'ระยองไวร์'ยันหุ้นใหญ่กอดแน่นคงสัดส่วน77%

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 13 ธันวาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ระยองไวร์ เชื่อผู้ถือใหญ่ถือลงทุนระยะยาวและคงสัดส่วนการถือหุ้นกว่า 77% เหตุบริษัทยังมีแนวโน้มกำไรเติบโตดี

    มองตลาดเหล็กเส้นในประเทศ 2-3 ปีหน้า ขยายตัวปีละ 115% จากงานภาครัฐที่จะออกมาต่อเนื่อง โดยเตรียมทุ่มงบลงทุน 140 ล้านบาท ขยายกำลังผลิตอย่างน้อย 50% ในปีหน้า ขณะที่ปลายปี 2559 อาจต้องพิจารณาขยายกำลังผลิตอีกครั้ง

    นายเชนินทร์ เชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ RWI เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) CENซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้ง คอมพานี และตระกูลลีนะบรรจง จะยังคงสัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งถือหุ้นรวมกันอยู่กว่า 77% เนื่องจากบริษัทยังมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรดีอยู่ โดยในปีหน้าบริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 30% จากปีนี้ เพราะจะมีโครงการลงทุนต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องใช้วัสดุของบริษัทออกมาอย่างต่อเนื่อง

    ในขณะที่ราคาหุ้นซึ่งปรับตัวขึ้นไปสูงถึง 12.80 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 8 บาท เมื่อต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา จากราคาเปิดการซื้อขายเมื่อกลางเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา บริษัทยืนยันว่ายังไม่มีพัฒนาการที่สำคัญใดๆ ตามที่ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ไปเมื่อ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา และที่สำคัญบริษัทยังไม่ได้ใช้เงินระดมทุนจากไอพีโอไปแม้แต่น้อย ส่วนราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาบริเวณ 7 บาท ในขณะนี้ คงไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นราคาที่เหมาะสมหรือไม่

    “ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาอยู่บริเวณ 7 บาทนั้น อาจจะไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นราคาที่เหมาะสมหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี โดยมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 12% ซึ่งสูงกว่าหลายๆ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และหากมองในแง่ค่าพีอีที่ 40 เท่า ก็ยังน้อยกว่าค่าพีอีของตลาด เอ็ม เอ ไอ ซึ่งอยู่ที่ 70 เท่า แต่หากมองในแง่ของทฤษฎีการลงทุนแล้ว บริษัทก็ควรจะมีค่าพีอีในระดับ 10 กว่าเท่า ซึ่งในส่วนนี้ก็เป็นหน้าที่ของบริษัทที่ต้องเร่งสร้างผลกำไรออกมา” นายเชนินทร์ กล่าว

    เขากล่าวต่อว่า ช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ตลาดเหล็กเส้นภายในประเทศซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทจะเติบโตได้ถึงปีละ 115% เนื่องจากโครงการลงทุนของภาครัฐจะทยอยออกมาเป็นจำนวนมาก อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง โครงการน้ำ และโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ซึ่งบริษัทได้เตรียมพร้อมที่จะขยายกำลังการผลิตไว้รองรับ โดยเตรียมงบลงทุนไว้ 140 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจากไอพีโอ ส่วนเงินจากไอพีโออีก 100 ล้านบาท จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

    “บริษัทคาดว่าการซื้อเครื่องจักรเพิ่มครั้งนี้ จะช่วยขยายกำลังการผลิตได้อย่างน้อย 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,000 ตันต่อเดือน จะเพิ่มเป็นกว่า 3,000 ตันต่อเดือน แต่อย่างไรก็ตามเครื่องจักรใหม่จะเข้ามาในช่วงไตรมาส 4 ปีหน้า เพราะต้องใช้เวลาในการผลิตเครื่องจักรและติดตั้งพอสมควร” นายเชนินทร์ กล่าว

    ทั้งนี้ หลังจากที่การขยายกำลังการผลิตเพิ่มครั้งนี้จะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2559 แต่ในช่วงปลายปี 2559 บริษัทอาจจะต้องพิจารณาเรื่องของการปรับเพิ่มกำลังการผลิตอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากบริษัทเชื่อว่าแนวโน้มความต้องการใช้เหล็กเส้นจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในปีถัดไป ซึ่งเงินลงทุนของบริษัทอาจจะมาจากผลกำไรในการดำเนินงาน

    สำหรับปีนี้ หากบริษัทไม่ได้มีการลงทุนนอกเหนือจากที่กล่าวมา เชื่อว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ตามนโยบายที่แจ้งไว้ คือไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ แต่อย่างไรก็ตามต้องรอการพิจารณาจากที่ประชุมในช่วงต้นปีหน้า

    Tags : ระยองไวร์ • เชนินทร์ เชน • เหล็ก

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้