นักวิเคราะห์แนะปี58 ลุยหุ้นใหญ่ จับตากลุ่ม"ทีวีดิจิทัล"พุ่งแรง นายณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ รองกรรมการฝ่ายค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนในปี 58 ว่า ยังต้องพิจารณาฐานดัชนีตลาดหุ้นในปี 57 เป็นปัจจัยสำคัญ หากในช่วงเดือน ธ.ค.ดัชนีปรับขึ้นไปยืนเหนือ 1,610 จุดได้ ช่วงไตรมาส แรกปีหน้า ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเดิมที่ 1,789 จุดได้ ก่อนที่จะพักฐานในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ทั้งนี้ ประเมินแนวรับสำคัญที่ประมาณ 1,520 จุดเป็นฐานสำคัญ แต่หากดัชนีในช่วงเดือน ธ.ค.ไม่สามารถยืนเหนือ 1,610 จุด นักลงทุนควรชะลอการลงทุน และรอซื้อเมื่อดัชนีปรับลดลงแตะระดับที่ 1,550-1,520 จุด "หากดัชนียืนเหนือ 1,610 จุดได้ นักลงทุนยังสามารถเลือกหุ้นซื้อได้ต่อ และรอขายเมื่อดัชนีปรับขึ้นทำจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ แต่ถ้าดัชนีไม่สามารถยืนเหนือ 1,610 จุด ให้ชะลอการลงทุนและรอซื้อเก็บ โดยให้แนวรับแรกที่ 1,550 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,520 จุด เป็นแนวรับสำคัญ โดยในปีหน้ามีโอกาสน้อยที่ดัชนีจะปรับลดลงต่ำกว่า 1,500 จุด เพราะยังมีปัจจัยบวกหลายอย่างคอยหนุนอยู่ โดยคาดว่าจะมีกรอบการแกว่งประมาณ 250 จุด" นายณัฐวัฒน์ ระบุ ดัชนีไม่หลุด1,200จุด รองกรรมการฝ่ายค้าหลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนหลายรายกลัวว่าดัชนีปีหน้าจะแย่ เพราะกำไรบริษัทจดทะเบียนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และจะส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงต่ำกว่า 1,200 จุด แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะต่อให้กำไรบริษัทจดทะเบียนไม่เป็นไปตามคาด แต่ภาคเอกชนคงไม่ยอมให้กำไรของบริษัทตัวเองลดลงจนติดลบแน่นอน ขณะที่ทิศทางราคาน้ำมันที่ยังเป็นขาลงก็เชื่อว่าจะไม่ลดลงไปต่ำกว่า 65-67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเป็นราคาต้นทุนแน่นอน และประการสำคัญ คือ ปี 57 นักลงทุนต่างชาติแทบไม่ได้ซื้อหุ้นในตลาดหุ้นไทยเลย คงไม่มีหุ้นที่จะขายออกมา ขณะที่กองทุนก็คงไม่คิดทุบหม้อข้าวตัวเอง โดยการขายหุ้นทิ้งเช่นกัน "ปีนี้ตลาดหุ้นไทยไม่ได้เชื่อมกับเศรษฐกิจของประเทศมากนัก ใครที่มองว่าเศรษฐกิจชะลอ แต่ดัชนีก็ยังขึ้นต่อเนื่อง ปีหน้าก็เช่นกัน หากรัฐบาลอยากให้เศรษฐกิจดี หรือตลาดหุ้นดี ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่อย่ามาวุ่นวายกับระบบ ปล่อยให้ภาคเอกชนเดินหน้า รัฐบาลคอยสนับสนุน ดูแลเรื่องกฎระเบียบและปราบการทุจริตก็พอ โดยมองว่าเศรษฐกิจปีหน้ายังน่าจะดีได้ต่อเนื่อง" แนะลุยหุ้นใหญ่ นายณัฐวัฒน์ กล่าวอีกว่า กลยุทธ์การลงทุนที่สำคัญในปีหน้า คือ เลือกเล่นหุ้นใหญ่ อย่างกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยมีหุ้นตัวสำคัญ คือ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารกรุงไทย (KTB) โดยมีปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 59 ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้ไม่ดีนัก อาจกระทบกับผลประกอบการธนาคารนั้น มองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะธนาคารพาณิชย์ยังมีรายได้ที่ดีมากจากค่าธรรมเนียม ส่วนกลุ่มที่ปีนี้ราคาไม่ขึ้น อย่าง บมจ.