คนทำเว็บหลายคนคงคุ้นเคยกับระบบโฆษณาบนเว็บกันดี เจ้าของแพลตฟอร์มโฆษณาแบบนี้ที่ใหญ่ที่สุดก็เห็นจะหนีไม่พ้น Google ที่ทำรายได้จากธุรกิจโฆษณามหาศาลหลักพันล้านต่อไตรมาส ล่าสุดเจ้าพ่อโฆษณารายนี้ได้เผยผลการศึกษาเชิงสถิติที่น่าประหลาดใจว่า โฆษณามากกว่าครึ่งที่มีคนมาลงนั้นไม่เคยปรากฏสู่สายตานักท่องเว็บด้วยซ้ำ Google ได้ศึกษาสถิติเกี่ยวกับ "การมองเห็นได้" (viewability) ของโฆษณาบนแพลตฟอร์มตนเอง และสรุปมาเป็น infographic ชื่อว่า 5 Factors of Viewability ว่าด้วยเรื่องปัจจัยในการทำโฆษณาให้มีโอกาสเข้าถึงผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น โดยนำเอาสถิติของโฆษณาบนแพลตฟอร์มตนเองมาประกอบคำอธิบาย ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ 56.1% ของโฆษณาทั้งหมดไม่ปรากฏต่อสายตาของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต เพราะอยู่ในตำแหน่งนอกพื้นที่แสดงผลของหน้าต่างเว็บเบราว์เซอร์ พื้นที่โฆษณาที่มีคนมองเห็นมากที่สุด คือบริเวณเหนือ fold เล็กน้อย (หมายถึงเหนือขอบล่างของหน้าจอแรกสุดที่มองเห็นก่อนผู้ใช้งาน scroll เลื่อนดูส่วนล่างของหน้าเว็บ) แบนเนอร์โฆษณาในแนวตั้งมีผู้มองเห็นมากกว่าแบบแนวนอน (เพราะมีช่วงเวลาปรากฏบนหน้าจอนานกว่าในระหว่างการ scroll ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต) โฆษณาที่อยู่ใน fold (อยู่ในบริเวณที่ต้อง scroll เลื่อนลงไปดูจึงจะมองเห็น) มีอัตราการแสดงผลให้ผู้ใช้เห็นที่ 40% จึงไม่ใช่จุดบอดสำหรับการวางโฆษณาเสียทีเดียว อัตราการมองเห็นโฆษณาบนเว็บแต่ละประเภทแตกต่างกันไปตามประเภทเนื้อหาของเว็บ โดย 5 ประเภทของเว็บที่มีอัตราต่ำสุด คือ เว็บเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์, ข่าว, อาหาร, กีฬา และการช็อปปิ้ง ข้อมูลเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนทำเว็บหรือคลุกคลีกับงานการตลาดและการทำโฆษณาบนอินเทอร์เน็ตพอสมควร ทั้งนี้สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมของผลการศึกษาเรื่องนี้โดย Google ได้ที่นี่ ที่มา - Business Insider Advertising, Google