อารอง ทำใจแม่ทุมหมดทางรักษา ปาฏิหาริย์ริบหรี่

หัวข้อกระทู้ ใน 'แวดวงบันเทิง' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 11 ธันวาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    [​IMG]

    'อารอง เค้ามูลคดี' ทำใจ แม่ทุม หมดทางรักษาอวัยวะพังหมดหวัง-มีปาฏิหาริย์รอด 30%


    เรียกว่าดูแลกันอยู่ไม่ห่างสำหรับ "พ่อรอง เค้ามูลคดี" ที่คอยเฝ้ารักษาอาการป่วยของ แม่ทุม ที่เป็นคู่ชีวิตของ พ่อรอง งานนี้เจอตัวพ่อรอง ที่มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวละครเพลง ไกลกังวล ณ โรงแรมเดอะสุโกศล โดย พ่อรอง กล่าวว่า "ตลอดระยะเวลาที่สองปี เรามีความหวังมาตลอด แต่ตอนนี้ความหวังมันเริ่มหลุดลอย โอกาสคงจะไม่มีแล้วแหละ แต่เราก็ยังหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ให้เค้ารอดชีวิตได้ หมอบอกว่า ตอนนี้อาการก็เข้าขั้นระยะสุดท้ายแล้วแหละ ก็รักษาไปตามอาการ เพราะว่ายารักษาโดยตรง มันไม่มีแต่เค้าก็แข็งแรงเพียงแค่ไม่รับรู้เท่านั้นแหละ คือ เค้าติดเชื้อบ่อย หมอกลัวว่าจะติดเชื้อเข้ากระแสเลือด แต่บังเอิญว่าเคยเป็นมาแล้วครั้งหนึ่ง และทางโรงพยาบาล ก็ให้ยาบล็อคหาย แต่พอมารอบนี้กลับมาเป็นอีก และมันก็แรงขึ้น แรงขึ้น ไม่รู้ว่าจะขนาดไหน และเราก็ไม่รู้ว่ายาจะเอาอยู่มั้ย ตอนนี้คือทุกคนเป๋กันไปหมด กับยุ้ยคือต้องบอกว่าลูกทุกคนเข้มแข็งเหมือนแม่เค้า พร้อมที่จะสู้และทำทุกอย่างไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็มีแต่พ่อคนเดียวที่ป้อแป้คือต้องยอมรับว่าทำใจไม่ได้จริง ๆ สำหรับอวัยวะของแม่ทุมก็เริ่มไปบ้างแล้วครับ แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะไปตอนไหน ตอนนี้ท่อนขาล่าง ท่อนแขนมันบล็อค สมองไปแล้ว ไม่ต้องเดาว่าหลังจากนี้จะไปลงตรงไหน ถ้าพุ่งลงไปตรงนั้นคือจบ แต่มันก็ยังไม่มาเต็มที่ ยังถือว่าเฉียดไปเฉียดมาถือว่าเค้ายังมีบุญพอสมควร เวลานี้เปอร์เซ็นต์รอดคงไม่ถึง 30 แต่ว่าไม่เตรียมใจล่วงหน้าเลย คือเราคิดอยู่ตลอดว่าเค้าจะรอด ไว้มีอะไรเกิดขึ้นเราค่อยไปว่าตรงนั้น แต่ไม่ได้เตรียมใจใด ๆ ทั้งสิ้น ก็รอปาฏิหาริย์ไปหาเค้าที่โรงพยาบาล ก็หอมแก้มแล้วกระซิบข้างหูบอกเค้าว่าแม่ต้องรอดนะ ลูกกำลังสู้พร้อมกับแม่ ๆ ต้องอยู่รอด ถ้าแม่ไม่อยู่พ่อก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ยังไง ตอนนี้แม่เค้าก็ไม่รับรู้อะไรแล้ว แต่เราก็คิดว่ายังมีความหวัง แต่เพื่อน ๆ ที่เป็นหมอบอกว่าหมดหวังแล้ว ใครที่ป่วยเป็นโรคนี้ ตอนนี้ก็รักษาไปตามอาการ ให้ระวังเรื่องการติดเชื้อคือถ้าติดขึ้นมาจะยุ่ง แล้วถ้าเข้ากระแสเลือดก็คือจบ แต่ตอนนี้มันไปติดที่ปอดก็ยังพอทำเนา เรียกว่าดูอาการกันวันต่อวันเลย ทางด้านคุณหมอก็ถือว่าสุดความสามารถแล้ว ก็ต้องกราบขอบพระคุณท่านด้วย เรื่องให้กำลังใจตัวเองก็พยายามอยู่กับคนเยอะ ๆ เพราะถ้าอยู่คนเดียวมันก็เครียด คิดโน่น คิดนี่ไปเรื่อย เราก็คิดว่าเค้าต้องรอดแค่นี้ แรก ๆ ก็ท้อนะ แต่ตอนนี้ท้อไม่ได้ ถ้าเราท้อทุกคนก็จบ เราเลยจับมือสู้กับลูกจะบอกว่าไม่ร้องไห้เลยเป็นไปไม่ได้ มีบางครั้งนอน ๆ อยู่น้ำตาก็ไหล สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายไม่พูดและไม่คิด ลูกถามว่าดูค่าใช้จ่ายเราบอกว่าไม่ดู ลูกหามาได้เท่าไร เราหามาได้เท่าไร เอาวางไว้เป็นกองกลางไว้รักษาแม่ หมดก็หมดไปเอาให้แม่รอดอย่างเดียว ซึ่งเรื่องนี้คงต้องถามฝ่ายบัญชีเพราะว่าไม่ได้นับ เรียกว่าตอนนี้ก็ทำงานหนัก ยิ่งแม่เจ็บเรายิ่งต้องทำงานหนัก รับละครสี่ห้าเรื่องวิ่งกันหัวหมุนเลย พอว่างก็วิ่งเข้าโรงพยาบาล เดี๋ยวนี้นอนวันละสามชั่วโมง มีบางครั้งก็สะดุ้งตื่นเพราะเหมือนได้ยินเสียงแม่เค้าเรียก แต่พอไม่มีอะไรก็นอนแต่กว่าจะหลับได้ก็นานเหมือนกัน ทุกคนตอนนี้แทบไม่ค่อยห่วงแม่แล้ว แต่จะห่วงพ่อมากกว่าเพราะเค้ารู้ว่าพ่อเริ่มเครียด เค้าก็ห่วง"
     

แบ่งปันหน้านี้