บ้านปู (BANPU) บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC) และ บมจ.การบินไทย (THAI) ปีหน้าจะดีขึ้นมาก เพราะราคาหุ้นในปีนี้ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว กราฟในปีหน้าจะเป็นขาขึ้นที่ดี ขณะที่กลุ่มมีเดีย ปีหน้าจะดีมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำทีวีดิจิทัล อย่าง บมจ.อาร์เอส (RS) บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) บมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (NBC) บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป (NMG) จะดีมาก โดยใครจะดีที่สุดก็ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทไหนจะมีกลยุทธ์การดึงโฆษณาเข้ามาได้มากที่สุด เพราะราคาโฆษณาทีวีดิจิทัลในปีหน้าจะเพิ่มสูงขึ้นมากแน่นอน กลยุทธ์ลุยหุ้นเด็ด รองกรรมการฝ่ายค้าหลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวต่ออีกว่า สำหรับกลยุทธ์ลงทุนหุ้นเด็ดในปีหน้า ให้เลือกลงทุนหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลง 3 ปัจจัย ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น, การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร และการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ หากหุ้นตัวไหนมีการเปลี่ยนแปลง หนึ่งในสามข้อนี้ ถือว่าเป็นหุ้นที่น่าตามลงทุน เพราะการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหม่ การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร หรือการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ จะแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่จะต้องพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะเข้าไปเก็งกำไรเพื่อรอดักข่าว เป็นการลงทุนทางกลยุทธ์เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน "หากบริษัทไหนมีการเปลี่ยนแปลงหนึ่งในสามข้อ นักลงทุนสามารถตามข่าวและเลือกลงทุนได้ พอมีกระแสก็เริ่มตามไล่ตามกราฟทางเทคนิค แต่หากตามแล้วไม่เป็นไปตามกระแสก็ขายทิ้ง เพราะอย่างไรก็กำไรแล้ว" สำหรับการลงทุนในหุ้นเล็กปีหน้ายังสามารถลงทุนได้ แต่ผลกำไรคงไม่ดีเท่าปี 57 โดยแนะนำให้เล่นหุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ และราคายังไม่ขึ้นแรง ส่วนหุ้นตัวเดิมที่ยังติดอยู่ แนะนำให้ตัดใจขายทิ้ง ขณะที่หุ้นไอพีโอในปีหน้ายังสามารถลงทุนได้ แต่คงไม่ร้อนแรงเท่าปีนี้ หากราคาชนเพดานสูงสุด 200% แล้ว ให้ขายทิ้ง ไม่แนะนำให้ลงทุนต่อ "หุ้นเล็กปีนี้ดีมาก มีเสี่ยกับเซียนหุ้นเกิดมากมาย แต่ปีหน้าคงไม่ดีเท่าปีนี้แล้ว เพราะปี 57 เป็นการไต่ดัชนีจากระดับต่ำขึ้นมา ทำให้เราได้เห็นราคาชนเพดานซื้อขายต่อเนื่องติดกันหลายวัน แต่ปี 58 คงไม่เห็นแบบนั้นอีกแล้ว หากขึ้นชน 200% ก็อย่าไปยุ่ง ให้ขายทิ้งไปเลย กลยุทธ์สำคัญ คือ เลือกเล่นหุ้นใหญ่ อย่าเล่นหุ้นเล็ก เดี๋ยวเงินจะไม่เหลือ ปีหน้าได้เห็น 1,789 จุดอีกครั้งแน่นอน" รองกรรมการฝ่ายค้าหลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวทิ้งท้าย Tags : ณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ • สังเวียนหุ้น