'ไทยบีเอ็มเอ'เผย11เดือน ต่างชาติทิ้งบอนด์3หมื่นล.

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 6 ธันวาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ไทยบีเอ็มเอ เผยเดือนพ.ย. เงินต่างชาติไหลออกสุทธิ 7.9 พันล้าน ส่วนต้นปีถึงปัจจุบันออกสุทธิเฉียด 3 หมื่นล้าน

    ขณะที่บางส่วนโยกลงทุนตราสารระยะยาว ชี้ปัจจุบันมูลค่าซื้อสะสมแตะ 1 แสนล้าน คิดเป็น 91% ด้านนักลงทุนส่วนใหญ่มองดอกเบี้ยนโยบายทรงตัวยาว มี 10% ที่คาดปรับลดลงในเดือนนี้

    นายสุชาติ ธนฐิติพันธ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ไทยบีเอ็มเอ) เปิดเผยว่า เดือนพ.ย.2557 มีเงินต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้สุทธิ 7,900 ล้านบาท โดยเป็นการไหลออกจากตราสารหนี้ระยะสั้น 13,300 ล้านบาท แบ่งเป็นการขายตราสารหนี้ระยะสั้น 5,600 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ครบอายุไป 7,700 ล้านบาท ขณะเดียวกัน มีการซื้อตราสารหนี้ระยะยาว 5,400 ล้านบาท

    ทั้งนี้หากนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันพบว่ามีเงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้สุทธิ 29,600 ล้านบาท โดยเป็นการไหลออกจากตราสารหนี้ระยะสั้น 89,200 ล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อตราสารหนี้ระยะสั้น 138,600 ล้านบาท ในขณะที่มีตราสารหนี้ครบอายุไป 227,800 ล้านบาท และมีการซื้อตราสารหนี้ระยะยาว 59,600 ล้านบาท

    ทำให้ล่าสุดนักลงทุนต่างชาติถือครองตราสารหนี้ไทยรวมกว่า 679,800 ล้านบาท เป็นสัดส่วนของตราสารหนี้ระยะสั้น 9% และตราสารหนี้ระยะยาว 91%

    “เงินต่างชาติยังไหลเข้าในตราสารหนี้ระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (มิ.ย.-พ.ย.) มียอดซื้อสะสม 100,300 ล้านบาท ในขณะที่ 5 เดือนแรก (ม.ค. - พ.ค.) มียอดขายสะสม 41,000 ล้านบาท และในช่วงเดือนสุดท้ายของปีเชื่อว่าทิศทางยังเป็นเหมือนเดิมแต่ปริมาณการซื้อขายอาจจะชะลอตัวลงเพราะเข้าสู่ช่วงเทศกาลหยุดยาวของต่างชาติแล้ว”

    นายสุชาติ ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะยาวปรับตัวลงเฉลี่ยตลอดทุกช่วงอายุประมาณ 0.20% โดยปรับตัวลงมากในช่วงอายุ 6 - 10 ปี ซึ่งเป็นช่วงของตราสารหนี้ในรุ่นอ้างอิง ไม่ได้มีการออกประมูลในเดือนพ.ย. นี้ ทำให้อัตราผลตอบแทนปรับตัวลงไปเฉลี่ย 0.30%

    ปัจจุบันต่างชาติถือครองตราสารหนี้อายุเฉลี่ยประมาณ 6.5 ปี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมุมมองต่อทิศทางดอกเบี้ยในประเทศว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นและมีโอกาสปรับตัวลงได้ ทำให้มีการปรับพอร์ตมายืดอายุของตราสารหนี้ที่ลงทุนเพิ่มขึ้น และล่าสุดจากการสำรวจนักลงทุนสถาบันที่ลงทุนในตลาดตราสารหนี้ที่มีต่อมุมมองดอกเบี้ยในประเทศพบว่าประมาณ 90% มองว่าดอกเบี้ยจะทรงตัวจนถึงกลางปีหน้า ในขณะที่มี 10% ที่มองว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงการประชุมครั้งสุดท้ายในเดือนธ.ค.นี้

    “ในส่วนของแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นในช่วงกลางปีหน้านั้น แต่ละประเทศจะปรับดอกเบี้ยขึ้นตามหรือไม่นั้นขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศนั้นๆ เอง ปัจจุบันส่วนต่างผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐและไทยอายุ 10 ปี ยังต่างกันอยู่ประมาณ 1.0% ซึ่งถือว่ายังมีส่วนต่างกันมากพอสมควรแม้สหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแต่ส่วนต่างก็ยังมากเพียงพอที่ทำให้ไทยเองไม่จำเป็นต้องปรับดอกเบี้ยตามได้ แต่ถ้าส่วนต่างลดลงและเข้ามาใกล้กันมากอาจจะต้องพิจารณาปรับดอกเบี้ยขึ้นเพื่อไม่ให้เงินทุนไหลออกจากประเทศด้วยเช่นกัน”

    นายสุชาติ กล่าวเสริมว่า ในเดือนพ.ย.2557 นี้ มีหุ้นกู้ออกใหม่ 8,000 ล้านบาท และนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมียอดออกรวมกันแล้ว 520,000 ล้านบาท ซึ่งในเดือนธ.ค.2557 นี้ มีแผนที่จะออกอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท ดังนั้นจบสิ้นปียอดออกหุ้นกู้ทั้งปีไม่น่าจะต่ำกว่า 530,000 ล้านบาท ได้

    Tags : ตลาดตราสารหนี้ไทย • ไทยบีเอ็มเอ • สุชาติ ธนฐิติพันธ์

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้