โดยจะพักการซื้อขายไว้ทันที

    “ในสัปดาห์ที่แล้ว ที่ได้เข้าพบรมว.คลัง เป็นการเข้าพบตามปกติ ไม่ได้เข้าพบเพราะเกิดปัจจัยเสี่ยงขึ้นในตลาดหุ้นแต่อย่างใด โดยการนัดครั้งนี้เป็นการนัดหมายล่วงหน้า แต่วันนัดกับวันที่เกิดเหตุผิดปกติในหุ้นเป็นวันเดียวกันพอดี และไม่มีการพูดคุยเรื่องตลาดหุ้นเป็นพิเศษ”

    รับมีฟอร์ซเซลไม่มากย้ำไม่พบการซื้อขายผิดปกติ

    กรณีการบังคับขายหุ้น ยอมรับว่ามีการบังคับขายเกิดขึ้นหลังจากที่ดัชนีปรับตัวลดลงลึก แต่ไม่มีการบังคับจำนวนมาก เนื่องจากนักลงทุนส่วนมากตัดสินใจลงทุนเอง อาทิ ผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตเทรดดิ้ง ไม่ได้ซื้อขายผ่านโบรกเกอร์

    นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกำกับตลาด และดูแลสายงานกฎหมาย กล่าวว่า การซื้อขายระหว่างวันไม่มีความผิดปกติ ส่วนการที่ตลาดหุ้นปรับลงแรง น่าจะมาจากปัจจัยทางเทคนิค ซึ่งเมื่อหลุดแนวรับสำคัญ ที่ 1,487 จุด จึงเกิดความตื่นตระหนกขึ้นและเทขายกันค่อนข้างมาก ทั้งนี้จะเห็นว่ามีแรงรับเกิดขึ้นเร็ว ทำให้ดัชนีฟื้นตัวขึ้นในท้ายตลาด

    สำหรับกระแสข่าวลือต่างๆ โดยเฉพาะในสังคมออนไลน์ อยากให้นักลงทุนใช้วิจารณญาณว่าสมควรจะเชื่อข่าวลือหรือไม่ แล้วค่อยตัดสินใจลงทุน

    เผยถูกบังคับขายหุ้นมากผิดปกติ

    นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงรุนแรงแม้ไม่มีปัจจัยที่เข้ามากระทบ ทั้งนี้ เห็นสัญญาณการถูกบังคับขายหุ้นในช่วงเช้าในปริมาณที่มากจนผิดปกติ ก่อนที่นักลงทุนต่างชาติจะเทขายหุ้นในช่วงการเปิดตลาดการซื้อขายช่วงบ่ายอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคาร ทำให้เกิดการแตกตื่นทั่วทั้งตลาด

    "ในช่วงเช้าเห็นสัญญาณการถูกบังคับขายหุ้นจำนวนมาก ทำให้หุ้นหลายหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงอย่างผิดปกติ ก่อนที่ภาคบ่ายดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ซึ่งชัดเจนว่าเกิดจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร ซึ่งเกิดจากแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติ"

    การปรับตัวลดลงที่ไม่ทราบสาเหตุนี้ สร้างความปั่นป่วนให้กับนักลงทุนค่อนข้างมาก ทำให้มีการปรับท่าทีในการลงทุนที่ยากขึ้น เพราะนักลงทุนไม่ทราบถึงผลกระทบต่อตลาดหุ้น และไม่รู้ถึงวิธีการรับมือ ซึ่งการปรับตัวดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นในหลายหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีราคาถูกและเหมาะสมเข้าลงทุน แต่การปรับตัวลดลงนั้นยังไม่ทราบว่าจะสิ้นสุดที่ตรงไหน ดังนั้นแนะนำให้นักลงทุนแบ่งเงินเพื่อทยอยเข้าซื้อหุ้น ไม่ควรลงทุนทั้งหมดในครั้งเดียว

    ราคาน้ำมันร่วงยังกดดันหุ้นพลังงาน

    นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บล. ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้เกิดจากแรงเทขายในกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยที่อิงกับกลุ่มพลังงานเป็นส่วนมากปรับตัวลดลงไปมากกว่าปกติและมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค

    "การร่วงลงของราคาน้ำมันตอนนี้ไม่ได้อิงกับปัจจัยพื้นฐานแล้ว เป็นเกมการเมืองกันระหว่างประเทศกดดันให้ราคาน้ำมันต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ซึ่งตลาดหุ้นไทยจะเป็นลักษณะนี้ต่อไป หากราคาน้ำมันยังไม่สามารถยืนระดับได้ ส่วนประเด็นที่กังวลกันว่า เป็นผลมาจากการโจมตีของกลุ่มไอเอส ในประเทศออสเตรเลียนั้นไม่น่าจะใช้เรื่องที่นักลงทุนต่างชาติกังวล"

    เขากล่าวเพิ่มว่า การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยที่มากกว่าภูมิภาคนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุด ซึ่งสิ่งที่ผิดปกตินั้นคือนักลงทุนต่างชาติ เทขายหุ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในช่วงเดือนธ.ค.ของปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติจะมีมูลค่าการซื้อขายที่ลดลง

    สมาคมบล.ยังไม่หารือสมาชิก

    นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงเร็วและแรงมากกว่า 130 จุดเป็นปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่ปรับตัวลงไปกว่า 300 จุด ตอบรับสภาวะราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาน้ำมันน่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้หลังจากราคาเริ่มนิ่งแล้ว

    ส่วนทิศทางตลาดหุ้นในระยะข้างหน้า ยังไม่มีความแน่นอน ในส่วนของสมาคมคงไม่จำเป็นต้องเรียกหารือกันเพราะไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงกลไกตลาดได้ เพียงแนะนำนักลงทุนให้ระมัดระวังการลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูงมาก

    Tags : ตลาดหลักทรัพย์ • หุ้นร่วง • ข่าวลือ • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา • กลไกตลาด • ผิดปกติ • สมหมาย ภาษี • เศรษฐกิจไทย • พลังงาน • ราคาน้ำมัน • ภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ • ผันผวน

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้