ริชมั่นใจเพิ่มทุนขายพีพีผ่านฉลุย

"ริช"มั่นใจเพิ่มทุนอาร์โอ-พีพีผ่านฉลุย พร้อมขายหุ้น"ทีเอ็นพี"รับเงินรวม950ล้านบาท ใช้ชำระหนี้กว่า 750 ล้านบาท

นายสมเกียรติ วงศาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริช เอเชีย สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ RICH กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (8-15ธ.ค.) 1,025 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.30 บาท ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมามีผู้ถือหุ้นจองซื้อเข้ามาแล้วกว่า 1,000 ราย เป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท และคาดช่วงวันที่เหลือจะมีผู้ถือหุ้นจองซื้อเข้ามาครบจำนวน

ส่วนการเพิ่มทุนพีพี 348 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.30 บาท นักลงทุนที่ได้รับการจัดสรรทั้ง 4 ราย ยืนยันจะเข้าลงทุนแน่นอน และพร้อมเข้าลงทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมที่ไม่ได้ใช้สิทธิทั้งหมดอีกด้วย บริษัทมั่นใจว่า จะได้รับเงินเพิ่มทุนทั้งหมด 412 ล้านบาท

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา บริษัทได้ขายหุ้นของบริษัท ไทย เนชั่นแนล โปรดักส์ จำกัด หรือ TNP จำนวน 18 ล้านหุ้น หรือ 66.42% จากที่ถืออยู่ทั้งหมด 26 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 30 บาท ซึ่งบริษัทได้รับเงินทั้งสิ้น 540 ล้านบาท ครบถ้วนแล้ว

"เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนและขายหุ้น ในครั้งนี้รวม 950 ล้านบาท จะนำไปชำระหนี้สถาบันการเงิน 750 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้หนี้สินของบริษัทลดลงเหลือ 600 ล้านบาท จะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลง 80 ล้านบาทต่อปี จากปกติอยู่ที่ปีละ 100 ล้านบาท และจะทำให้บริษัทมีหนี้สินต่อทุนลดลงเหลือ 3 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 22 เท่า" นายสมเกียรติ กล่าว

บริษัทเตรียมบันทึกกำไรพิเศษในไตรมาส 4 นี้ จากการขายหุ้นของบริษัท ทีเอ็นพี ได้กำไร 100 ล้านบาท และได้กำไรพิเศษจากการชำระหนี้ตามสัญญา ซึ่งจะมีการยกหนี้ส่วนที่เหลือประมาณ 350 ล้านบาท ทำให้ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้อาจจะพลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิได้

ขณะที่ปีหน้า บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 5,000-6,000 ล้านบาท เติบโตเท่าตัวจากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เพราะปีหน้าจะลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐออกมาเป็นจำนวนมาก และจะช่วยให้ธุรกิจเหล็กฟื้นตัวอย่างรวดเร็วได้ในช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า และที่สำคัญบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรรายใหญ่จากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนบริษัทในด้านของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะนำเข้ามาจำหน่าย

"บริษัทเชื่อว่าหากการเจรจากับพันธมิตรรายใหม่เป็นไปตามที่คาดไว้ จะทำให้ปีหน้าบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานปกติได้แน่นอน ซึ่งพันธมิตรรายใหม่จะเข้ามาสนับสนุนด้านวัตถุดิบที่ถูกลง และให้บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวของผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มนำเข้ามาได้ตั้งแต่ต้นปี" นายสมเกียรติ กล่าว

ด้านนายวิชัย วชิรพงศ์ นักลงทุนรายใหญ่ กล่าวว่า การเข้ามาเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงในครั้งนี้ ตั้งใจที่จะเข้ามาลงทุนระยะยาว และต้องการที่จะช่วยให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตยิ่งขึ้น การเพิ่มทุนและปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทครั้งนี้ เป็นการปรับปรุงทั้งโครงสร้าง ทำให้บริษัทมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

"การเข้ามาลงทุนครั้งนี้คาดว่าส่วนตัวน่าจะช่วยเหลือบริษัทได้บ้าง ในแง่ของคอนเนคชั่นกับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งจำเป็นต้องใช้เหล็กเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง และการเข้ามาลงทุนครั้งนี้ตั้งใจที่จะเข้ามาทำธุรกิจอย่างจริงจัง" นายวิชัย กล่าว

การเพิ่มทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีส่วนต่ำมูลค่าหุ้น เนื่องจากเป็นการเพิ่มทุนที่ 0.30 บาท ต่ำกว่าราคาพาร์ที่ 1 บาท และในปัจจุบันบริษัทมีขาดทุนสะสมอยู่ 1,338 ล้านบาท บริษัทอาจจะมีการเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ขอลดทุนจดทะเบียนเพื่อนำมาล้างขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้น แต่บริษัทอาจจะไม่ได้ลดทุนให้เท่ากับขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นทั้งหมด เพราะบริษัทมองว่ายังสามารถล้างส่วนนี้ได้ด้วยวิธีอื่น

Tags : สมเกียรติ วงศาโรจน์ • ริช เอเชีย สตีล • หุ้นพีพี • เสี่ยยักษ์