น้ำมันลดกดต้นทุนพลังงาน ปลุกกำลังซื้อ-ท่องเที่ยวขยับ

ผู้ผลิตสินค้า ชี้ราคาน้ำมันลด ช่วยปลุกการจับจ่าย ลดต้นทุนขนส่ง เล็งดึงเงินส่วนต่าง อัดโปรโมชั่นสินค้ามากขึ้น

ด้านผู้ประกอบการรถโดยสารท่องเที่ยว รับช่วยลดภาระต้นทุนพลังงาน ระบุมีส่วนทำให้การท่องเที่ยวด้วยตัวเองขยายตัว ชี้ปัญหาใหญ่ตลาดท่องเที่ยวต่างชาติไม่ฟื้น

ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนพลังงานในธุรกิจขนส่ง และการผลิตสินค้าปรับตัวลดลงแม้จะไม่มากนัก แต่ถือว่ามีส่วนกระตุ้นกำลังซื้อ และการท่องเที่ยวด้วยตัวเองให้เพิ่มมากขึ้น ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการบริษัท บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด กล่าวว่า ราคาน้ำมันดีเซล เบนซิน ที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีกำไรต่อหน่วย (มาร์จิ้น) มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยกระตุ้นผู้บริโภคให้ต้องการออกจากบ้านมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เพราะเมื่อราคาพลังงานลดลง ย่อมทำให้ต้นทุนในการเดินทาง การขนส่งลดลงตามไปด้วย

ทั้งนี้ สหพัฒน์ฯยังคงไม่ปรับราคาสินค้า เนื่องจากคาดการณ์ว่าราคาพลังงานจะปรับลดลงชั่วคราวเท่านั้น ขณะที่ผู้ประกอบการภาคขนส่งก็ยังไม่ลดค่าบริการลง เพราะต้องนำไปดูดซับกับต้นทุนพลังงานที่เคยอยู่ในระดับสูงในช่วงที่ผ่านมา

"อานิสงส์จากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับลดลง คือทำให้ธุรกิจเรามีกำไรมากขึ้น แต่ก็คงชดเชยกับทั้งปีที่ยอดขายและรายได้ลดลงไม่ได้ ขณะเดียวกันราคาพลังงานที่ลดก็ไม่ได้ทำให้ผู้ประกอบการลดราคาสินค้า แต่อานิสงส์อีกด้านที่จะได้จากราคาพลังงานที่ลดลง คือจะเป็นปัจจัยบวกกระตุ้นให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยนอกบ้านมากขึ้น"

ธุรกิจมีเงินเหลืออัดโปรโมชั่น

นายถกล นิยมไทย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลง เช่น ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับลดลง ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการลดลง ทำให้อาจมีเงินเหลือ เพื่อนำไปจัดกิจกรรมทางการตลาด โปรโมชั่นเพิ่มขึ้น แต่ยอมรับว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้ ยังเป็นอัตราต่ำ ราว 1-2% เท่านั้น ยังไม่เอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ แต่หากลดถึงอัตรา 2 หลัก หรือ 10-20% อาจมีโอกาสเห็นการ "หั่นราคาสินค้า" ลงเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ น้ำมันเบนซินที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวจะได้รับอานิสงส์ค่อนข้างมาก ประกอบกับ ช่วงไตรมาสสุดท้ายเป็นไฮซีซั่น เมื่อประชาชนมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น ราคาน้ำมันลดลง ก็อาจจะเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น

"ราคาน้ำมันที่ลดลงในขณะนี้ ยังไม่เชื่อมโยงกับภาคธุรกิจมากนัก เมื่อเทียบกับเมื่อตอนน้ำมันแพง ที่จะจัดโปรโมชั่นซื้อสินค้าแล้วแถมบัตรเติมน้ำมัน แต่ยอมรับว่าราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการลดลง อาจมีเงินไปใช้ในการทำโปรโมชั่นมากขึ้น และหากแนวโน้มราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง 3-5 เดือนข้างหน้า ประกอบกับรัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นตัว ก็อาจส่งผลดีต่อภาคธุรกิจมากขึ้น"

ลุ้นท่องเที่ยวลดแพ็คเกจทัวร์

ด้านนายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันลดลงส่งผลดีต่อด้านท่องเที่ยว เนื่องจากทำให้ต้นทุนในด้านการเดินทางลดลง โดยปัจจุบันอัตราการใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงคิดเป็น 10% ของต้นทุนการบริการด้านท่องเที่ยวทั้งหมด และอาจทำให้ผู้ประกอบการไปลดราคาแพ็คเกจลงได้ ซึ่งไม่เกินอัตราราว 5%

ทั้งนี้ ยอมรับว่าอาจจะเป็นผลดีในทางจิตวิทยาสำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนขับรถเที่ยวเองมากกว่าประเภทกรุ๊ปทัวร์ เนื่องจากในส่วนของบริการทัวร์ ยังมีต้นทุนด้านพลังงานอื่นๆ ที่แฝงเข้ามากับการให้บริการอีกจำนวนมาก อาทิ พลังงานแก๊สสำหรับธุรกิจอาหาร ที่ปัจจุบันพบว่ามีแต่จะเพิ่มอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้ต้นทุนด้านอาหารไม่สามารถลดลง เพราะผู้ประกอบการด้านอาหารเองก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงถือว่าเป็นการช่วยบรรเทาต้นทุนที่ไม่ครบทั้งองค์ประกอบ และไม่มีผลกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวโดยตรงมากนัก

