ไฟแนนซ์เข้มสินเชื่อรถ สัดส่วนผู้ไม่ผ่านอนุมัติเฉลี่ย 20-40% สูงกว่าเกณฑ์เท่าตัว เชื่ออนาคตผ่อนคลาย ค่ายรถเชื่อกำลังซื้อฟื้นตัว แต่หวั่นไฟแนนซ์เข้มงวดฉุดตลาด เผยผลกระทบโครงการรถคันแรก หนี้ครัวเรือนพุ่ง ดันสถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวด สัดส่วนผู้ไม่ผ่านอนุมัติเฉลี่ย 20-40% สูงกว่าเกณฑ์เท่าตัว เชื่ออนาคตผ่อนคลาย เหตุสินเชื่อรถยนต์เป็นรายได้หลัก ผลตอบแทนสูงและรวดเร็ว ด้านลีสซิ่งแจง"ยอดปฏิเสธ"เพิ่มเล็กน้อยแฉโชว์รูมพูดไม่หมด ตุกติกแอบออกเงินดาวน์แทนลูกค้า นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์เริ่มมีสัญญาณที่ดีว่ากำลังซื้อกำลังกลับคืนมา หลังจากพบว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น สถานการณ์ทางการเมืองนิ่ง และรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทั้งช่วงเวลาปลายปี ผู้บริโภคจะรู้ถึงทิศทางของรายได้ที่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการปรับอัตราเงินเดือน เงินตอบแทนพิเศษประจำปี หรือ โบนัส รวมถึงความมั่นคงของงาน ทำให้เริ่มมีความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมถึงการซื้อรถยนต์ ที่ได้แรงเสริมจากการที่ค่ายรถต่างๆ เปิดตัวรถใหม่จำนวนมาก ในหลายๆตลาด พร้อมกับข้อเสนอพิเศษผ่านแคมเปญที่ยังคงความร้อนแรง ไฟแนนซ์เข้มฉุดยอดรถยนต์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทิศทางของกำลังซื้อจะปรับตัวดีขึ้น แต่อุปสรรคที่สำคัญต่อตลาดก็คือ ความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อซึ่งมีมาตั้งแต่ปี2556 และยังมีผลถึงปัจจุบัน “ปี 2557 พบว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นมาก เป็นเหตุให้ไฟแนนซ์ เพิ่มความเข้มงวดเพื่อป้องกันหนี้เสียซึ่งเป็นความเสี่ยง บางแห่งมีสัดส่วนลูกค้าที่ไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อถึง 40% ซึ่งถือว่าสูงกว่าเกณฑ์มากดังนั้นเห็นว่าสถานการณ์ปัจจุบันที่ดีขึ้น สถาบันการเงินก็ควรจะผ่อนคลายความเข้มงวด ซึ่งเชื่อว่าหากผ่อนคลายเมื่อไร ตลาดรถยนต์จะปรับตัวดีขึ้นทันที" นายวัลลภระบุ คุมปล่อยสินเชื่อ อีโค คาร์ นายประพัฒน์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์นิสสัน กล่าวว่า ในภาวะปกติสัดส่วนผู้ที่ไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อในตลาดรถยนต์จะอยู่ในระดับประมาณ 10% แต่ในช่วงที่ผ่านมาพบว่าพบสูงขึ้นเฉลี่ย 20-30% ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูง และมีผลกระทบกับตลาดมาก แม้ผู้บริโภคอยากซื้อรถ แต่ซื้อไม่ได้ ในขณะที่สัดส่วนการซื้อขายรถยนต์ในตลาดปัจจุบัน เป็นการซื้อระบบผ่อนชำระมากกว่าซื้อเงินสด “บางไฟแนนซ์ อาจจะรีเจคท์ 20% บางแห่งก็สูงถึง 40% เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 20-30% ทั้งนี้ในปัจจุบันลูกค้ากลุ่มตลาดกลางถึงบนยังมีกำลังซื้ออยู่ แต่ มีปัจจัยด้านการเงิน รวมกับปัจจัยอื่นๆ เข้ามาทำให้ตลาดชะลอตัวลง” นายประพัฒน์กล่าวและว่า ความเข้มงวดของไฟแนนซ์ในตลาดมีลักษณะ แตกต่างกันไป เช่น กลุ่มรถอีโค คาร์ หรือว่ารถคันแรก สถาบันการเงินจะเข้มงวดมากกว่า รถในตลาดระดับกลาง ขณะที่นายองอาจ พงษ์กิจวรสิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความเข้มงวดของสถาบันการเงินยังอยู่ในระดับสูง หากว่ายังไม่มีการผ่อนคลายเงื่อนไข จะเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของตลาดรถยนต์ ที่แม้จะคาดการณ์ว่าตลาดจะกลับมาฟื้นตัว แต่อาจจะไม่สูงมากนัก เชื่อผ่อนคลายเหตุแหล่งรายได้หลัก ด้านแหล่งข่าวจากวงการตลาดรถยนต์ กล่าวว่า ในอนาคตเชื่อว่าสถาบันการเงินจะต้องผ่อนคลายเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อลง หลังจากเห็นว่าปัจจัยลบต่างๆ คลี่คลาย และสามารถจัดการกับปัญหาหนี้เสียได้เรียบร้อย เนื่องจากรายได้สินเชื่อจากรถยนต์ เป็นรายได้หลักของธุรกิจกลุ่มนี้ หากไม่ปล่อยสินเชื่อหรือปล่อยน้อย โอกาสในการทำกำไรก็ลดลงไปด้วย อีกทั้งสินเชื่อรถยนต์นั้นเป็นแหล่งสร้างรายได้และกำไรที่ดีมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นสินเชื่อระยะสั้นสำหรับสินค้ามูลค่าสูง มีเงินหมุนเวียนเร็ว ทำผลกำไรได้เร็ว ต่างจากสินเชื่อในสินค้ามูลค่าสูงอื่นๆ ที่พักอาศัย ซึ่งเป็นสินเชื่อระยะยาว ใช้เวลานับสิบปี ลีสซิ่งแจงยอดปฏิเสธเพิ่มแค่เล็กน้อย นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์รายใหญ่ เปิดเผยว่า การปฏิเสธสินเชื่อยังคงเพิ่มสูงขึ้นเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้รายได้ของลูกค้าลดลง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปีที่ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำยิ่งกดดันกำลังซื้อของลูกหนี้ที่มาจากภาคการเกษตร ส่วนลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มพนักงานประจำยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ยอมรับว่าเมื่อภาพรวมเศรษฐกิจชะลอ ความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อก็ลดลงไปด้วย เพราะลูกค้าระวังการซื้อรถซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิต “เราไม่ได้เปลี่ยนเกณฑ์การให้สินเชื่อ แต่รายได้ของลูกค้าลดลง ยกเว้น แต่ลูกค้าบางกลุ่ม เช่นข้าราชการที่ยอดการปฏิเสธก็ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น แต่ความต้องการก็ชะลอไปบ้าง แม้ในช่วงปลายปีมีโบนัสเข้ามาและถูกกระตุ้นจากเคมเปญในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปที่จัดขึ้นในช่วงนี้ก็ตาม” ส่วนการแข่งขันจากแคปทีฟไฟแนนซ์ ทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้แย่งส่วนแบ่งตลาดไปมากนัก เพราะสถาบันการเงินเองก็ต้องออกแคมเปญออกมาแข่งเช่นกัน ในแง่ของคุณภาพสินเชื่อนั้นหากเป็นสินเชื่อที่ปล่อยใหม่ในช่วงที่ผ่านมายังอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากธนาคารได้มีการปรับเกณฑ์การให้สินเชื่อเล็กน้อยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยพิจารณาข้อมูลลูกค้าเพิ่มมากขึ้น นายรุ่งโรจน์ จรัสวิจิตรกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยอดปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น คืออยู่ในอัตรา 75%ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ธนาคารมียอดอนุมัติสินเชื่อ 80% ส่วนยอดปฏิเสธสินเชื่อทันทีอยู่ที่ 6% ส่วนที่เหลืออีก19%ธนาคารจะยื่นเงื่อนไขให้ลูกค้าปรับลดค่า งวดลงด้วยการเพิ่มเงินดาวน์หรือยืดระยะเวลาการผ่อนให้ยาวขึ้น หากลูกค้าทำได้ธนาคารก็สามารถอนุมัติ แต่หากไม่ได้ธนาคารก็ต้องปฏิเสธสินเชื่อ ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าที่ถูกกำหนดเงื่อนไขเพิ่มกว่า 50% จะสามารถปฏิบัติตามได้และได้รับการอนุมัติสินเชื่อในที่สุด จะเห็นว่าการปฏิเสธสินเชื่อเป็นผลมาจากคุณสมบัติผู้กู้ อ่อนลงกว่าในอดีตค่อนข้างมาก โดยกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อรถ ต่างก็ซื้อไปแล้วใน ปี2555-2556 แต่แรงซื้อที่เข้ามาในขณะนี้เป็นผลจากแรงกระตุ้นการตลาดของดีลเลอร์ที่จูงใจผู้ซื้อ โดยเฉพาะโชว์รูมบางแห่งที่เสนอออกเงินดาวน์แทนลูกค้า ด้วยงบการตลาดที่ได้รับมา เช่น 10% ของราคารถ ซึ่งธนาคารจะมองว่า ลูกค้าที่ไม่ได้ออกเงินดาวน์เองจะไม่มีความหวงแหนและอาจเกิดการทิ้งรถในภายหลังได้ส่งผลให้เกิดหนี้เสียตามมา เมื่อธนาคารพบ โชว์รูมที่เข้าข่าย ออกเงินดาวน์ให้ก็จะให้ลูกค้าเพิ่มเงินดาวน์ในส่วนของตัวเองอีก10% นอกจากนี้ธนาคารมีหลักเกณฑ์ว่า ค่างวดของลูกค้าไม่ควรเกิน 50%ของรายได้ หากพบว่าค่างวดสูงเกิน50% ของรายได้ หรือลูกค้าบางรายที่เราตรวจพบจากเครดิตบูโรว่ามีภาระหนี้กับแบงก์อื่นอยู่แล้ว แม้จะประวัติดี แต่เมื่อรวมหนี้ใหม่แล้วเกิน50% ก็ไม่สามารถอนุมัติได้ในครั้งแรก แต่ธนาคารจะพยายามประนีประนอมด้วยการหาทางลดค่างวดให้ลูกค้าด้วยการขอให้ลูกค้าลดยอดกู้หรือเพิ่มเงินดาวน์ ซึ่งก็จะเป็นการช่วยให้โชว์รูมขายรถได้ด้วย “จริงๆ แล้วยอดปฏิเสธสินเชื่อแทบไม่ต่างกัน แต่โชว์รูมรู้สึกว่าเราให้ยากขึ้น เพราะเรากำหนดเงื่อนไขมากขึ้นเท่านั้นเรื่องเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริงที่ดีลเลอร์พูดไม่หมด และว่าเราปฏิเสธสินเชื่อมากขึ้น เพราะเอาไปเทียบกับปี 55-56 ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมานั้นลูกค้ามีกำลังซื้อจริง แต่ตอนนี้ลูกค้าเข้ามาเพราะแคมเปญ”นายรุ่งโรจน์ กล่าว นายรุ่งโรจน์ยังกล่าวอีกว่าช่วงเดือนธ.ค.ถือเป็นช่วงไฮซีซันของตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะค่ายรถที่มีรถรุ่นใหม่เปิดตัว โดยในช่วง 3-4 วันแรกของเดือนมียอดสินเชื่อเพิ่มขึ้น20% จากช่วงเดียวกันของเดือนพ.ย. เนื่องจากลูกค้าส่วนหนึ่งชะลอการซื้อในเดือนพ.ย.เพื่อรอแคมเปญในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป โดยในช่วง 11 เดือนยอดขายรถเฉลี่ยเดือนละ 7 หมื่นคัน ซึ่งหากรวมแรงซื้อในเดือนสุดท้ายนี้ ประเมินว่ายอดขายรถทั้งปีอยู่ที่ 8.6 แสนคัน ส่วนปี2558 คาดว่าจะมียอดขายรถใหม่ 9 แสนคันหรือเพิ่มขึ้น 4 หมื่นคันจากปีนี้ Tags : นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม • ไฟแนนซ์ • ซูซูกิ มอเตอร์ • รถยนต์