รีวิว Xiaomi Mi 11 จัดเต็มทั้งสเปก กล้อง จอ และลำโพง แต่ยังไม่มีอะไรใหม่ให้ว้าวมากนัก

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 15 มีนาคม 2021.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    หลังจากที่ผู้เขียนรีวิว Xiaomi Mi 10T Pro ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และตกใจกับประสิทธิภาพและกล้องที่ดีเกินคาดพอสมควร คราวนี้ Xiaomi เพิ่งเปิดราคา Mi 11 ในไทยไปเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ในระดับราคา 21,990 บาท ที่แม้จะถูกกว่าสมัยเปิดตัว Mi 10 ที่ราคา 27,999 บาท แต่ก็แพงกว่า Mi 10T Pro ที่มีราคา 13,990 บาท

    [​IMG]

    เทียบความแตกต่าง M11 และ Mi 10T Pro

    เมื่อเทียบกันแล้ว แม้สเปกบนกระดาษของ Mi 11 จะเหนือกว่า Mi 10T Pro ในด้านชิปที่อัพเกรดเป็น Snapdragon 888 หน้าจอที่เปลี่ยนจาก LCD 24-bit รีเฟรชเรต 144Hz ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล มาเป็น AMOLED 10-bit รีเฟรชเรต 120Hz ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล

    กล้องหลังหลักมีจำนวนพิกเซลเท่ากัน Mi 10T Pro แต่ Mi 11 มีรูรับแสงกว้างขึ้น จาก f/1.9 เป็น f/1.7 ทำให้เก็บแสงในที่มืดได้มากขึ้น ซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพและแต่งวิดีโอมีการเพิ่มฟีเจอร์เข้ามา แต่สเปกอื่นๆ และการใช้งานจริง ก็อาจจะไม่ต่างกันมากนัก ทำให้ Mi 10T Pro ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่

    แม้จะมีข้อได้เปรียบที่ลดลงเมื่อถูกเปรียบเทียบ และไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ให้ตื่นเต้นนัก แต่ถ้านับตัวมันเองแล้ว Xiaomi Mi 11 ก็ยังเป็นโทรศัพท์ที่ครบครันทั้งสเปกภายในและกล้อง ตามสไตล์ Xiaomi โดยวันนี้ผู้เขียนจะมารีวิวเครื่อง Mi 11 รุ่นสี Horizon Blue หน่วยความจำ 8GB+128GB ให้ผู้อ่านได้เห็นในภาพรวม

    [​IMG]

    แกะกล่อง

    Mi 11 ยังแถมที่ชาร์จแบบชาร์จเร็ว 55W วัสดุ GaN มาให้ในกล่อง ซึ่งมีกำลังไฟมากพอชาร์จโน้ตบุ๊กที่รองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ทำให้ลดการพกพาที่ชาร์จซ้ำซ้อนได้ เป็นอีกประโยชน์ทางอ้อม นอกจากนี้ก็มีซิลิโคนเคส เข็มจิ้มถาดซิม และคู่มือในกล่องตามปกติ

    [​IMG]

    หน้าจอและตัวเครื่องภายนอก

    หน้าจอ Mi11 เป็นจอ AMOLED พาแนลแบบ 10-bit ขนาด 6.81 นิ้วความละเอียด WQHD+ รีเฟรชเรต 120Hz ครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass Victus ที่กันรอยขีดข่วนมากกว่า Gorilla Glass 6 และทนแรงกระแทกจากการตกได้กว่า 2 เมตร นอกจากนี้ยังมีค่ารีเฟรชการสัมผัสถึง 480Hz น่าจะตอบสนองทันใจคนที่เล่นเกมยิงหรือแนวแอ็กชั่นบนมือถือได้สบายๆ

    [​IMG]

    ฝาหลังตามข้อมูลจาก Corning เป็น Gorilla Glass 5 ที่แข็งแกร่งน้อยกว่า Victus แอบเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้ Victus ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่ถ้าใส่มา ราคาก็คงจะแพงกว่านี้ไปอีก ซึ่ง Gorilla Glass 5 ก็ทนทานพอใช้ และสี Horizon Blue ก็ค่อนข้างสวย แม้จะดึงดูดรอยนิ้วมือนิดหน่อย แต่เมื่อใส่ซิลิโคนเคส ก็หมดปัญหานี้ไป

    [​IMG][​IMG]

    Xiaomi Mi 11 ใช้การปลดล็อกด้วยการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มพาวเวอร์ด้านขวามือ มีลำโพงแบบคู่ที่จูนโดย Harman/Kardon ซึ่งก็ให้เสียงที่ดังพอใช้ และไม่แตกจนเกินไป แม้เสียงเบสจะไม่แน่นนัก ตัวเครื่องหนา 8.1 มิลลเมตร น้ำหนัก 196 กรัม บางและเบาลงกว่า Mi 10T Pro ที่หนา 9.3 มิลลิเมตร และหนัก 218 กรัมเล็กน้อย ปุ่มทั้งพาวเวอร์และโวลุ่มจะอยู่ด้านขวาทั้งหมด ส่วนด้านซ้ายไม่มีปุ่มใดๆ

    [​IMG][​IMG]

