หนุ่ม 'อ่ำ อัมรินทร์' รับขอหย่าจอย เผยเป็นหนี้ 7 ล้าน ยันสภาพจิตใจดี ยินดีหากฝ่ายหญิงมีคนใหม่ เล็งทำธุรกิจใหม่ที่บุรีรัมย์ ก่อนหน้านี้มีข่าวหย่าร้างของคู่รักร็อกเกอร์หนุ่ม " อ่ำ อัมรินทร์" และสาวจอย หลังทั้งคู่แต่งงานมา 12 ปี และมีโซ่ทองคล้องใจหนึ่งคนอย่างน้องแอลลี่ งานนี้เจอตัวหนุ่มอ่ำที่มาร่วมรายการทไวท์ไลท์โชว์ ณ สตูดิโอ เหม่งจ๋าย โดยหนุ่มอ่ำเปิดใจถึงเรื่องทั้งหมดว่า "ตอนนี้สภาพจิตใจดีมากครับ ทั้งจอยและแอลลี่ดีขึ้นมากครับ แต่มีเหตุกระทบที่ว่าในสังคมออนไลน์ทั้งหลายมีการกล่าวหากัน เนื่องจากเค้าไม่ทราบนะครับว่าเรามีการตกลงกันแล้วว่าขอตกลงแยกทางกัน แต่เรื่องมันคาราคาซังกันมา ผมก็ไม่มีโอกาสที่จะมาอธิบายกับพี่ๆ สื่อมวลชนเป็นตัวแทน เอาเรื่องราวของเราไปให้สาธารณะชนรู้เรื่อง ก็เลยเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนทำให้จอย และแอลลี่ รวมไปถึงผมไม่สบายใจด้วย จึงขอพี่ต๋อย ไตรภพ มาอธิบายเรื่องราวต่างๆ ในวันนี้ครับ เรื่องทั้งหมดมันเกิดมาจากผมในการที่อยากจะทำงานมากให้สำเร็จ เพื่อความสำเร็จที่จะได้มาซึ่งรายได้ให้กับคนรอบข้าง กลายเป็นเรื่องราวที่เลยเถิดจนถึงขั้นคิดไปเองว่าภาระหนี้สินที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า มีการประเมินอยู่แล้วว่าต้องเกิดปัญหาแน่ๆ เพราะว่าที่หวังและคิดไว้ไม่เป็นไปตามที่คิด ปัญหาหนี้สินต้องเกิดขึ้นแน่ๆ ก็เลยตัดสินใจว่าไม่อยากให้จอยเข้ามารับภาระหนี้ อันที่สองคือความรู้สึกที่ขัดแย้งมาสะสม ในเรื่องของการทำงานด้วยกัน จอยก็ได้เข้ามาช่วยดูแลหลังจากแต่งงานด้วยกัน ก็มาช่วยดูแลเรื่องการทำรายการทีวี ก็มีปัญหาเกิดขึ้นในการทำงาน และเป็นปัญหาที่เก็บสะสมด้วยความที่ไม่เข้าใจ ด้วยความที่ไม่พูดคุยหรือว่าอธิบาย แต่อาจจะมีบางเรื่องอธิบายได้บ้าง ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำๆ ก็จะขุดฟื้นฝอยหาตะเข็บ รื้ออะไรขึ้นมาจนทำให้เป็นระยะห่างขึ้นมาเรื่อยๆ จนทำให้ตัดสินใจตกลงหย่ากัน คิดว่าจะได้หยุดปัญหาของเราที่สะสมกันมา 13 ปีที่มีเยอะอยู่พอสมควร ในเรื่องของความขัดแย้งหรือว่างานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ต้องเข้าใจนะครับว่าสามีภรรยาทำงานด้วยกัน พอเกิดปัญหามามันจะห่าง และพอกกันมาจนในที่สุดก็ต้องหย่ากันไป สำหรับเรื่องหนี้จริงๆ เรามีทรัพย์สินกันอยู่นะครับ ที่ลงไปในเฟสบุ๊คว่ามีบ้าน รถยนต์เยอะมาก มีที่เก็บสะสมกันอยู่บ้าง แต่ที่ตัดสินใจขายไปผมก็บอกให้จอยทราบว่าต้องการจะเอาไปทำธุรกิจนี้มั้ย ที่บุรีรัมยเดี๋ยวมีสนามแข่งด้วย และจะมีโรงแรมหรือว่าอะไรเวลานักแข่งมาแข่ง เกิดการคิดอยากจะขายบ้านเพื่อชำระหนี้สินที่ติดค้างใครไว้ เป็นเงินลงทุนต่อไปและจะได้ไปซื้อคอนโดใกล้ๆ กับจอยย่านสาทร เพื่อแบ่งเบาภาระจอยในการไปส่งแอลลี่ไปโรงเรียน หนี้สินก็ประมาณ 7 ล้าน แต่ตอนนี้มีเพื่อนมาซื้อไปหมดแล้วครับ เมื่อวานเพิ่งคุยกับเพื่อนเพราะเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวเค้าซื้อเองและบอกให้เราอยู่ไปก่อน บ้านกับรถที่ขายได้รวมกันก็ประมาณ 25 ล้านได้ครับ แต่มีติดแบงค์ในเรื่องของการผ่อนบ้านประมาณ 8 ล้าน ที่เหลือก็เป็นเงินลงทุนต่อและกันเงินในส่วนทุนการศึกษาของแอลลี่ด้วย