นอกจากนั้น ต้องการให้รัฐบาลพิจารณาเกณฑ์การจัดเก็บเงินเข้าสู่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้รอบคอบ เพราะปัจจุบันในภาคขนส่งเพื่อบริการนักท่องเที่ยวนั้น ยังจำเป็นต้องพึ่งรถที่ใช้พลังงานน้ำมันสูง เนื่องจากพลังงานทดแทนอย่างก๊าซเอ็นจีวีนั้น ยังออกมาให้บริการได้จำกัด เพราะ 1.ขาดจุดให้บริการก๊าซที่ครอบคลุมเส้นทาง และ 2.ความเชื่อมั่นของผู้โดยสารต่อรถที่ติดก๊าซนั้นยังมีไม่มาก

“อยากให้พิจารณาเรื่องการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯให้ดี และมองผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภาคการท่องเที่ยว และภาคการเกษตรที่ยังมีบริการในห่วงโซ่ที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งต่างยังต้องพึ่งพาการขนส่งค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดกรุ๊ปทัวร์ยังไม่ฟื้นกลับเข้ามา" นายยุทธชัย กล่าว

ขนส่งชี้ช่วยลดต้นทุน

นายจิรเดช ห้วยหงษ์ทอง อุปนายกสมาคมรถโดยสารไม่ประจำทาง กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันปรับลดลงต่อเนื่องตามราคาตลาดโลกนั้น มีส่วนช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการรถโดยสารบริการนักท่องเที่ยวได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่มากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังประสบปัญหาตลาดท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นกลับมาเป็นปกติ โดยปัจจุบันรถโดยสารที่มีอยู่ราว 1.2-1.3 หมื่นคันทั่วประเทศ มีอัตราส่วนการใช้งานเพียง 60% เท่านั้น ตามการกลับมาของบางตลาด อาทิ จีน และอาเซียน ดังนั้น ปลายปีนี้จึงนับเป็นช่วงไฮซีซันที่ตลาดอ่อนตัวมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

สำหรับปีนี้ ถือว่าสถานการณ์ธุรกิจหนักกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากปีที่ผ่านมาแม้จะมีการชุมนุมทางการเมือง แต่ผู้ประกอบการยังได้อานิสงส์จากการรับส่งผู้ชุมนุมจากภาคต่างๆ เดินทางเข้า-ออกกรุงเทพฯ ต่างจากปีนี้มาต้องพึ่งพาตลาดท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ซึ่งยังไม่กลับมาเป็นปกติ โดยเฉพาะตลาดประชุมสัมมนาของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจในประเทศ ที่รัฐบาลประกาศให้อุดหนุนการท่องเที่ยวในประเทศนั้น ปรากฏว่ายังไม่เห็นการเดินทางออกมาเป็นรูปธรรม หรือเห็นตลาดคึกคักตามนโยบายกระตุ้น ซึ่งไม่ทราบสาเหตุว่าเป็นเพราะติดขัดเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณหรือไม่ อย่างไร

“การลดราคาน้ำมันดีเซล ช่วยต้นทุนได้ส่วนหนึ่ง สำหรับรถบัสที่ใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ราว 70% ส่วนที่เหลืออีก 30% เป็นรถที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวี จะไม่ได้รับอานิสงส์อยู่แล้ว อีกทั้งกำลังเผชิญปัญหาราคาก๊าซที่ปรับขึ้นต่อเนื่องจาก 8.5 บาท เป็น 12.5 บาทต่อกิโลกรัม และรถเอ็นจีวีส่วนใหญ่จะใช้บริการวิ่งรับส่งแหล่งท่องเที่ยวในภาคกลาง เป็นหลัก เพราะต้องอยู่ในเส้นทางที่สะดวกในการเข้าถึงปั๊มเอ็นจีวี ซึ่งในขณะนี้เส้นทางภาคกลาง อาทิ กรุงเทพฯ-พัทยา เป็นที่นิยมมากที่สุดของกรุ๊ปนักท่องเที่ยว ดังนั้น การลดราคาน้ำมัน จึงไม่ได้มีผลต่อภาพรวมของธุรกิจท่องเที่ยวมากนัก"

จี้รัฐลดภาระผ่อนชำระค่างวด

นายจิรเดช กล่าวด้วยว่า สิ่งที่สมาคมฯได้ยื่นขอเรียกร้องหน่วยงานทางการเงินของภาครัฐไปแล้วก็คือ การขอให้มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่มีภาระผ่อนชำระค่างวด เนื่องจากในช่วงที่ตลาดท่องเที่ยวเติบโตสูงสุดเมื่อต้นปี 2556 ส่งผลให้จำนวนรถบัสไม่พอใช้รองรับตลาดต่างประเทศที่เข้ามาจำนวนมาก จึงกระตุ้นให้ภาคเอกชนลงทุนจัดซื้อรถบัสเข้ามาเพิ่มในตลาด ด้วยการผ่อนชำระระยะยาว 5 ปีขึ้นไป

แต่หลังจากนั้นไทยประสบปัญหาตลาดท่องเที่ยวชะลอตัวลง จึงมีผู้ประกอบการหลายรายเลิกกิจการโดยยอมปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึดรถ เนื่องจากไม่มีความสามารถชำระค่างวด โดยสำรวจจากสมาชิกปัจจุบัน มีปัญหาดังกล่าวมีมากกว่า 2,000 คันทั่วประเทศ ยังไม่รวมกับปัญหาการติดหนี้นอกระบบ

Tags : ราคาน้ำมัน • บุญชัย โชควัฒนา • สหพัฒนพิบูล • สินค้า • พลังงาน • มาร์จิ้น • โปรโมชั่น • โตชิบา • แพ็คเกจ • กำลังซื้อ • ท่องเที่ยว