"ไอพีโอ" เตรียมเข้าตลาดเอ็มเอไอ ส่อแพงเกินเหตุ ขายพี/อีทะลุ 80-150 เท่า ที่ปรึกษาทางการเงินอ้าง เศรษฐกิจไม่ดีทำค่าพี/อีพุ่ง ฟุ้งปีหน้าจะกลับสู่ภาวะปกติ มองตลาดหุ้นผันผวนไม่กระทบหุ้นไอพีโอ เหตุการเตรียมงานใช้เวลานาน ปัจจัยการผันผวนเป็นระยะสั้น นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซทโปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของหุ้นที่จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ครั้งแรก (ไอพีโอ) ปี 2558 นั้น น่าจะมีความคึกคักมากขึ้น หลังจากภาพของเศรษฐกิจในปีหน้าที่มีการเติบโตชัดเจน ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องมีการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจ แม้จะมีปัจจัยผันผวนในระยะสั้น แต่แผนการทำบริษัทเข้าจดทะเบียนเป็นแผนที่ทำในระยะยาว "เราต้องเข้าใจว่า การจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนมีระยะเวลาการทำรายการ แต่ละรายการมากกว่า 2 ปี หากบริษัทเริ่มดำเนินการเตรียมความพร้อมวันนี้ กว่าจะได้เข้าทำการซื้อขายจริงก็ปี 2559- 2560 แผนงานต่างๆ จะเดินหน้าต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ดังนั้นปัจจัยความผันผวนในระยะสั้น จะไม่มีผลกระทบกับแผนการระดมทุน ส่วนของบริษัทนั้น จะมีการยื่นไฟลิ่งและนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในปีหน้า ไม่ต่ำกว่า 4-5 บริษัท" ปีนี้บริษัทได้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ให้กับบริษัท เค ซี เมททอลชีท จำกัด (มหาชน) หรือ KCM ผู้ผลิตและจำหน่ายหลังคาเหล็กเมททอลชีท โดยจะมีการเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.25 บาท ราคา 1.3 บาทต่อหุ้น ในช่วง 15-17 ธ.ค.นี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอวันที่ 23 ธ.ค. โดยราคาจองซื้อดังกล่าว มีระดับราคาปิดกำไรต่อหุ้นที่ 89 เท่า ซึ่งระดับพี/อีดังกล่าว อาจสูงเกินไป แต่ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาต่ำกว่าปกติ เพราะเจอกับปัญหาการเมือง และปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้เป็นการเข้าระดมทุนภายใต้ผลการดำเนินงานที่ไม่ดีแต่ในปีหน้านั้น ผลการดำเนินงานจะกลับสู่ภาวะปกติ จากภาพของเศรษฐกิจกลับมาเติบโตเต็มที่อีกครั้ง บริษัทจะกลับมาในลักษณะของการเทิร์นอะราวด์ได้ นางสาวอนงค์ ยุวะหงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) 89.45 ล้านหุ้น พาร์ 1 บาท หรือคิดเป็น 22.36 % ของทุนชำระแล้วทั้งหมด เสนอขายที่ราคา 12.75 บาทต่อหุ้น เปิดให้มีการจองซื้อระหว่าง 23 - 25 ธ.ค. และจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ วันที่ 8 ม.ค.2558 "การเข้าจดทะเบียนของบริษัท เป็นหุ้นตัวแรก ที่เข้าตามโครงการ Renewable Energy ที่เปิดโอกาสให้ธุรกิจพลังงานทดแทนที่มีสัญญาการซื้อขายไฟชัดเจน และมีการขายไฟให้กับทางการแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี เข้าจดทะเบียน ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจพลังงานทดแทนเข้าระดมทุนได้ดีขึ้น โดยราคาจองซื้อหุ้นไอพีโอในระดับดังกล่าว คิดจากผลการดำเนินงานของบริษัท 12 เดือนย้อนหลัง โดยมีระดับราคาปิดกำไรต่อหุ้น (พี/อี) 159 เท่า ซึ่งระดับราคาดังกล่าวนั้นอาจจะดูไม่สะท้อนกับผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา แต่ในอนาคต บริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟที่ชัดเจน โดยภายใน 3 ปีข้างหน้าบริษัทจะกำลังการผลิตไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 150 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน 10 เมกะวัตต์ มองภาพการเติบโตในอนาคตจะเป็นราคาที่เหมาะสม การจัดสรรหุ้นจะจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) 50,390,432 หุ้นในอัตราส่วน 10 หุ้นเดิม ได้สิทธิจองซื้อ 1 หุ้นใหม่ ส่วน 39,059,565 หุ้นจะเป็นการจัดสรรให้กับนักลงทุนทั่วไป Tags : สมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร • แอสเซทโปร แมเนจเม้นท์ • ไอพีโอ • เศรษฐกิจ