ตลาดหุ้นลาวเริ่มคึกคัก คาดมีไอพีโอปีหน้าอย่างน้อย 2 บริษัท หวังมีหุ้นครบ 100 หลักทรัพย์ ในปี 2563 เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2557 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเมนท์ จำกัด ได้จัดงานสัมมนา ทิศทางตลาด LSX และหุ้น ไอพีโอ ใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายเดดพูวัง มูลรัตน์ ประธานคณะกรรมการและหัวหน้าใหญ่ผู้บริหาร ตลาดหลักทรัพย์ลาว เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นลาวมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีบริษัทที่ทำการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสิ้น 3 บริษัท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) มากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ มีมูลค่าการซื้อขายระดับ 18 ล้านบาทต่อวัน ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นลาวช่วงที่ผ่านมา พบว่าผู้ลงทุนส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบัน นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมจากนักลงทุนไทยและนักลงทุนจีนเข้าไปลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอนาคตเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะช่วยสร้างความสนใจให้กับตลาดหุ้นลาวมากขึ้น โดยประเทศลาวมีรัฐวิสาหกิจมากกว่า 100 บริษัท และมีกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและบริษัทขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการเติบโตที่จะเขาจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ลาวตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2563 จะต้องมีบริษัทจดทะเบียนมากกว่า 100 บริษัท มูลค่าการซื้อขายต่อวัน มากกว่า 180 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตระดับดังกล่าวจะช่วยให้นักลงทุนสนใจลงทุนในตลาดหุ้นลาวมากขึ้น สำหรับเป้าหมายผลการดำเนินงานในปี 2558 ของตลาดหลักทรัพย์ลาวคาดว่าจะมีบริษัทเข้าทำการจดทะเบียนเพิ่มเติมอย่างน้อย 2 บริษัท และระหว่างการปรับปรุงกฎเกณฑ์การจดทะเบียน 2 ตลาด หรือดูโอ ลิสติ้ง โดยคาดว่าน่าจะสามารถทำกฎเกณฑ์ดังกล่าวได้แล้วเสร็จในปีหน้า และคาดว่าจะสามารถทำดูโอ ลิสติ้งกับตลาดหุ้นไทยได้ 1 บริษัท นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ไทยได้ร่วมมือการทำงานกับตลาดหลักทรัพย์ลาวมาตั้งแต่ปี 2552 ตั้งแต่ช่วงเริ่มก่อตั้ง โดยเป็นการทำงานในลักษณะการให้ความรู้กับในด้านการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ โดยปัจจุบันตลาดหุ้นลาวได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยเพิ่มขึ้น เห็นได้จากหุ้นไอพีโอของตลาดหุ้นลาวที่นักลงทุนไทยสนใจเข้าไปซื้อหุ้นมากกว่าครึ่งของหุ้นทั้งหมด ในอนาคตตลาดหุ้นไทยจะมีการเปิดกฎเกณฑ์จดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ไทยเป็นแห่งที่ 2 (ดูโอ ลิสติ้ง) ได้ จะช่วยให้ตลาดหุ้นไทยมีสินค้าในกลุ่มตลาดหุ้นลุ่มน้ำโขงเข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นผลดีกับตลาดหุ้นลาวที่จะมีมูลค่าการซื้อขายจากตลาดหุ้นไทย ไปยังตลาดหุ้นลาว ให้มีมูลค่าการซื้อขายคึกคักตามไปด้วย นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า สำหรับหลักเกณฑ์ดูโอลิสติ้ง ของประเทศไทยนั้น อยู่ระหว่างการปรับหลักทรัพย์ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น เพราะในอดีตมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก อาทิ หลักเกณฑ์เดิมกำหนดให้บริษัทที่จะเข้าทำการซื้อขายแบบดูโอ ลิสติ้ง ได้ จะต้องมีขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) อยู่ใน 25 อันดับแรกของตลาดหลักทรัพย์ในแต่ละประเทศ ซึ่งกฎเกณฑ์ดังกล่าวถือว่าเป็นข้อจำกัดที่จะทำให้บริษัทเข้าจดทะเบียน จึงต้องมีการแก้ไขในอีกหลายส่วนที่เป็นอุปสรรคสำคัญ ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ได้ส่งการแก้ไขกฎเกณฑ์ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มาระยะหนึ่งแล้ว โดยก.ล.ต.คาดน่าจะสามารถเริ่มใช้กฎเกณฑ์ดังกล่าวได้ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 ทั้งนี้เชื่อว่าหุ้นที่จะเข้าทำการซื้อขายผ่านกฎเกณฑ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นในปีหน้า นาย สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าไปตั้งบริษัทลูกเพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศลาว โดยเห็นโอกาสของตลาดหุ้นลาวที่ยังมีบริษัทเข้าจดทะเบียนเพียง 3 บริษัท ทำให้ในอนาคตมีโอกาสในการระดมทุนอย่างมาก ซึ่งตลาดหุ้นลาวในปัจจุบันมีระดับราคาปิดกำไรต่อหุ้น 9 - 10 เท่า ในอัตราเงินปันผลที่ระดับ 8-10 %อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 บริษัทจะนำหุ้นเข้าทำการจดทะเบียนในตลาดหุ้นลาวอย่างน้อย 2 บริษัท และจะผลักดันให้มีดูโอ ลิสติ้ง ระหว่างตลาดหุ้นไทยกับตลาดหุ้นลาวให้เกิดขึ้นได้ 1 บริษัท Tags : ตลาดหุ้นลาว • ตลาดหุ้นไทย • เดดพูวัง มูลรัตน์ • เกศรา มัญชุศรี