"ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ" รักษาแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปีที่2 โชว์ความมั่งคั่ง5.8หมื่นล้าน ราคาหุ้น"บำรุงราษฎร์"พุ่ง รวยเพิ่มขึ้นกว่า 2 หมื่นล้าน "ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" พุ่งจากอันดับ 5 คว้าอันดับ 2 รวย 4.2 หมื่นล้าน แซง "คีรี กาญจนพาสน์" ร่วงมาอยู่อันดับ 3 รวย 3.9 หมื่นล้าน ด้าน"ตระกูลจิราธิวัฒน์" คว้าแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 2 มั่งคั่งรวม 6.9 หมื่นล้าน ภาพรวมเศรษฐีหุ้นไทยปี 2557 ซึ่งวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 6,473 ราย มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 1,831,393 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ซึ่งมีมูลค่า 571,731 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 45.39% สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธ.ค.2557 ปรากฏว่า ตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2557 ได้แก่ นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ เจ้าของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ โดยถือครองหุ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวมมูลค่า 57,909.48 ล้านบาท รวยขึ้น 21,313.28 ล้านบาท หรือ 58.24% ซึ่งครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 2 หุ้นที่ นายปราเสริฐ ถือครอง ได้แก่ กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 สัดส่วน 20.19% รวมมูลค่า 57,866.71 ล้านบาท นอกจากนี้ยังถือหุ้นโรงพยาบาลนนทเวช (NTV) สัดส่วน 0.79% มูลค่า 42.77 ล้านบาท ความมั่งคั่งของนายปราเสริฐ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นับจากปี 2547 ที่เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 26 ถือครองหุ้นมูลค่า 1,562.42 ล้านบาท จนในที่สุดขึ้นเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นในปี 2556 เป็นปีแรก ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 36,596.20 ล้านบาท ต่อเนื่องมาปีนี้ ก็ยังคงรักษาแชมป์เศรษฐีหุ้นไว้ได้อีกปี หุ้นพฤกษาดีดกลับ"ทองมา" ขึ้นที่ 2 ส่วนเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 คือ นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) หลังปี 2556 ร่วงลงมาอยู่อันดับ 5 โดยมีมูลค่าหุ้นพฤกษา ที่ถือครอง 54.59% รวมมูลค่า 41,579.50 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 16,126.15 ล้านบาท หรือ 63.36% เพราะราคาหุ้นพฤกษาปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 34.25 บาท ณ วันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ใช้คำนวณมูลค่าความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นปีนี้ จากที่หล่นไปแตะ 19.50 บาท เมื่อปีที่แล้ว โดยราคาปรับขึ้นมา 14.50 บาท หรือ 75.64% อันดับ 3 ในปีนี้ เป็นของนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ที่ร่วงลงมาจากอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว หุ้นที่ถือครองรวมมูลค่า 39,200.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,980.24 ล้านบาท หรือ 14.55% ได้แก่ หุ้น BTS 32.58% มูลค่า 38,811.65 ล้านบาท หุ้นแสนสิริ 0.6% มูลค่า 129.92 ล้านบาท และหุ้นวี จี ไอ โกลบอล มีเดีย 0.54% มูลค่า 258.46 ล้านบาท "สมโภชน์ อาหุนัย"รวยอันดับ4 ด้านนายสมโภชน์ อาหุนัย อดีตกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่ผันตัวไปเป็นเจ้าของกิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในชื่อ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กระโดดขึ้นมาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 4 จากอันดับ 10 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่า 36,565.50 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 26,429.71 ล้านบาท หรือ 260.76% ได้แก่หุ้น EA ในสัดส่วน 40.47% มูลค่า 36,533.78 ล้านบาท และหุ้น บมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) อีก 0.94% มูลค่า 31.72 ล้านบาท สาเหตุความมั่งคั่งของนายสมโภชน์ที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 หมื่นล้านบาท หรือกว่า 200% ภายในเวลา 1 ปีที่ผ่านมานั้น เพราะความร้อนแรงของหุ้น EA ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันแรกที่เข้าซื้อขายในตลาด MAI โดยปรับขึ้นจากราคาจอง 5.50 บาท ไปอยู่ที่ 6.70 บาท ณ 30 ก.ย. 2556 และราคาพุ่งขึ้นมาถึง 24.20 บาท ณ วันที่ 30 ก.ย.2557 ปรับเพิ่มขึ้นถึง 17.50 บาท หรือ 261% "อนันต์"ร่วงมาอยู่อันดับ5 ปีนี้ อดีตแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 7 ปีซ้อน อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หล่นจากอันดับ 4 ลงมาอยู่อันดับ 5 โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 24,788.62 ล้านบาท ลดลง 952.14 ล้านบาท หรือ 3.70% ได้แก่ หุ้นบมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 22.07% มูลค่า 24,779.45 ล้านบาท และ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล 1.36% มูลค่า 9.16 ล้านบาท ส่วนเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 6 ปีนี้ ขยับขึ้นจากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 24,020.