กรุงศรีฯมองเช่าซื้อปีหน้าโต6% ระบุโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ดันผู้บริโภคเข้าถึงรถง่ายขึ้น กรุงศรี ออโต้ คาดตลาดเช่าซื้อรถยนต์ปีหน้า โต 6% เหตุการเมืองนิ่ง กำลังซื้อเริ่มกลับมา แม้อัตราเติบโตจะยังต่ำกว่าภาวะปกติที่จะเติบโต 2 หลัก ระบุจะเป็นปีดีของตลาดรถมือสอง หลังบริษัทญี่ปุ่นแห่ลงทุน สร้างพันธมิตรกับดีลเลอร์ นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือ “กรุงศรี ออโต้” กล่าวถึงแผนธุรกิจปี 2558 ว่า อยู่ระหว่างเสนอแผนกับมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยประเมินว่า ตลาดเช่าซื้อปีหน้าจะเติบโตประมาณ 6% ถือว่ายังไม่เข้าสู่ภาวะปกติที่จะเติบโต 2 หลัก โดยสถานการณ์ปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งปัจจัยในประเทศที่เริ่มมีการกระตุ้นเศรษฐกิจในปลายปีนี้ และเชื่อว่าจะส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยปีหน้าให้ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตที่จะเริ่มใช้ปี 2559 จะทำให้รถต่ำกว่า 1500 ซีซีราคาถูกลง และผู้บริโภคเข้าถึงง่ายขึ้น "เรายังเชื่อว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางอาเซียนอยู่ ยังไงผู้ผลิตก็ยังอยู่ในไทย และมาสด้าลงทุนหมื่นกว่าล้านใน 2 โรงงาน ต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางเพื่อการส่งออกรถยนต์ ด้วยพื้นฐานที่ดี และมีเออีซีเข้ามาไทยยังเป็นศูนย์กลางอยู่ และน่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น" สำหรับปัญหาหนี้ครัวเรือน เชื่อว่าจะลดไปได้หากการใช้จ่ายรัฐเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีรายได้เข้ามามากขึ้นจะทำให้สัดส่วนของหนี้ปรับลดลงมาได้ นายไพโรจน์ กล่าวว่า ด้วยตลาดที่ยังไม่สามารถขยายตัวมากนัก บริษัทจะเน้นการรักษามาร์เก็ตแชร์ โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จะเป็นกลยุทธ์หลักในการเติบโต รวมถึงคาร์ฟอร์แคช เนื่องจากตลาดรถจักรยานยนต์กว้างมาก แต่ละปีมียอดขาย 1.7ล้านคัน และปีหน้าคาดว่าจะมียอดขาย 1.8 ล้านคัน โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่บริษัทมีสาขาอยู่มาก รวมถึงตลาดบิ๊กไบต์ที่เป็นสินเชื่อที่คุณภาพดี ตลาดมีความต้องการมากขึ้นและมีผู้นำเข้ามามากขึ้น ขณะที่สินเชื่ออื่นยังโตตามตลาด ส่วนตลาด "เช่าซื้อรถมือสอง" บริษัทได้วางโครงสร้างการทำตลาดผ่านเว็บไซต์ในปีนี้ ทำให้สินเชื่อของบริษัทหดตัวน้อยกว่าตลาด และจะเป็นพื้นฐานการเติบโตในปีหน้าต่อไป ทั้งนี้ยอมรับว่ารถมือสองมีความเสี่ยงสูงกว่ารถใหม่ แต่อัตราผลตอบแทนก็สูงตามความเสี่ยง ขณะเดียวกันบริษัทยังมีรูปแบบการบริหารความเสี่ยงที่ดีด้วย ทำให้บริษัทคุมหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลไว้ต่ำกว่า 2% ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับตลาด ในภาวะเช่นนี้ สำหรับสถานการณ์รถยึดในตลาดในช่วงต้นปีอาจจะมีแนวโน้มเพิ่มบ้าง แต่ขณะนี้เริ่มปรับฐานและราคามีแนวโน้มลดลงในไตรมาส 4 และเริ่มเห็นราคารถมือสองเริ่มนิ่งและจัดการง่ายขึ้น ซึ่งมองว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีของรถมือสองและจะเป็นตลาดที่น่าสนใจ เห็นได้จากบริษัทญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในธุรกิจรถมือสองในไทย เช่น วี-กัลลิเวอร์ ซึ่งบริษัทจะเข้าไปเป็นพันธมิตรโดยอาศัยความร่วมมือของธนาคารแม่ เช่นเดียวกับการสร้างพันธมิตรกับดีลเลอร์รถรายอื่นๆ ที่ใช้ฐานธุรกิจขนาดใหญ่ของธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (บีทีเอ็มยู) เข้าไปเชื่อมธุรกิจให้ธุรกิจในประเทศ เขากล่าวอีกว่า ปีหน้าบริษัทจะเน้นสร้างความแตกต่างและทำการตลาดในช่องทางออนไลน์โดยเฉพาะรถมือสอง ส่วนรถใหม่บริษัทจะมีแคมเปญร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ เช่น ฮอนด้า และจะขยายไปโตโยต้าและผู้ผลิตรายอื่น ซึ่งที่ผ่านมาการให้บริการของลีสซิ่งในเครือผู้ผลิตเหล่านี้ยังตอบโจทย์ลูกค้าได้ไม่มากพอ เนื่องจากมีเครือข่ายไม่ครอบคลุมความต้องการลูกค้า สำหรับลูกค้าคาร์ฟอร์แคชนั้นจะนำเทคโนโลยีมาช่วยให้กระบวนการอนุมัติรวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับการออกไปขยายธุรกิจในเออีซีนั้น ในสิ้นปีนี้บริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจในสปป.ลาว ในรูปแบบของบริษัทร่วมทุน ประกอบธุรกิจสินเชื่ออุปโภคบริโภคและสินเชื่อเช่าซื้อ ร่วมกับกรุงศรีคอนซูเมอร์และบริษัทท้องถิ่นในลาว เน้นธุรกิจในเวียงจันทน์และปากเซ โดยปีหน้าจะเริ่มทำธุรกิจอย่างจริงจัง ก่อนขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ และพื้นที่อื่นในอาเซียน ส่วนของ พ.ร.บ.ค้ำประกันนั้นมองว่าจะส่งผลกระทบกับภาคการเงินในทุกตลาด รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งภาครัฐต้องพิจารณาให้ดี เพราะสถาบันการเงินจะปล่อยสินเชื่อและกำหนดราคาตามความเสี่ยง หากการค้ำประกันไม่ช่วยลดความเสี่ยงก็ต้องหาแนวทางที่จะมาช่วยลดความเสี่ยงเหล่านั้นลงได้ Tags : นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ • กรุงศรี ออโต้ • เช่าซื้อรถยนต์