    UI และประสิทธิภาพโดยรวม

    Mi 11 รัน MIUI12 (และจะได้อัพเดตเป็น 12.5 เร็วๆนี้) ดีไซน์สะอาดสะอ้านมากกว่า UI ยุคแรกๆ ของ Xiaomi พอสมควร และเท่าที่ใช้งาน รู้สึกว่ามีโฆษณากวนใจน้อยลง แอปขยะน้อยลง และสามารถปิดเปิดได้

    [​IMG]

    ชิป Snapdragon 888 ให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีน่าพอใจ ผนวกมากับแรม LPDDR5 ขนาด 8GB และจีพียู Adreno 660 ที่เล่น Genshin Impact ตั้งค่าเริ่มต้นได้อย่างลื่นๆ (ดูระดับกราฟฟิกได้ในภาพด้านล่าง) ไม่มีอาการเฟรมตก แต่หลังผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง รู้สึกได้ว่าตัวเครื่องร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด น่าจะเป็นเพราะแกนประสิทธิภาพสูง Cortex-X1 ที่ใส่เพิ่มเข้ามา

    [​IMG][​IMG]

    แต่น่าแปลกใจที่คะแนนการทดสอบใน Geekbench ไม่ได้สูงขึ้นมากนัก แถมยังแพ้ OnePlus 8 ในบางรายการ ไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะฮาร์ดแวร์ เฟิร์มแวร์ของ Xiaomi หรือเวอร์ชั่นของ Geekbench ที่ยังไม่ได้ปรับแต่งมาให้วัดประสิทธิภาพของ Snapdragon 888 ได้ดีนัก

    [​IMG]

    ส่วนการเชื่อมต่อก็รองรับเทคโนโลยีล่าสุดทั้งหมด ทั้ง 5G แบนด์ 1/ 3/ 28/ 41/ 77/ 78/ 79 รองรับ WiFi 6, Bluetooth 5.2 มี NFC และมีตัวยิง IR ไว้ใช้แอปรีโมตได้

    กล้อง และตัวอย่างภาพถ่าย

    กล้องหน้าแบบเจาะรู 20MP f/2.4 กล้องหลังหลักความละเอียด 108MP f/1.85 ใช้เทคโนโลยีรวม 4 พิกเซลเป็น 1 (4-in-1 Super Pixel) มีกล้องอัลตร้าไวด์ 13MP f/2.4 และเลนส์ telemacro 5MP มีคุณภาพตามสไตล์ Xiaomi เหมือนเคย ถ่ายภาพกลางคืนได้พอใช้ มีข้อดีเล็ก ๆ คือค่าเริ่มต้นของกล้องหน้าที่ปิด Beauty Mode ให้ภาพถ่ายค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ไม่แต่งเนียนจนเวอร์เกินไป

    [​IMG]

    [​IMG]ตัวอย่างภาพวิวจากกล้องหลัก
    [​IMG]ตัวอย่างภาพวิวเดียวกันจากกล้องอัลตร้าไวด์
    [​IMG]ตัวอย่างภาพภายในอาคาร จากกล้องหลัก
    [​IMG]ตัวอย่างภาพถ่ายภายนอก จากกล้องหลัก
    [​IMG]ตัวอย่างภาพถ่าย Night Mode จากกล้องหลัก
    [​IMG]ตัวอย่างภาพถ่าย Night Mode จากกล้องอัลตร้าไวด์
    [​IMG]ตัวอย่างภาพ Selfie จากกล้องหน้า

    สรุป

    Xiaomi Mi 11 เป็นโทรศัพท์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งหน้าจอคุณภาพสูง ชิปทั้งซีพียูและจีพียูรุ่นล่าสุด แรม LPDDR5 หน่วยความจำภายใน UFS 3.1 และกล้องที่ใส่มาให้แบบเต็มสูบ รวมถึงรองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อล่าสุดทุกชนิด แต่นอกจากการอัพเดต SoC ตามเทคโนโลยีทั่วไปแล้ว Mi 11 ก็ไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงจากมือถือรุ่นปีมากนัก

    ราคาที่อยู่ในระดับ 21,990 บาท เมื่อเทียบกับ Xiaomi Mi 10T Pro ที่ประสิทธิภาพอาจจะด้อยกว่ากันเพียงเล็กน้อย แทบไม่รู้สึกในการใช้งานจริง และคุณภาพกล้องที่ใกล้เคียงกัน ในราคา 13,990 อาจทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อมือถือ Xiaomi รุ่นปีก่อนมากกว่า

    นอกจากนี้ ในปีนี้เราอาจได้เห็นมือถือรุ่นอื่นๆ ที่ใช้ชิป Snapdragon 888 และรองรับ 5G ในราคาต่ำกว่า เช่น Realme GT ที่ราคาเริ่ม 2,799 หยวน (ราว 13,200 บาท) หรือ Redmi K40 จาก Xiaomi เอง ที่ราคาเริ่มต้นราว 2,999 หยวน (ราว 14,000 บาท) เท่านั้น

    แม้รุ่นอื่นๆ ที่ใช้ชิป Snapdragon 888 อาจมีคุณสมบัติเช่นกล้องหรือจอที่ด้อยกว่า แต่ก็ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกมากขึ้น เลือกประหยัดในส่วนที่อาจจะไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้นั้นๆ และทำให้ข้อได้เปรียบด้านราคาของ Mi 11 ลดลงไปพอสมควร

    [​IMG]

    Topics: ReviewXiaomiMi 11Mobile
     

แบ่งปันหน้านี้