นายกรัฐมนตรี สั่ง กต. ตรวจสอบเหตุจับตัวประกันออสเตรเลียมีคนไทยหรือไม่ ยัน รบ. มีแผนดูก่อการร้าย-เร่งช่วยเหลือแก้ราคายางตกต่ำ มั่นใจ เศรษฐกิจปี 58 จะดีขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เปิดเผยว่า ได้รับทราบข่าวเหตุจับกุมตัวประกันที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว ซึ่งกำลังติดตามอยู่ว่ามีคนไทยด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าประเทศไทยมีมาตรการเฝ้าระวังผู้ก่อการร้ายและต้องใช้ความระมัดระวังโดยฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามอยู่ ซึ่งประชาชนต้องเฝ้าระวังด้วยแต่เบื้องต้นยังไม่มีรายงานในเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำว่ารัฐบาลไม่สามารถรับซื้อยางมาเก็บไว้ได้อีกและคงจะไม่ถึงกิโลกรัมละ 80 บาท เนื่องจากต้องอ้างอิงกับราคาตลาดโลกแต่จะพยายามทำให้ได้กิโลกรัมละ 60 บาท ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะต้องดูแลทุกฝ่ายและต้องใช้เวลาเพราะต้องแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะการจัดตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราจึงอยากขอให้เกษตรกรชาวสวนยางอดทนและปรับเปลี่ยนตัวเองด้วยพร้อมยืนยันว่าส่วนตัวมีความเป็นห่วงและไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหากมีโอกาสก็พร้อมจะที่พูดคุยด้วย นายกฯปาฐกถาย้ำปฏิรูปต้องใช้เวลามั่นใจศก.58ดีขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวเปิดงานสัมมนาในหัวข้อ "ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่ : เพื่ออุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างยั่งยืน" พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนในระยะ 7 ปี (พ.ศ. 2558-2564) ที่ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีรองนายกรัฐมนตรี ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมภายในงาน ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเช่นเคย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาว่า การปฏิรูปในทุกด้านจะต้องใช้เวลา โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเศรษฐกิจในปี 2558 จะดีขึ้น โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น 28 ล้านคน พร้อมกันนี้ยังยืนยันว่ารัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และสร้างศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืน และจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัยด้วย นายกฯคาดปีหน้าเศรษฐกิจไทยโต4.5-5% พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในงานสัมมนา "ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน เพื่อเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน" พร้อมกล่าวปาฐกถาว่า เศรษฐกิจไทยในขณะนี้จะเติบโตอย่างยั่งยืนได้ทุกภาคส่วนต้องรวมมือกัน เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดความไม่สงบทางการเมือง ซึ่งส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศทำให้เศรษฐกิจติดลบ ขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และคาดว่าในปี 2558 เศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้นและขยายตัวได้ในระดับ ร้อยละ 4.5 - 5 โดยในช่วง 11 เดือนแรกที่ผ่านมาทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ได้มีการอนุมัติการลงทุนโครงการไปแล้วกว่า 760,000 ล้านบาท ส่วนการเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศทางภาครัฐได้ส่งเสริมการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเชื่อมโยงทางการค้าระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียนให้มากขึ้น ทั้งนี้ ถือว่าการปรับกฎระเบียบทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนครั้งใหญ่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาตินั้นจะเพิ่มขี้ความสามารถในการแข่งขันทางการค้าให้มากขึ้น