แต่เพื่อนก็ดีที่ให้อยู่และก็มีธุรกิจที่จะทำร่วมกัน ก็มีลู่ทางและมีโอกาสที่จะได้ทำงานต่อไปและเป็นแผนงานที่ทำร่วมกับเพื่อนๆ ด้วย แต่จอยรู้หมดและรู้ทุกเรื่อง ตอนนี้ผมเฉยๆ เพราะคิดว่าสภาพจิตใจ ต้องทำด้วยความสบายใจ ผมคิดว่ามันน่าจะคลี่คลายในห้วงของกรรม ในการที่รับทุกข์จากการทรมานผิดหวังต่างๆ นานา ตอนนี้สภาพจิตใจดีมาก เดี๋ยวก็มีความสำเร็จตามเข้ามา เหมือนที่เค้าบอกว่าปีนี้เป็นปีชงนะ อย่างวันนี้จอยกับแอลลี่เค้ามาที่บ้าน เดี๋ยวผมก็ต้องรีบกลับไปแล้ว จอยพาลูกมาอยู่กับผมเดี๋ยวคงพาไปกินข้าวและก็พาไปเที่ยว ตอนนี้ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกว่าเดิม ไปหาคุณจอยที่บ้าน ไปทานข้าวด้วยกัน มีการปรึกษากันเรื่องต่างๆ ความรู้สึกตอนนี้ดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ ถือว่าตอนนี้เป็นความรู้สึกที่ดีกว่าตอนอยู่ด้วยกันอีก มีความรู้สึกคิดถึง ห่วงกัน เข้าใจกันมากกว่าตอนที่อยู่ด้วยกัน อนาคตข้างหน้าก็ไม่แน่แต่ผมไม่ได้ไปไหน ก็ยังอยู่ที่นี้ไม่ได้ไปมีอะไรอีกเลย แค่คิดว่าอยากจะทำงานให้สำเร็จสักทีตามที่คิดไว้ พอสำเร็จและทุกอย่างคลี่คลาย พอวันนึงมีการเปลี่ยนแปลงไปข้างหน้าก็ต้องเป็นเรื่องอนาคต ก็ยังแอบหวังอยู่เล็กๆ ว่าถ้าเราทำดีเค้าก็กลับมา ถ้าไม่ดีเค้าก็ไม่กลับมา แอลลี่เค้าก็ดีใจเวลาเห็นเราอยู่ด้วยกัน 3 คน มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่า การที่เรานั่งอยู่ด้วยกันทุกวันแล้วไม่รู้สึกอะไรเลยมันก็ไม่มีค่า อย่างนี้มันคุณค่าที่จะอยู่และความสบายใจที่จะเป็นก็เป็นอยู่แบบนี้ไปก่อน วันนึงข้างหน้าไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง เรื่องเปิดรับคงไม่มีหรอกครับ แต่ถ้าสำหรับคุณจอยก็เต็มที่เลยครับ ขอให้สบายใจที่สุด ขอให้ลูกสบายใจที่สุดแค่นั้นพอ ถ้าทุกข์ใจขอให้บอก โทรเรียกเดี๋ยวนั้น เดี๋ยวจัดการให้แน่นอน อย่างเมื่อกี้ฟังพระอาจารย์เทศน์ก็ทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น ไม่ยึดติดกับอะไรทั้งนั้นครับ ช่วงที่ผ่านมาใช้กีฬาและการทำเพลงช่วยเรื่องทำใจ ช่วงที่ผ่านมาถามว่าเป็นช่วงที่ล้มเหลวมั้ย ก็ถือว่ามันส์ดีนะ ชีวิตจะมีแค่สุขก็คงไม่ใช่ พอไม่ทุกข์ก็จะไม่รู้คุณค่าของความสุขว่ามันดีขนาดไหน ไม่เสียดายเรื่องราวที่ผ่านมา รู้สึกดีที่เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เป็นการปรับความเข้าใจอย่างแท้จริง เป็นการดำเนินชีวิตอย่างเข้าใจ เวลามันย้อนไม่ได้เอาอนาคตดีกว่า ทำให้มันสำเร็จขึ้นในตัวดีกว่า ผมยังรักเค้ามาอยู่ครับ เพิ่งรู้ว่ารักมากด้วย ระยะห่างมันทำให้ผมมองเห็นครับ เรื่องที่คนทักว่าไม่จากเป็นก็จากตาย คิดว่าเป็นเรื่องของหมอดู เราเองก็คิดอยู่เหมือนกันว่ามันจริงรึเปล่านะ เรื่องของโชคชะตา โอเค คนเราเกิดมาคู่กันยังไงก็ต้องจากกัน จากกันตอนนี้มันเป็นอยู่ก็จากกันแต่ก็ยังเห็นกันอยู่มันดีกว่ามั้ย คือไม่เชื่อหรอกครับ แต่ว่าเอาหลายๆ อย่างมาลองแก้เคล็ดไปด้วย(หัวเราะ) ผมเป็นคนคิดมากและเอาหลายอย่างมาประกอบในการตัดสินใจ และคิดว่าการตัดสินใจของผมที่ตัดสินใจเป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะว่าสิ่งที่ได้คือความรักและความเข้าใจอย่างแท้จริง อยากจะให้เค้าสบายใจ ไม่ใช่การไปกีดกั้นให้เค้าเป็นทุกข์"