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,396.59 ล้านบาท หรือ 28.98% นอกจากนายนิติ จะเป็นทายาทของอาณาจักรโอสถสภาแล้ว ยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่ ที่มีพอร์ตการถือหุ้นมากถึง 14 บริษัท ซึ่งราคาหุ้นส่วนใหญ่ในพอร์ตได้ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนแทบทั้งสิ้น ด้าน วิชัย ทองแตง เจ้าพ่อเคเบิลยักษ์ใหญ่แบรนด์ CTH ร่วงจากอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้วมาเป็นเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 7 ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 20,294.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165.46 ล้านบาท หรือ 0.82% ได้แก่ BGH สัดส่วน 6.71% มูลค่า 19,235.87 ล้านบาท หุ้น บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น 7.23% มูลค่า 454.59 ล้านบาท หุ้น บมจ.ปุ๋ยเอ็นเอฟซี 8.04% มูลค่า 272 ล้านบาท และหุ้น บมจ.อาร์พีซี 21.40% มูลค่า 332.31 ล้านบาท "หทัย ศิริวิริยะกุล"เศรษฐีหุ้นหน้าใหม่ เศรษฐีหุ้นอันดับ 8 ปีนี้ ตกเป็นของเศรษฐีหุ้นหน้าใหม่อย่าง นางหทัย ศิริวิริยะกุล เจ้าของอาณาจักรน้ำตาลที่มีโรงงานใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลอันดับ 3 ของประเทศ ในชื่อ บมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) โดยถือครองหุ้น KTIS สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 42.82% รวมมูลค่า 18,678.85 ล้านบาท ทั้งนี้ KTIS ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และเริ่มเข้าเทรดเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับขึ้นมายืนที่ 12 บาท เมื่อวันที่ 30 ก.ย.จากราคาจอง 10 บาท ส่งผลให้ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นทันทีที่เข้าตลาด ราคาหุ้นโมโนหาย 63% กด.ร่วงที่ 9 ส่วน พิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ร่วงลงไปจากอันดับ 3 ในปีที่แล้ว มาอยู่อันดับ 9 ในปีนี้ โดยถือครองหุ้นมูลค่า 16,560.72 ล้านบาท ลดลง 9,921.27 ล้านบาท หรือ 37.46% ประกอบด้วย หุ้น บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO) ในสัดส่วน 71.87% มูลค่า 4,205.60 ล้านบาท และ หุ้น JAS 25.84% มูลค่า 12,355.11 ล้านบาท ทั้งนี้ หลังจากที่พิชญ์นำ MONO ซึ่งทำธุรกิจการให้บริการข้อมูลและบริการด้านบันเทิง เข้าจดทะเบียนในตลาด MAI เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2556 ไปแล้วนั้น ราคาหุ้น MONO ได้ปรับลดลงจากราคาจองที่ 11.40 บาท มาอยู่ที่ 4.18 บาท ในวันที่ 30 กันยายน 2557 ลดลง 7.22 บาท หรือ 63.33% ส่วนราคาหุ้น JAS ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน ส่งผลให้ความมั่งคั่งจากมูลค่าหุ้นที่ถือครองลดลงไปจากปีก่อน ปีนี้ เจ้าของอาณาจักร ไมเนอร์ กรุ๊ป วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค หรือที่รู้จักกันในนาม บิล ไฮเนกี้ ร่วงมาอยู่ในอันดับ 10 จากอันดับ 8 เมื่อปีที่แล้ว โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 13,061.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,860.74 ล้านบาท หรือ 16.61% ได้แก่ หุ้น บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล 8.55% มูลค่า 12,660.44 ล้านบาท และหุ้น บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) สัดส่วน 6.61% มูลค่า 400.92 ล้านบาท ลูกสาว"ทักษิณ"อันดับรวยร่วง สำหรับอันดับเศรษฐีหุ้นของสองสาวทายาทอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้ปีนี้อันดับจะลดลงแต่มูลค่าหุ้นที่ถือครองกลับเพิ่มสูงขึ้นจากราคาหุ้น บมจ.เอสซี แอสเซท (SC) ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.90 บาท ณ 30 ก.ย. 2557 โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หล่นจาก 64 มาอยู่อันดับ 82 ถือหุ้น บมจ.เอสซี แอสเซท (SC) 29.11% มูลค่า 4,215.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 545.32 ล้านบาท หรือ 14.86% และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร หล่นจาก 66 มาอยู่อันดับ 84 ถือหุ้น SC 28.17% มูลค่า 4,079.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 527.72 ล้านบาท หรือ 14.86% หลังจากที่ ตระกูลจิราธิวัฒน์ แห่งเซ็นทรัลได้เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ก้าวเข้ามาครองแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยไปเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ จิราธิวัฒน์ ยังรักษาแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยไว้ได้อีกเป็นปีที่ 2 โดยเครือญาติเศรษฐีหุ้นในตระกูล 32 คน ถือครองหุ้น 69,391.88 ล้านบาท มั่งคั่งเพิ่มขึ้น 2,603.99 ล้านบาท หรือ 3.90% Tags : แชมป์เศรษฐีหุ้นไทย • ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ • จิราธิวัฒน์ • กาญจนพาสน์ • ผู้ถือหุ้น • ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ • ทักษิณ ชินวัตร