คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ไม่กังวลม็อบต้านราชประสงค์พรุ่งนี้ ยันควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมย้ำคุมอำนาจเพื่อแก้ปัญหาในประเทศ ขณะผุดรายการพิเศษผ่านทีวี 'คืนความสุขให้กับคนในชาติ' ออกทุกวันศุกร์ พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงข่าวชี้แจงถึงการออกรายการพิเศษของ พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหนัาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในรายการ "คืนความสุขให้กับคนในชาติ" ซึ่งจะมีการออกรายการดังกล่าวต่อเนื่อง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเบื้องต้นกำหนดไว้ทุกวันศุกร์ ซึ่งเนื้อหาจะเน้นการบริหารราชการแผ่นดิน และแนวทางเร่งรัดแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวยืนยัน คสช. ต้องการให้สังคมไทยเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมสร้างบรรยากาศในบ้านเมืองให้ดีขึ้น จึงเตรียมพิจารณาการปรับลดกำลังเจ้าหน้าที่ การตั้งด่านตรวจ เพื่อให้มีความเหมาะสมต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวย้ำถึงกรณีมีบุคคลสวมใส่ชุดทหาร ว่า ขอให้ประชาชนช่วยสังเกต ซึ่งทหารจะมีเครื่องแบบที่ต้องติดยศชัดเจน และมีพาหนะของราชการ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่และเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ทั้งนี้ การแต่งกายเครื่องแบบทหาร เป็นเรื่องที่กระทบความรู้สึกของประชาชน จึงจะขอให้ประชาชนร่วมกันให้ความร่วมมือ อย่าสวมใส่ หากไม่ใช่เจ้าหน้าที่ เพราะต้องการให้ความรู้สึกของสังคม เป็นไปตามวิถีธรรมชาติ ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์บ้านมืองขณะนี้ยอมรับยังมีการรวมกลุ่มคัดค้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จึงขอความร่วมมือห้ามปรามไม่ให้เข้าร่วมชุมนุมพร้อมย้ำทหารจะดำเนินการตามมาตรการของกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยล่าสุด สน.พญาไทออกหมายจับผู้กระทำผิดแล้ว 14 คน จับได้ 1 คน นอกจากนี้ พ.อ.วินธัย ยังระบุว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ไม่กังวลกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้าน การควบคุมอำนาจการปกครองของ คสช.ที่นัดชุมนุมวันพรุ่งนี้ 1 มิถุนายน 2557 บริเวณแยกราชประสงค์ เนื่องจากมีมาตรการรองรับไว้แล้ว พร้อมเชื่อว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทางด้าน พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่า คสช. เคารพความคิดของทุกฝ่าย แต่ในช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ ขอให้คำนึงถึงประเทศเป็นที่ตั้ง ขณะเดียวกันย้ำว่า การที่ คสช. เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง เพื่อต้องการจะแก้ไขปัญหาจึงขอให้รอดูผลลัพธ์ที่ตามมา เชื่อว่ามีความคุ้มค่า ส่วนการชี้แจงกับต่างประเทศยังมีอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ ก็ยังไม่มีข้อมูลผลตอบรับอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีทั้งแง่บวกและลบ