ผู้เชี่ยวชาญประเมินปีหน้าราคาทองคำเริ่มฟื้น อาจเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากมูลค่าลดลงเกือบ 40% จากเดือนก.ย.ปี2554 ด้าน"มาร์ค ฟาเบอร์" เชื่อราคาทองคำปีหน้าปรับขึ้น พร้อมแนะนักลงทุนถือทองคำไว้บ้าง นายจอร์จ เกโร ผู้เชี่ยวชาญการเทรดทองคำ จากอาร์บีซี แคปิตอล มาร์เก็ตส์ ให้ความเห็นว่าแนวโน้มราคาทองคำในปี 2558 น่าจะฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากที่ปรับลดลงอย่างมากจากระดับ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มาอยู่ที่ระดับ 1,150 ดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่ากองทุนหลายแห่งพากันผละจากทองคำ และวิ่งไปหาสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนดีกว่า ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ และแนวโน้มนี้ยังมีต่อเนื่อง ซีเอ็นบีซีให้ข้อมูลว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่ใช่ปีที่ดีของทองคำ เพราะนับตั้งแต่ที่ราคาทองคำเคยขึ้นไปทำสถิติสูงสุดที่ระดับ 1,923.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในเดือน ก.ย.ปี 2554 หรือเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ราคาทองคำร่วงลงเกือบ 40%แล้ว ทั้งนี้ในปี 2557 ราคาทองคำไม่ได้รับแรงหนุนจากการแข็งค่าของดอลลาร์ เพราะค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินอื่นๆ เมื่อมูลค่าของดอลลาร์เพิ่มขึ้นหมายถึงมูลค่าของทองคำก็ลดลงด้วย นายเกโรยอมรับว่า การลดลงของราคาน้ำมัน ในขณะกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน หรือ เอเปค ไม่สามารถดำเนินการในแนวทางช่วยบรรเทาปัญหาราคาน้ำมันลดลง ซึ่งเป็นภาวะไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ และเขาเพิ่มเติมว่านักลงทุนจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เกิดขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของผู้กำหนดนโยบายในยุโรป จีนและญี่ปุ่น นายเกโรกล่าวว่าราคาทองคำในปีหน้าน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,300-1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ในเดือนธ.ค.ปี 2556 นายเกโรเคยคาดการณ์ไว้ว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,300 ดอลลาร์ ในไตรมาสแรกปี 2557 ซึ่งปรากฎว่าราคาทองคำในช่วงเวลานั้น สามารถไต่ขึ้นมาใกล้ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนถึงสิ้นเดือนมี.ค.ปีนี้ ก่อนหน้านี้ นาย มาร์ค เฟเบอร์ กูรูการลงทุนชื่อดังระดับโลก ยอมรับว่าราคาทองในปีนี้อาจลงอีก สวนทางกับราคาหุ้นในตลาดหลายแห่งรวมถึงสหรัฐที่กลับมามีราคาค่อนข้างแพง ในส่วนอื่นๆ ของโลกราคาหุ้นอาจลงชั่วคราว แต่หลังจากนั้นจะกลับมาปรับขึ้น ในภาวะแวดล้อมที่ธนาคารกลางทั่วโลกต่างพิมพ์เงินเข้าสู่ระบบ ธนาคารหลายแห่งในยุโรปกับญี่ปุ่นมีดอกเบี้ยเงินฝากแท้จริงเป็นศูนย์ อัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรอายุ 10 ปีในฝรั่งเศสอยู่ที่ 1.22% พันธบัตรญี่ปุ่นอยู่ที่ 0.5% ในสวิตเซอร์แลนด์อยู่ที่ 0.43% สะท้อนได้ว่านักลงทุนอยู่ในภาวะแวดล้อมดอกเบี้ยต่ำมาก ดังนั้นนักลงทุนในทองคำบ้างแต่เขาไม่ได้แนะนำให้เอาเงินลงทุนทั้งหมดซื้อทองคำ นายฟาเบอร์คิดว่าหลังจากราคาทองคำปรับลงไปช่วงหนึ่ง ในที่สุดจะปรับขึ้น ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกพิมพ์เงินออกมา และโลกตอนนี้อยู่ในภาวะแวดล้อมดอกเบี้ยต่ำอย่างมาก นักลงทุนควรมีทองคำไว้บ้างและอาจกระจายความเสี่ยงลงทุนหุ้นบ้าง โดยเฉพาะหุ้นไทยสามารถเข้าไปเลือกหาหุ้นที่ให้เงินปันผลดีราว 5% และมีหุ้นบางตัวให้ผลตอบแทนดีมากกว่า 5% เขายังกล่าวถึงความเสี่ยงสำหรับเศรษฐกิจโลกและไทยในปีหน้า คือความเสี่ยงจากภูมิศาสตร์การเมืองในตะวันออกกลางและส่วนอื่นของโลก รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยเขาแนะนำด้วยว่าในพอร์ตของเขาถือหุ้นไทยไว้บ้าง เพราะหุ้นไทยให้ปันผลเฉลี่ยราว 5%หรือมากกว่านั้น หากให้แนะนำสัดส่วนพอร์ต นักลงทุนอาจถือทองไว้ 25% อสังหาริมทรัพย์ 25% หุ้น 25%และเงินสดกับตราสารหนี้อีก 25% Tags : ทองคำ • กูรู • ราคา • ซีเอ็นบีซี • ดอลลาร์ • ธนาคาร • เศรษฐกิจ